หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม หรือ พระเทพสาครมุนี อดีตเป็นเจ้าอาวาสวัดสุทธิวาตวราราม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร และอดีตเป็นเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร
เดิมชื่อแก้ว นามสกุล ธนสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ ๒๕ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๖ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๒ ปีเถาะ เวลา ๒๑.๐๐ น. ณ ที่ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดพระตะบอง ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นอาณาจักรของประเทศไทย มีโยมบิดาชื่อนายกัน ธนสุวรรณ โยมมารดาชื่อนางวงษ์ ธนสุวรรณ
เมื่อท่านมีอายุได้ ๑๒ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดจำบกมาศ ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดพระตะบอง เมื่อวันที่ ๑ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ เพื่อศึกษาเล่าเรียนชั้นสามัญ จนท่านมีความรู้อ่าน-เขียนภาษาไทย และภาษาขอมเป็นอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะภาษาขอมมีความรู้แตกฉานเป็นพิเศษ
ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ หลวงพ่อแก้ว ท่านมีอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ณ พัทธสีมาวัดจำบกมาศ ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดพระตะบอง ได้รับฉายาว่า "สุวณณโชโต" โดยมี
พระปัญญาสุธรรม เจ้าอาวาสวัดจำบกมาศ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอาจารย์เผือก พรหมสโร วัดกระสัง เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์เกตุ วัดชำนิหัตถการ กรุงเทพฯ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบท ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดจำบกมาศ อยู่ช่วงหนึ่งจึงเดินทางไปจำพรรษาที่วัดมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อ ปี พ.ศ. ๒๔๘๐ จึงสอบได้นักธรรมชั้น ตรี-โท-เอก ตามลำดับ ปี พ.ศ. ๒๔๘๑ สอบได้เปรียญธรรม ๖ ประโยค
ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ท่านได้เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดคลองตันราษฎร์บำรุง
ปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดช่องลม หรือ วัดสุทธิวาตวราราม ตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร ได้ว่างลงมีเพียงพระสายัณธ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๔
สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพน ตำแหน่งเจ้าคณะตรวจการภาค ๗ จึงได้ทำการย้ายพระราชสาครมุนี เจ้าอาวาสวัดคลองตันราษฏร์บำรุง ตำบลคลองตัน อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งที่พระครูสาครรัตนมุนี (แก้ว สุวณฺณโชโต น.ธ.เอก เปรียญ ๖ ประโยค) ตำแหน่งเผยแพร่สมุทรสาคร มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดช่องลม
เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๕ แทนพระสมุทรคุณากร เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครรูปเก่า ที่ย้ายไปเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ใน พ.ศ. เดียวกันนี้เอง
วัดสุทธิวาตวราราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๘๑๗ ถนนสุทธิวาตวิถี ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๒๘ ไร่ ๓ งาน ๐๓ ตารางวา
วัดสุทธิวาตวราราม ตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๕๐ ความเป็นมาของวัดสุทธิวาตวราราม หรือ วัดช่องลม เดิมเรียกกันว่า "วัดท้ายบ้าน" เพราะตั้งอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้าน ตำบลท่าฉลอม ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดช่องลม" เพราะตั้งอยู่ตรงปากอ่าวของแม่น้ำท่าจีน มีลมพัดเย็น อยู่ตลอดเวลา
เนื่องจากวัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่โบราณ ไม่มีหลักฐานบันทึกไว้ นอกจากจะสันนิษฐาน และเล่าสืบต่อๆ กันมาเท่านั้นว่า วัดนี้สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๓๕๐ โดยพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่า หลวงตาเอี่ยม พายเรือมาติดอยู่บริเวณที่ตั้งวัดนี้
ซึ่งเป็นที่อยู่ของคุณปู่-คุณย่าอ่วม แซ่เล้า ซึ่งมีที่ดินอยู่มากมาย จึงบริจาคที่ดินประมาณ ๖๐ ไร่ ให้ตั้งเป็นวัด และนิมนต์หลวงตาเอี่ยมมาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดนี้ ต่อมาได้รับบริจาคที่ดินจากตระกูลนุตาลัย ตระกูลจันทร์ภักดี และตระกูลลือประเสริฐ รวม ๒ แปลง ซึ่งมีเนื้อที่ ๒๒ ไร่ ๔๙ ตารางวา และ ๒๗ ไร่
แต่เนื่องจากที่ดินของวัดถูกภัยธรรมชาติ คือถูกน้ำเซาะตลิ่งพังลงน้ำไปประมาณ ๕๐ ไร่ ปัจจุบันวัดช่องลมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก ทั้งนี้โดยมีพระเทพสาครมุนี (แก้ว สุวณฺณโชโต) ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะ และดัดแปลงแก้ไขพระอุโบสถ เจดีย์ ศาลาการเปรียญ ศาลาโรงทึม หอสวด มนต์ กุฏิและโรงเรียน ฯลฯ เรื่อยมา
จนได้รับพระราชทานอนุญาตให้เป็น "พระอารามหลวง" ตั้งแต่วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ และต่อมาเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เสด็จมาทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕
อีกครั้งหนึ่ง วัดสุทธิวาตวรารามได้ทำการประกอบพิธีผูกพัทธสีมาพระอุโบสถหลังใหม่ เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๙ โดยมีสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรัตน์ราชสุดา และสมเด็จพระนางเจ้าสุวัฒนา ได้เสด็จมาเป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้ด้วย
และพระ อุโบสถหลังนี้ได้รับพระราชทานเครื่องหมาย ภ.ป.ร. ไว้ที่หน้าบันพระอุโบสถด้วยนับเป็นพระอุโบสถหลังแรกของจังหวัดที่ได้รับพระราชทานเครื่องหมายอันทรงเกียรตินี้
วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร มีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัดเท่าที่ทราบนามดังนี้
๑. หลวงปู่เอี่ยม (ขรัวอีโต้)
๒. หลวงพ่อปั่น (ย้ายมาจากวัดตุ๊กตา นครปฐม)
๓. หลวงพ่อเชียง (ญาติของโยมย่า อ่วม)
๔. พระครูธรรมสุนทร (หลวงพ่อแก่น) (ย้ายมาจากวัดตุ๊กตา ติดตามหลวงพ่อปั่น)
๕. พระอาจารย์เทิ้ม ญาโณ (มรณภาพด้วยโรคฝีที่คอ)
๖. พระปลัดไซ ติสฺสโร เป็นเจ้าอาวาส ๒ ปี ลาออกปี พ.ศ. ๒๔๙๓ เพราะชรามาก มรณภาพวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๙
๗. พระทองใบ (ชานสโภ น.ธ.เอก) ครองวัดปี พ.ศ. ๒๔๙๓ - ๒๔๙๔ (มรณภาพด้วยโรคลม) โดยมีพระสายัณธ์ รักษาการเจ้าอาวาส (พ.ศ. ๒๔๙๔ - ๒๔๙๕)
๘. พระราชสาครมุนี (หลวงพ่อแก้ว) วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๕ - ๒๕๒๖
๙. พระสาครมุนี (ประสาท สุชีโว) ๒๕๒๖ - ๒๕๖๗
๑๐. พระวชิรสุทธิกร ดิษเทศ พ.ศ. ๒๕๖๘ - ปัจจุบัน
หลังจากที่หลวงพ่อแก้วได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ
ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ท่านได้เปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม
ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร มีสมณศักดิ์เป็น "พระราชสาครรัตนมุนี ศรีสมุทรเขตคณาภิบาล ญาณปิฏกบัณฑิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ ๒๕๐๑ ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ เล่ม ๗๕ ตอนที่ ๑๐๙
ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ท่านได้สร้างพระอุโบสถ กว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๓๒ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ทรงไทย
ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ท่านได้สร้างศาลาอเนกประสงค์ กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย
นอกจากนี้หลวงพ่อแก้ว ท่านยังได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาของกุลบุตรและกุลธิดาของชาวบ้านในพื้นที่ ท่านจึงส่งเสริมและเป็นผู้อุปการะโรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เปี่ยมวิทยาคม)
ด้วยการจัดตั้งทุนการศึกษาประจำสำนักเรียน จัดส่งนักเรียนไปศึกษาต่อเพิ่มเติม จัดพิมพ์หลักสูตรทั้งบาลีและนักธรรมใช้ในสำนักเรียน ซึ่งหลักสูตรที่แพร่หลายคือ หลักสูตรย่อนักธรรมตรี
นอกจากนี้ท่านยังบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ สร้างสะพานสาครบุรี สร้างถนนเชื่อมต่อระหว่าง ตำบลท่าจีน-ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
สร้างสถานีตำรวจภูธรชั่วคราว และโครงการสร้างสถานีอนามัย ตำบลท่าฉลอม เป็นผู้อุปถัมภ์ในการปรับปรุงวัดใหญ่บ้านบ่อ เป็นผู้วางแผนผังการก่อสร้างวัดบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
จากคุณงามความดีของท่านในการพัฒนาวัด ตลอดจนเสนาสนะอย่างต่อเนื่อง จนมีเจ้าอาวาสวัดต่างๆ เดินทางมาดูตัวอย่างการก่อสร้างที่วัดอยู่เสมอๆ
จากการพัฒนาวัดดังกล่าว ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์
เสด็จพระราชดำเนินทรงทอดพระกฐินต้น เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ ทรงพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถ พระราชทานฉัตรขาว ๙ ชั้น ตั้งสองข้างพระประธาน และพระราชทานนามวัดช่องลมให้ใหม่ว่า "วัดสุทธิวาตวราราม"
ปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ "พระเทพสาครมุนี นรสีห์ธรรมานุวัตร พุทธปริษัทปสาทกร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ ๒๕๑๐ ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ เล่ม ๘๔ ตอนที่ ๑๒๘
หลวงพ่อแก้ว ปกครองวัดเรื่อยมาจนมรณภาพอย่างสงบ เมื่อตอนเช้าตรู่ วันศุกร์ที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๖ เวลา ๐๔.๔๕ น. นับรวมสิริอายุได้ ๗๙ ปี ๕๙ พรรษา.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม
เหรียญหลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว เพื่อแจกให้กับผู้ที่ร่วมบริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด มีการสร้างด้วยเนื้อเงิน และเนื้อเงินกระไหล่ทอง จำนวนการสร้างประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าเหรียญ