พระราชสีมาภรณ์ (นวล เขมสจฺจวาที)
พระราชสีมาภรณ์ (นวล เขมสจฺจวาที)
(17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481-6 สิงหาคม พ.ศ. 2554 สิริอายุ 73 ปี)
รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา, เจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง) และที่ปรึกษารองอธิการบดีวิทยาเขตนครราชสีมา
ชาติกำเนิด พระราชสีมาภรณ์ (นวล เขมสจฺจวาที) มีนามเดิมว่า นวล เสมสันเทียะ เกิดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481
บิดา-มารดา บิดาชื่อ นายแบน เสมสันเทียะ มารดาชื่อ นางหมิ เสมสันเทียะ
สถานที่เกิด 5 หมู่ที่ 4 ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา
การศึกษา บรรพชา และอุปสมบท
- บรรพชา วันที่ 12 กรกฎา่คม พ.ศ. 2497 ณ วัดโคกสวาย ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา พระอุปัชฌาย์ พระสีหราชสมาจารมุนี (เพ็ง คงฺคปัญฺโญ) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา วัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
- อุปสมบท วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 ณ วัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พระอุปัชฌาย์ พระสีหราชสมาจารมุนี (เพ็ง คงฺคปัญฺโญ) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา วัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
วิทยฐานะ
- พ.ศ. 2495 สำเร็จการศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนประชาบาล บ้านโคก ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา
- พ.ศ. 2499 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษาวัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
- พ.ศ. 2519 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 7 ประโยค สำนักศาสนศึกษาวัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
- พ.ศ. 2541 ได้รับการประทานปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
การศึกษาพิเศษ สามารถเขียน-อ่านอักษรขอมได้เป็นอย่างดี
ความสามารถพิเศษ เป็นพระธรรมกถึก วิทยากร ปาฐกถา บรรยายธรรม นักอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และภาพจิตกรรม
ตำแหน่งงานปกครองคณะสงฆ์
- พ.ศ. 2519 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
- พ.ศ. 2524 เจ้าคณะตำบลโพธิ์กลาง ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
- พ.ศ. 2525 พระอุปัชฌาย์ประจำตำบลโพธิ์กลาง ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
- พ.ศ. 2529 รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา
- พ.ศ. 2534 รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบึง
- พ.ศ. 2534 เจ้าอาวาสวัดบึง
- พ.ศ. 2539 เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง)
- 21 สิงหาคม พ.ศ. 2539 เป็นเจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง)
สมณศักดิ์
- พ.ศ. 2535 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระกิตติรามมุนี (สป.)
- พ.ศ. 2546 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระราชาคณะชั้นราชในราชทินนามที่ พระราชสีมาภรณ์ตรีปิฎกวราลงกรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี
วัดบึง
ประวัติความเป็นมา
พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2220 สังกัดมหานิกาย สร้างในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2230 เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง สันนิษฐานว่า เป็นวัดที่เจ้านาย หรือ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่สร้างขึ้น จึงมีสมญานามว่า วัดบึงขุนนาง เพราะมีหลักฐานทางโบราณคดีทั้งทางด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม ภายในวัดประกอบด้วย ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เช่น พระอุโบสถ ตู้พระะรรม และภาพจิตรกรรม เป็นต้น น่าจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดบึง เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2539 โดยเหตุที่วัดแห่งนี้ในอดีตตั้งอยู่กลางบึง จึงเรียงขานกันว่า วัดบึง จนถึงปัจจุบัน
ลักษณะวัด พัทธสีมา
ประเภทวัด พระอารามหลวง
อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ ศาลาปฏิบัติธรรม กุฏิสงฆ์ หอกลอง-ระฆัง และหอสมุด
การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ
1. พระวินัยธรนิล พ.ศ. 2320-2350
2. พระวินัยธรมี พ.ศ. 2350-2400
3. พระวินัยธรฉิม พ.ศ. 2400-2445
4. พระปุ๊ก พ.ศ. 2445-2465
5. พระวินัยธรหว่าง พ.ศ. 2465-2482
6. พระมงคลสีหราชมุนี พ.ศ. 2482-2509
7. พระปทุมญาณมุนี พ.ศ. 2510-2534
8. พระกิตติรามมุณี พ.ศ. 2534
9. พระเทพสีมาภรณ์ (นวล เขมสจฺจวาที) พ.ศ. 2534-2554
10. พระราชสีมาภรณ์ (วันชัย กนฺตจารี) พ.ศ. 2554- เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
สิ่งที่น่าสนใจ
- พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนลักษณะฐานแอ่นกลางเป็นรูปสำเภาอันเป็นเอกลักษณ์ศิลปะอยุธยาตอนปลาย เรียกตามภาษาช่างว่า โค้งปากตะเภา หลังคาลด 2 ชั้น ทางสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มุงกระเบื้องดินเผา เสากลมฐานใหญ่ปลายเล็กเรียว ห้วเสาเป็นรูปดอกบัวกลีบยาว จำนวน 14 ต้น หน้าต่างด้านละ 5 ช่อง คันทวยหรือไม้ค้ำยันแกะเป็นรูปพญานาคทั้งแบบนาคประดับลวดลายและนาคเปลือย จำนวน 12 อัน แต่ละอันยาวประมาณ 2 เมตร ประตูหน้า 3 ประตู และประตูหลัง หน้าบันทิศตะวันออกเป็นไม้แกะสลักรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณอยู่ท่ามกลางลายก้านขด หน้าบันทิศตะวันตกเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑท่ามกลาง มีองค์ประกอบครบถ้วนที่ทรงคุณค่าทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม ที่ยังคงความสมบูรณ์ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธด้านสถานปัตยกรรมและจิตรกรรม
- ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถเขียนบรรยายพระพุทธประวัติ จำนวน 14 ภาพ
- พระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตักกว้าง 6 ศอก พระพักตร์ค่อนข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ลักษณะศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย และมีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ลักษณะศิลปะสมัยลพบุรี ขนาดสูง 62 นิ้ว ประดิษฐานรอบองค์พระประธาน จำนวน 6 องค์
- โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-แผนกบาลี-แผนกสามัญ
- ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
- สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 82
ที่อยู่: 82 ถนนจอมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000
ข้อมูลสารสนเทศท้องถิ่นนครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี