สิ่งที่นาสนใจในการท่องเที่ยวของ วัดหนองกลับ มีรูปหล่อหลวงพ่อเดิมขนาดเท่าองค์จริงที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2482
ในขณะที่ หลวงพ่อยัมมีชีวิตอยู่โดยประดิษฐานในวิหารหลวงพ่อเดิม นอกจากนี้ยังมีศาลาการเปรียญ และอุโบสถ ที่หลวงพ่อเดิม เป็นผู้สร้างเเละบูรณะ
นอกจากนี้ในปัจจุบันภายในวัดยังเติมไปด้วยมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นมากมาย มีการสร้างพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านหนองกลับที่พระนิภากรโสภสได้เริามสะสมวัตถุโบรารมาตั้งเเต่ พ.ศ. 2517 โดยฃอจากชาวบ้านบ้าง จนมีจำนวนมาดพอสมควร จึงจัดตั้งพิพิธภัณฑ์บ้ารขึ้รภายในวัด
ลักษณะเด่น
คือภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมมของโบราณไว้มาดมายทั้งตะเกียงงโบราณจำนวนมากมาย,ครกสากหิน,เครื่องมือเครื่อวใช้ที่คนรุ่นหลังไม่มีโอกาสได้ใช้ และได้เห็น จำนวนมาก และส่วนรอบๆบริเวณวัด จะมีการจัดวางเครื่องมีเครื่องใช้ยานพานะสมัยก่อนอย่างเกวีนเเละเรือ เป็น
ประวัติ
ประวัติวัดหนองกลับ-หนองบัวตำบลหนองกลับ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ (เดิมขึ้นกับตำบลหนองกลับ อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร) วัดหนองกลับสร้างเมื่อพุทธศักราช ๒๓๖๓ ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง ทราบจากปากคำบอกเล่า บริเวณที่สร้างวัดหนองกลับในสมัยสงครามเวียงจันทน์เป็นที่ตั้งค่ายของชาวหนองบัว-หนองกลับ เพื่อป้องกันทัพเวียงจันทน์ที่ผ่านมา ด้วยหมู่บ้านหนองกลับ-หนองบัว ตั้งมานานหลายร้อยปี มีวัดเก่าชื่อวัดหนองม่วงตั้งอยู่ตำบลหนองกลับ มีวัดสระมะนาวตั้งอยู่ตำบลหนองบัว เมื่อชาวบ้านตั้งค่าย ณ วัดหนองกลับ จึงต้องย้ายวัดตามไปด้วย จึงมีวัด ๒ วัดอยู่ติดกัน ในสมัยนั้นชาวบ้านเรียกว่าวัดนอกกับวัดใน ต่อมาพระภิกษุในวัดเกิดเป็นอหิวาต์ มีพระภิกษุมรณภาพ พระภิกษุที่เหลือ จึงย้ายไปอยู่วัดนอก(วัดหนองกลับปัจจุบัน) ตั้งแต่นั้นมาวัดทั้งสองจึงรวมกันโดยปริยาย สำหรับชื่อวัด เดิมชื่อว่า วัดปทุมคงคา และได้เปลี่ยนมาเป็น วัดหงส์ เนื่องจากมีเสาหงส์ตั้งอยู่หน้าวัด ต่อมามีเจ้าเมืองพิจิตรมาตรวจราชการ จึงเปลี่ยนชื่อวัดให้เหมือนกับชื่อหมู่บ้านว่า วัดหนองกลับ และด้วยเหตุว่าวัดอยู่ติดกับหมู่บ้านหนองบัว ชาวบ้านในปัจจุบันจึงนิยมเรียกชื่อวัดอีกอย่างหนึ่งว่า วัดหนองบัว แต่ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองกลับ เมื่อทางราชการตั้งกิ่งอำเภอหนองบัว จึงโอนตำบลหนองกลับจากอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตรมาขึ้นกับจังหวัดนครสวรรค์ ด้วยเหตุที่ยังไม่มีที่ทำการกิ่งอำเภอหนองบัว จึงใช้พื้นที่ของวัดหนองกลับเป็นที่ทำการไปพลางก่อน ส่วนข้าราชการก็อาศัยกุฏิพระอยู่ตั้งแต่พุทธศักราช ๒๔๙๒ จนถึง พุทธศักราช ๒๔๙๙ จึงย้ายที่ทำการไปอยู่ ณ ที่ทำการปัจจุบัน