1. พระเยซูเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้
พระเยซูเกิดในประเทศอิสราเอลเมื่อ 2,000 ปี ก่อน โดยเกิดในครอบครัวของช่างไม้ พออายุประมาณ 30 ปี ก็เริ่มประกาศเรื่องราวของพระเจ้า และถูกตรึงตายบนกางเขนเมื่ออายุประมาณ 33 ปี หลังจากนั้นในวันที่ 3 พระองค์ก็เป็นขึ้นมาจากความตาย และตอนนี้อยู่บนสวรรค์เพื่อจัดเตรียมบ้านสำหรับผู้ที่เชื่อในพระองค์
ปัจจุบันโลกเรามีประชากรประมาณ 8 พันล้านคน จากเว็บ World Population Review บอกว่าในปี 2023 มีคนที่เป็นคริสเตียนถึง 2.38 พันล้านคน หรือประมาณ 30% ของคนทั้งโลก จะเห็นได้ว่าพระเยซูคริสต์ใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี เท่านั้น ในการสอนเรื่องราวของพระเจ้ากับสาวก 12 คน ซึ่งในสมัยนั้นคนเหล่านี้นับได้ว่าเป็นชนชั้นล่าง เป็นชาวประมง เป็นคนเก็บภาษี แต่ด้วยจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ นี้ พระองค์สามารถทำให้คนทั้งโลกได้รู้จักพระเจ้า คำถามคือ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
คำตอบก็คือ เพราะทุกสิ่งที่พระเยซูตรัสไว้นั้นเป็นความจริง โดยเฉพาะการพูดถึงความจำเป็นที่พระองค์ต้องลงมาเกิดบนโลกใบนี้ เพราะไม่อยากเห็นใครสักคนต้องตกนรก พระองค์จึงทรงยอมตายเพื่อไถ่บาปให้กับคนเป็นจำนวนมาก และยังบอกอีกว่าพระองค์จะเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ คนในยุคนั้นเห็นพระเยซูถูกตรึงบนกางเขน คนในยุคนั้นเห็นพระองค์ตายและถูกฝังในอุโมงค์ และคนในยุคนั้นก็เห็นพระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย ได้พูดคุยกับพระองค์เป็นเวลา 40 วัน และได้เห็นพระองค์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์กับตา นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สาวกของพระเยซูหลาย ๆ คนยอมตายเพราะเป็นพยานเรื่องราวของพระเยซู นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คริสเตียนหลายคนยอมประสบกับความทุกข์ยากลำบาก การถูกข่มเหง เพราะเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า
2. พระเยซูทรงป็นพระเจ้าและเป็นมนุษย์ด้วย
เมื่อพูดถึง “พระเจ้า” เรารู้ว่าพระองค์ทรงยิ่งใหญ่ ทรงบริสุทธิ์ ทรงยุติธรรม สามารถทำอะไรก็ได้เพราะมีฤทธิอำนาจไม่จำกัด และเมื่อมองมาที่ “มนุษย์” เรารู้ว่าคนเราแตกต่างจากพระเจ้าเป็นอย่างมาก มนุษย์มีความสามารถจำกัด มีความบาป มีความคดโกงในจิตใจ เป็นไปได้หรือที่จะมีพระเจ้ามาอยู่บนโลกนี้ในสภาพมนุษย์? และเมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้วจะยังคงสภาพพระเจ้าได้หรือ?
พระเยซูคริสต์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพระองค์ไม่ได้มีแค่คำสอนเพื่อให้คนเป็นคนดี แต่พระองค์ “ทรงเป็นทาง” ที่จะนำคนให้ไปถึงพระเจ้า นำคนให้ไปอยู่ในสวรรค์เป็นนิจนิรันดร์ได้ เพราะพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า 100% และเป็นมนุษย์ 100%
ในพระคัมภีร์ไบเบิล เราเห็นการบันทึกชีวประวัติของพระเยซูอย่างตรงไปตรงมา เราเห็นพระองค์ทรงหิว ทรงกระหาย ทรงโกรธ ทรงรัก เราเห็นพระองค์เสียใจร้องไห้ เห็นพระองค์ทรงเมตตาสงสารคน เห็นพระองค์ทรงยุติธรรม ทรงกล้าพูดอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เกรงกลัวอำนาจใด ๆ เราเห็นการดำเนินชีวิตของพระเยซูเหมือนกับคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไปจากคนปกติ ก็คือ “พระเยซูไม่เคยทำบาปเลย” นี่เป็นการสำแดงพระลักษณะของพระเจ้าให้ทุกคนได้เห็น เพราะพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ ความมืดไม่สามารถอยู่ร่วมกับความสว่างได้ฉันใด ความบาปก็ไม่สามารถอยู่ร่วมกับพระเจ้าได้ฉันนั้น
นอกจากนี้เรายังเห็นพระเยซูทรงทำการอัศจรรย์ ทรงรักษาคนตาบอดแต่กำเนิดให้มองเห็นได้ รักษาคนง่อยให้เดินได้ รักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด ทรงทำให้คนที่ตายแล้วเป็นขึ้นมาอีก นี่คือ พระลักษณะของพระเจ้าที่มีฤทธิ์อำนาจไม่จำกัด ไม่มีสิ่งใดยากหรือเกินกำลังพระองค์ พระเยซูได้พิสูจน์ให้เราทุกคนได้เห็นว่าพระองค์ไม่ใช่แค่ศาสดาของศานาคริสต์ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าที่ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อนำคนบาปทั้งหลายให้กลับคืนดีกับพระเจ้า เพื่อให้ผู้ที่เชื่อในพระองค์ทุกคนสามารถเรียกพระเจ้าว่า “พระบิดา” ได้ และนี่คือการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเยซูได้ทำเพื่อเราทั้งหลาย เพราะพระองค์ไม่ได้รักษาแค่ความเจ็บป่วยทางร่างกายเท่านั้น แต่ทรงรักษาจิตใจและจิตวิญญาณของเราทุกคน เพื่อให้เราทุกคนมีชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์ ได้อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ในบ้านของพระเจ้า