เหรียญพระพุทธบาท วัดสามปลื้ม กรุงเทพมหานคร ปี 2498 หลังพระพุฒาจารย์ (มา)

เหรียญพระพุทธบาท วัดสามปลื้ม กรุงเทพมหานคร ปี 2498 หลังพระพุฒาจารย์ (มา)
เหรียญพระพุทธบาท วัดสามปลื้ม กรุงเทพมหานคร ปี 2498 หลังพระพุฒาจารย์ (มา)เหรียญพระพุทธบาท วัดสามปลื้ม กรุงเทพมหานคร ปี 2498 หลังพระพุฒาจารย์ (มา)
รหัสสินค้า RESP9801
หมวดหมู่ พระเครื่อง จังหวัด กรุงเทพมหานคร
ราคา 500.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 1 มี.ค. 2558
อัพเดทล่าสุด 3 ต.ค. 2568
จำนวน
เหรียญ
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร หรือนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า วัดจักรวรรดิ เดิมเป็นวัดราษฎร์ ชื่อ วัดนางปลื้ม สร้างสมัยอยุธยา ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์เรียก วัดสามปลื้ม สันนิษฐานว่าคงมาจากผู้หญิงสามนางร่วมกันสร้าง และอาจด้วยเพราะอยู่ใกล้กับสำเพ็ง หรือสามเพ็ง ทำนองเดียวกับวัดสามจีน หรือวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ที่อยู่ใกล้กัน เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม ประมาณ พ.ศ. 2362 และได้ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง และพระราชทานนามว่า วัดจักรวรรดิราชาวาสเมื่อประมาณ พ.ศ. 2368 ภายในวัดมีศาลและรูปปั้นเจ้าพระยาบดินทรเดชาอยู่ด้วย โดยช่างปั้นได้ปั้นจากภาพเขียนรูปปั้นของเจ้าพระยาบดินทรเดชาที่สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) พระเจ้ากรุงกัมพูชาให้สร้างขึ้นที่เมืองอุดงมีชัย
ปัจจุบัน วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร ตั้งอยู่บนถนนจักรวรรดิ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ใกล้กับวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร หรือวัดเชิงเลน และเชิงสะพานพระปกเกล้าด้านมุ่งหน้าไปฝั่งธนบุรี
ในวัดแห่งนี้ยังมีจุดเด่นอีกประการคือ มีบ่อเลี้ยงจระเข้ขนาดใหญ่ ซึ่งพระสงฆ์และเด็กวัดช่วยกันดูแล ทั้งนี้เนื่องจากราวปี พ.ศ. 2485 ที่บริเวณวัดที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยามีเรื่องราวของจระเข้กินคนตัวหนึ่งชื่อ "ไอ้บอดวัดสามปลื้ม" เนื่องจากมีตาข้างหนึ่งบอด แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าไอ้บอดวัดสามปลื้มนั้นตายลงเมื่อใด หากแต่ตำนานนี้ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน และเป็นที่มาของบ่อเลี้ยงจระเข้ภายในวัด
พระพุฒาจารย์ นามเดิม มา หรือที่รู้จักในนามท่านเจ้ามา เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะอรัญวาสี อดีตเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร

ประวัติ
พระพุฒาจารย์ มีนามเดิมว่า มา เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2380 ตรงกับวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 10 ปีระกา ถึงปีระกา พ.ศ. 2401 ณ ตำบลบ้านเขาแหลม อำเภอสำเพ็ง กรุงเทพมหานคร โยมบิดาชื่อทองอยู่ โยมมารดาชื่อแช่ม

ปี พ.ศ. 2404 (ตรงกับ ร.ศ. 80) ได้บวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดจักรวรรดิราชาวาส โดยพระอาจารย์นองเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า อินฺทสโร ได้ศึกษาวิปัสสนาธุระแล้วออกจาริกธุดงค์แทบทุกปี แล้วกลับมาเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาอยู่ที่วัดจักรวรรดิราชาวาส

สมณศักดิ์
พ.ศ. 2413 เป็น พระปลัดมา ฐานานุกรมในพระวรญาณมุนี (เส็ง)
13 พฤษภาคม พ.ศ. 2432 ตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูภาวนาวิจารณ์ ผู้ช่วยกิจการในวัดจักรวรรดิราชาวาส มีนิตยภัตเดือนละตำลึง 2 บาท ได้รับพระราชทานไตรผ้าสลับแพร ตาลปัตรพุดตานหักทองขวาง พัดรองโหมด ย่ามอัตลัด บาตรถุงอัตลัด กระโถนขันน้ำถมปัด เป็นเครื่องยศอย่างพระครู
17 มีนาคม พ.ศ. 2435 เลื่อนเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่แขวงเมืองสมุทรปราการที่ พระมงคลทิพยมุนี ศรีชลังคันตรีปเทศ เขตรสมุทรปราการ อภิบาลพุทธคยาปทวี ชลคิรีไทวปสีมาบพิตร มีนิตยภัตเดือนละ 3 ตำลึง ได้รับพระราชทานตาลปัตรแฉกหักทองขวาง พัดรองตราแผ่นดิน พัดรองโหมด ย่ามหักทองขวาง ย่ามเข้มขาบ บาตรถุงเข้มขาบ ฝาบาตรเชิงบาตรมุก กระโถนกาน้ำถมปัด เป็นเครื่องยศ
ได้รับพระราชทานตาลปัตรแฉกประดับพลอยและเพิ่มนิตยภัตเสมอพระราชาคณะชั้นเทพ
16 มีนาคม พ.ศ. 2448 ได้รับพระราชทานพัดแพร เพิ่มนิตยภัตเป็นเดือนละ 7 ตำลึง เสมอพระราชาคณะชั้นธรรม
30 ธันวาคม พ.ศ. 2455 เลื่อนเป็นเจ้าคณะรอง ได้รับพระราชทานพัดแฉกพื้นโหมดสลับแพร เพิ่มนิตยภัตเป็นเดือนละ 30 บาท
30 ธันวาคม พ.ศ. 2456 ได้รับสถาปนาเป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ เจ้าคณะอรัญวาสี เสมอเจ้าคณะรอง มีนามจารึกในหิรัญบัฏว่า พระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชา วิสุทธศีลจรรยาสมบัติ นิพัทธธุตคุณ ศิริสุนทรพรตจาริก อรัญญิกคณิศราธิการ อภิบาลบทวลัญช์ อรัญวาสี สังฆนายก
มรณภาพ
พระพุฒาจารย์ อาพาธเป็นลม มรณภาพเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2457 ปีขาล ขณะอายุ พรรษา 52 สิริอายุได้ 77 ปี 28 วัน ได้รับพระราชทานโกศแปดเหลี่ยมเป็นเกียรติยศ

วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2458 เคลื่อนโกศศพจากกุฏิไปตั้งเหนือแว่นฟ้า 2 ชั้นที่เมรุน้อยในวัดจักรวรรดิราชาวาส ถึงวันที่ 2 พฤษภาคม เวลาบ่าย 5 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาพระราชทานเพลิงศพ


วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร หรือนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า วัดจักรวรรดิ เดิมเป็นวัดราษฎร์ ชื่อ วัดนางปลื้ม สร้างสมัยอยุธยา ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์เรียก วัดสามปลื้ม สันนิษฐานว่าคงมาจากผู้หญิงสามนางร่วมกันสร้าง และอาจด้วยเพราะอยู่ใกล้กับสำเพ็ง หรือสามเพ็ง ทำนองเดียวกับวัดสามจีน หรือวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ที่อยู่ใกล้กัน เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม ประมาณ พ.ศ. 2362 และได้ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง และพระราชทานนามว่า วัดจักรวรรดิราชาวาสเมื่อประมาณ พ.ศ. 2368 ภายในวัดมีศาลและรูปปั้นเจ้าพระยาบดินทรเดชาอยู่ด้วย โดยช่างปั้นได้ปั้นจากภาพเขียนรูปปั้นของเจ้าพระยาบดินทรเดชาที่สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) พระเจ้ากรุงกัมพูชาให้สร้างขึ้นที่เมืองอุดงมีชัย

ปัจจุบัน วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร ตั้งอยู่บนถนนจักรวรรดิ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ใกล้กับวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร หรือวัดเชิงเลน และเชิงสะพานพระปกเกล้าด้านมุ่งหน้าไปฝั่งธนบุรี

ในวัดแห่งนี้ยังมีจุดเด่นอีกประการคือ มีบ่อเลี้ยงจระเข้ขนาดใหญ่ ซึ่งพระสงฆ์และเด็กวัดช่วยกันดูแล ทั้งนี้เนื่องจากราวปี พ.ศ. 2485 ที่บริเวณวัดที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยามีเรื่องราวของจระเข้กินคนตัวหนึ่งชื่อ "ไอ้บอดวัดสามปลื้ม" เนื่องจากมีตาข้างหนึ่งบอด แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าไอ้บอดวัดสามปลื้มนั้นตายลงเมื่อใด หากแต่ตำนานนี้ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน และเป็นที่มาของบ่อเลี้ยงจระเข้ภายในวัด
ข้อมูลวิกิพีเดีย

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาปตท.ถนนกาญจนาภิเษก 2 ออมทรัพย์

JEWELRY-ANTIQUE-AMULET

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม4,557,596 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด3,493,894 ครั้ง
เปิดร้าน4 ก.พ. 2558
ร้านค้าอัพเดท22 ต.ค. 2568

ติดต่อเรา

ติดตามสินค้า

พูดคุย-สอบถาม