เหรียญ พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ปี 2525 ที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระครูวรกิจพิศาล วัดแหลมแค อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี

เหรียญ พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ปี 2525 ที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระครูวรกิจพิศาล วัดแหลมแค อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี
เหรียญ พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ปี 2525 ที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระครูวรกิจพิศาล วัดแหลมแค อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรีเหรียญ พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ปี 2525 ที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระครูวรกิจพิศาล วัดแหลมแค อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี
รหัสสินค้า LAK2501
หมวดหมู่ 25.พระเครื่อง จังหวัดชลบุรี
ราคา 850.00 บาท
ลงสินค้า 8 ต.ค. 2568
อัพเดทล่าสุด 8 ต.ค. 2568
เร็วๆนี้
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร ป.ธ.๗)
เกิด    ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๒
อายุ    ๗๙ ปี
อุปสมบท    ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๔
พรรษา    ๕๗
มรณภาพ    ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๑
วัด    วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร
ท้องที่    กรุงเทพมหานคร
สังกัด    มหานิกาย
วุฒิการศึกษา    น.ธ.เอก, ป.ธ.๗

สถานะเดิม
พระวิสุทธาธิบดี มีนามเดิมว่า ไสว วีรธรรมานุศาสก์ เกิดเมื่อวันพุธที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๒ ตรงกับวันขึ้น ๔ ค่ำเดือน ๘ ปีกุน ที่บ้านคลองสวน ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นบุตร นายแฉ่ง นางแช่ม

บรรพชาอุปสมบท
บรรพชา เมื่อวันเสาร์ ที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับวันแรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๗ ปีขาล ณ วัดเปร็งราษฎร์บำรุง ตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี พระครูศรีวรพินิจ (ยุ้ย อันุทสโร) เป็นพระอุปัชฌาย์

     อุปสมบท เมื่อวันเสาร์ ที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ตรงกับวันขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ณ อุโบสถวัดไตรมิตรวิทยาราม แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ สิสฺสเทวมหาเถร) วัดสุทัศนเทพวราราม เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระวันรัต ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์โป๊ะ ธมฺมสโร วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระใบฎีกาขำ อินฺทโชติ วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ สำเร็จญัตติจตุตถกรรม เวลา ๑๔.๒๐ น. ได้ฉายาว่า ฐิตวีโร

การศึกษา

พ.ศ. ๒๔๗๖ สอบได้ นักธรรมชั้นเอก
พ.ศ. ๒๔๘๖ สอบได้ เปรียญธรรม ๗ ประโยค

เกียรติคุณ
พ.ศ. ๒๕๓๑    ได้รับปริญญาพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ สาขาครุศาสตร์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ตำแหน่ง
ฝ่ายปกครอง
พ.ศ. ๒๔๘๗ - ๒๕๓๑     เป็น เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม
พ.ศ. ๒๔๘๗     เป็น ศึกษาธิการอำเภอสัมพันธวงศ์
พ.ศ. ๒๔๘๙     เป็น พระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๔๘๙     เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอสัมพันธวงศ์ และบางรัก
พ.ศ. ๒๔๘๙     เป็น เจ้าคณะอำเภอสัมพันธวงศ์ และบางรัก
พ.ศ. ๒๔๙๓     เป็น ผู้ช่วยเจ้าคณะผู้ตรวจการภาค ๒
พ.ศ. ๒๔๙๓     เป็น ศึกษาธิการจังหวัดพระนคร
พ.ศ. ๒๔๙๙     เป็น หัวหน้าคณะวินัยธร ชั้นอุทธรณ์
พ.ศ. ๒๔๙๙     เป็น สังฆมนตรี
พ.ศ. ๒๔๙๙     เป็น เลขาธิการ ก.ส.พ.
พ.ศ. ๒๕๐๑ - ๒๕๐๘     เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดกลางวรวิหาร
พ.ศ. ๒๕๐๖     เป็น อนุกรรมการมหาเถรสมาคม
พ.ศ. ๒๕๑๔     เป็น เจ้าคณะภาค ๘
พ.ศ. ๒๕๑๖     เป็น กรรมการมหาเถรสมาคม
พ.ศ. ๒๕๑๙     เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ๒๕๒๑     เป็น เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ๒๕๒๗ - ๒๕๓๑     เป็น เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก
มรณกาล
     พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร ป.ธ.๗) มรณภาพด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเมื่อเวลา ๒๑.๕๐ น. วันที่ ๑๑ ธันวาคม ฑ.ส. ๒๕๓๑ สิริอายุได้ ๗๙ ปี ๓ เดือน ๒๐ วัน พรรษา ๕๗

สมณศักดิ์
๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระวีรธรรมมุนี
พ.ศ. ๒๔๙๕ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามเดิม
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมมหาวีรานุวัตร ประสิทธิ์สุปฏิบัติ สรรพอรรถปรีชา มหาคณานุนายก ตรีปิฎกคุณวิภูสิต มหาคณิสร บวรสังฆาราม คามวาสี [1]
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็น พระราชาคณะเทียบชั้นรองสมเด็จพระราชาคณะ ที่ พระมหาโพธิวงศาจารย์ ตรีปิฎกธรรมาลังการอัตถจารี พุทธวิถีวิสุทธจริยาภิรัต ศาสนิกบริษัทประสาทกร มหาคณิสร บวรสังฆาราม คามวาสี [2]
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระวิสุทธาธิบดี ศรีปริยัตยาภรณ์ สุนทรศีลาจาร ธรรมโวทานธารี ตรีปิฎกวิภูสิต มหาคณิสร บวรสังฆาราม คามวาสี

วัดแหลมแค เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่เลขที่ 13 หมู่ 1 ตำบลหน้าประดู่ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พื้นที่ดินของวัดมีเนื้อที่ทั้งหมด 15 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา โดยมีโฉนดที่ดินเลขที่ 4089, 2480 และ 4090 ล้อมรอบด้วยเขตอาณา ทิศเหนือจดถนนหลวง ส่วนทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกจดที่ดินเอกชน นอกจากนี้ยังมีที่ธรณีสงฆ์จำนวน 5 แปลง รวมเนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 67 ตารางวา โดยมีโฉนดเลขที่ 2445, 2455, 3042, 3051 และ 2751 ทำให้วัดแหลมแคมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับประกอบกิจกรรมทางศาสนาและงานบุญประเพณีต่าง ๆ ของชุมชน
 
วัดแหลมแค มีสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญหลายแห่ง อุโบสถของวัดเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2500 มีขนาดกว้าง 12 เมตร ยาว 27.50 เมตร ออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมไทย มีช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ที่งดงาม สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของศิลปกรรมไทย ศาลาการเปรียญของวัดมีขนาดใหญ่ กว้าง 14 เมตร ยาว 40 เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้น ทรงไทย ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยมีความโดดเด่นตรงหน้าบันที่ประดิษฐานพระปรมาภิไธยย่อ “ส.ธ.” ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจแก่ชาวบ้านและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่
 
กุฏิสงฆ์ของวัดมีจำนวนทั้งหมด 5 หลัง แบ่งเป็นอาคารไม้ 1 หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ 1 หลัง และอาคารตึก 3 หลัง นอกจากนี้ยังมีศาลาบำเพ็ญกุศลที่สร้างด้วยไม้ พื้นเป็นไม้ ฝาผนังเป็นกระจก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2540 ศาลานี้ใช้สำหรับจัดงานบุญ งานสวดศพ และกิจกรรมอื่น ๆ ของชาวบ้านในชุมชน อีกทั้งยังมีศาลาฌาปนสถานที่ใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา เช่น งานฌาปนกิจศพ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2532 มีขนาดกว้าง 14 เมตร ยาว 18.25 เมตร และหอระฆังซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัด มีฐานกว้าง 4.25 เมตร สูง 3 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514

ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่ที่เป็นปูชนียวัตถุสำคัญ พระพุทธรูปองค์นี้ทำจากเนื้อโลหะ มีขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458 เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนและชาวบ้านในพื้นที่ที่มักมากราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งวัดแหลมแคยังเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ณ ลานธรรมหลวงปู่ทวด ซึ่งเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบสักการะและประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ หลวงปู่ทวดถือเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์และเมตตา ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมดวงชะตา และขอพรให้ชีวิตราบรื่น การมีหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ประดิษฐานในวัดยังช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้แก่วัด ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวเชิงศาสนาของอำเภอพานทองและจังหวัดชลบุรี
 
ประวัติของวัดแหลมแคมีความเป็นมายาวนาน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2414 โดยในอดีตบริเวณที่ตั้งวัดมีต้นแคขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อ “วัดแหลมแค” ผู้ที่มีจิตศรัทธาและบริจาคที่ดินเพื่อสร้างวัดคือ นางหยุก สอนศิริ เธอได้ชักชวนชาวบ้านในพื้นที่ให้ร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อก่อสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ให้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและงานบุญประเพณี ตระกูลสอนศิริจึงถือเป็นตระกูลที่มีความเกี่ยวพันกับวัดแหลมแคอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะนายสินและนางเสน สอนศิริ ซึ่งเป็นลูกหลานของนางหยุกที่ยังคงให้การสนับสนุนวัดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
 
วัดแหลมแคได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2505 โดยมีเขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความเจริญรุ่งเรืองของวัด ทำให้มีการพัฒนาและสร้างถาวรวัตถุเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะศาลาการเปรียญที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัดและแสดงถึงความศรัทธาของชาวบ้านต่อพระพุทธศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์
 
ในด้านการปกครองของวัด วัดแหลมแคมีเจ้าอาวาสสืบทอดต่อกันมาเป็นเวลานาน เจ้าอาวาสที่ทราบนามมีดังนี้ รูปที่ 1 พระยา รูปที่ 2 พระตุ้ย พ.ศ. 2434 รูปที่ 3 พระปลั่ง พ.ศ. 2434-2443 รูปที่ 4 พระตา พ.ศ. 2443-2480 รูปที่ 5 พระทองคำ พ.ศ. 2480-2482 รูปที่ 6 พระประยูร ปรงุกโร พ.ศ. 2482-2497 รูปที่ 7 พระปลัดสำราญ อุปการ พ.ศ. 2497-2513 รูปที่ 8 พระครูวรกิจพิศาล (หอม จตฺตภโย) พ.ศ. 2514-2541 และรูปที่ 9 พระครูสรพาจน์พิไล (สุภณ จนฺทสิโล) พ.ศ. 2543-ปัจจุบัน (ข้อมูลเมื่อปี 2544) ซึ่งเจ้าอาวาสแต่ละรูปมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัดให้มีความเจริญทั้งทางกายภาพและด้านจิตใจของพุทธศาสนิกชน
 
นอกจากจะเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว วัดแหลมแคยังให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยได้เปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2460 เพื่อให้พระภิกษุและสามเณรได้เรียนรู้พระธรรมวินัย และในปี พ.ศ. 2529 ได้เปิดศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด เพื่อเป็นสถานที่ดูแลและพัฒนาเด็กเล็กในชุมชน ให้ได้รับการอบรมด้านศีลธรรมและคุณธรรมควบคู่กับการเรียนรู้เบื้องต้น
 
ปัจจุบันวัดแหลมแคยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนในอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ยังเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านมารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งด้านการศึกษา วัฒนธรรม และสังคม ความโดดเด่นของการมีหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ประดิษฐานในลานธรรมหลวงปู่ทวดยิ่งทำให้วัดแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่ผู้คนจากพื้นที่ใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมากราบสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตและสร้างความผูกพันระหว่างชุมชนกับพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไปอย่างไม่เสื่อมคลาย
ข้อมูลวิกิพีเดียLOVETHAILAND

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาปตท.ถนนกาญจนาภิเษก 2 ออมทรัพย์

JEWELRY-ANTIQUE-AMULET

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม4,556,256 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด3,492,554 ครั้ง
เปิดร้าน4 ก.พ. 2558
ร้านค้าอัพเดท22 ต.ค. 2568

ติดต่อเรา

ติดตามสินค้า

พูดคุย-สอบถาม