เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นให้คล้ายคลึงกับกรุงศรีอยุธยามากที่สุด วัดที่ตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ ตลอดจนเปลี่ยนชื่อวัดให้เหมาะสม โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดกลางนาเป็นวัดตองปุ และให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เช่นเดียวกับวัดตองปุที่กรุงศรีอยุธยา เพื่อเทิดเกียรติทหารชาวรามัญในกองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพ เมื่อ พ.ศ. 2328 สงครามที่ท่าดินแดงและสามสบ เมื่อ พ.ศ. 2329 และสงครามที่นครลำปางป่าซาง เมื่อ พ.ศ. 2330
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดตองปุแล้วถวายเป็นพระอารามหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดชนะสงคราม เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงมีชัยชนะต่อพม่าในการรบทั้ง 3 ครั้ง
วัดชนะสงครามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทรงเริ่มดำเนินการก่อสร้างที่บรรจุพระอัฐิเจ้านายฝ่ายกรมพระราชวังบวรสถานมงคลที่เฉลียงพระอุโบสถด้านหลังตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงพระราชอุทิศพระราชทรัพย์ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ดำเนินการ แต่การก่อสร้างมาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งพระราชทานพระราชทรัพย์ให้ราชบัณฑิตยสภาก่อสร้าง ขณะนั้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเป็นนายกราชบัณฑิตยสภาและสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงก่อสร้างจนเสร็จสิ้น ได้มีพิธีอัญเชิญพระอัฐิจากพระราชวังบวรสถานมงคลไปประดิษฐานใน พ.ศ. 2470
ปูชนียวัตถุ
หน้าต่างพระอุโบสถวัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
พระประธานในพระอุโบสถ มีนามว่า พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นแล้วบุด้วยดีบุกลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2.50 เมตร สูง 3.50 เมตร ประดิษฐานบนฐานสูง 1.30 เมตรมีพระอัครสาวกซ้ายขวานั่งประนมมือ 2 องค์ เป็นพระปูนปั้นเช่นกัน
พระพุทธรูปปูนปั้นและปางมารวิชัยเช่นเดียวกับพระปฏิมาจำนวน 25 องค์ ประดิษฐานรอบฐานชุกชี
เจดีย์ทรงจอมแห 2 องค์ อยู่ด้านหน้าพระอุโบสถและเจดีย์ทรงกลม 2 องค์อยู่ด้านหลังพระอุโบสถ
ถาวรวัตถุ
พระอุโบสถ กว้าง 13 วา 2 ศอก ยาว 20 วา 2 ศอก สูงประมาณ 10 วา
ธรรมมาสน์ลายทอง สังเค็ด งานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ธรรมมาสน์กับหนังสือปาฎิโมกข์สมุดไทยพร้อมตู้ 1 ชุด สังเค็ดงานพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์
เทียนสลักพร้อมตู้ลายทอง 1 ชุด สังเค็ดงานพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนศรีสัชนาลัย
ลำดับเจ้าอาวาส
ลำดับ เจ้าอาวาส วาระ (พ.ศ.)
1 พระมหาสุเมธาจารย์ 2325 — 2363
2 พระสุเมธาจารย์ 2363 — 2383
3 หม่อมเจ้าพระศีลวราลังการ (สอน) 2383 — 2410
4 พระสุเมธาจารย์ (ศรี) 2410 — 2455
5 พระประสิทธิศีลคุณ (พุธ) 2455 — 2456
6 พระครูภาวนาพิจารณ์ (ลืม) (รักษาการ) 2457 — 2459
7 พระพิศาลสมณกิจ (ริด) 2459
8 พระสุเมธมุนี (ลับ สงฺกิจโจ) 2460 — 2485
9 พระธรรมทัศนาธร (ทองสุก สุทัสโส) 2492— 2508
10 สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) 2509 — 2554
11 พระธรรมวชิรมงคล (กฤช กิตฺติวํโส) 2555 — ปัจจุบัน
ข้อมูลวิกิพีเดีย