วัดตองปุ จังหวัดลพบุรี
วัดตองปุ ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ด้านนอกของกำแพงเมืองลพบุรีชั้นในด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คำว่า “ตองปุ” เป็นภาษามอญ แปลว่าที่รวมพลหรือรวมทหาร มีเสาหงส์ จำนวน ๑ ต้น อยู่ด้านข้างการเปรียญ ศิลปะภายในวัดตองปุ ส่วนหนึ่งมีรูปแบบของชาวมอญหรือลาว คือ จำหลักไม้เก็บคัมภีร์ในอุโบสถ สิ่งสำคัญภายในวัดประกอบด้วย อุโบสถ วิหาร การเปรียญ หอไตร หอระฆัง และเจดีย์ เป็นต้น คำว่าการเปรียญนี้ไม่ทราบที่มาแน่ชัด สันนิษฐานว่า การเปรียญอาจมาจากคำว่า “บา - เรียน” ซึ่งเป็นชื่อเรียกชั้นต่างๆ ของหลักสูตรการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม การเปรียญเป็นเสมือนโรงเรียนสำหรับพระสงฆ์ที่สอนพระให้เปรียญ เดิมนั้นวัดจะมีวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและทำบุญฟังเทศน์ ฟังธรรม รวมทั้งเป็นที่สำหรับพระสงฆ์เล่าเรียนพระธรรมวินัย แต่เมื่อจำนวนพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนเพิ่มขึ้นคงต้องการสถานที่เพิ่มเติม จึงเกิดคตินิยมในการสร้างการเปรียญเพื่อใช้เป็นที่เรียนของพระสงฆ์ และประกอบศาสนกิจของสงฆ์กับฆราวาส ต่อมาการศึกษาของพระสงฆ์มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมเกิดขึ้นแทน การเปรียญจึงเปลี่ยนเป็นที่สำหรับพุทธศาสนิกชนมาทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ฟังธรรม ในวันธรรมสวนะ องค์ประกอบที่สำคัญของการเปรียญคือบุษบกธรรมาสน์ สำหรับพระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา อาสนสงฆ์ยกพื้นสูง และแท่นที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชาพระพุทธรูป เป็นต้น
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม การเปรียญ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด ๗ ห้อง ฐานบัวลักษณะตกท้องช้าง หันข้างไปทางทิศตะวันตก กว้าง ๗.๒๔ ม. ยาว ๒๑.๔๕ ม. เป็นสถาปัตยกรรมทรงนิยม สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงแบบตึกคือทำชายคากุด ทั้งในด้านสกัด (จั่วทั้งหน้า-หลัง) กับด้านข้างอีกสองด้าน หลังเป็นผืนเดียวไม่ซ้อนชั้น ใช้โครงสร้างผนังรับน้ำหนัก หลังคาทรงจั่ว โครงสร้างเป็นไม้มุงกระเบื้องดินเผาแบบกาบกล้วย (กาบู) ปิดชายกระเบื้องด้วยกระเบื้องเชิงชายลายเทพพนม (ปัจจุบันชำรุดเสียหาย ต้องทำโครงหลังคาใหม่โดยใช้สังกะสีมุง) ผนังด้านสกัดก่อต่อเป็นรูปจั่วตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นขึ้นเป็นหน้าบัน รองรับด้วยบัวคอสอง ส่วนขอบหน้าจั่วประดับตัวลำยองปูนปั้น และลวดบัวซึ่งจะอมอยู่ในขอบจั่ว ผนังส่วนที่อยู่ใต้บัวคอสองแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน (ด้วยเสาหลอก) ผนังส่วนกลาง (ด้านหน้า) เจาะประตูด้วยช่องสันโค้งแหลม (Pointed Arch) ผนังส่วนกลางด้านหลังทึบ ส่วนแถบผนังอีกสองข้างรองรับปีกนก และเจาะเป็นหน้าต่างด้วยช่องสันโค้งแหลมจำนวน ๒ ช่อง (ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง) ผนังด้านข้างทำเสาหลอกประดับบัวปลายเสา เป็นหน้าต่างด้วยช่องสันโค้งแหลม จำนวนด้านละ ๗ ช่อง ผนังภายในฉาบปูนเรียบ ด้านหลัง เจาะทำเป็นช่องสันโค้งแหลมเพื่อตามประทีปโคมไฟที่ประดับขื่อสูงจรดอกไก่ ไม่มีฝ้าเพดาน พื้นภายในปูอิฐขนาดใหญ่ทับหน้าด้วยปูนทราย และก่ออิฐยกพื้นสูงทำเป็นอาสนะ ๓ ด้าน (ด้านหลัง และด้านข้างทั้งสอง) ด้านหน้าทำชานพักและบันไดทางขึ้นสองข้าง
ปัจุบันโบราณสถานวัดตองปุได้รับการบูรณะแล้ว ในปีงบประมาณ ๒๕๖๓ โดย กรมศิลปากร สำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี
พระอุโบสถ
หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เดิมมีกำแพงแก้วเตี้ย เจาะซุ้มเล็กๆสำหรับวางตะเกียงไว้รอบ ฐานอาคารเป็นฐานปัทม์ หย่อนท้องช้าง ด้านหน้าอาคาร มีประตูทางเข้า ๒ ช่อง กับช่องหน้าต่าง ๑ ช่อง ช่องหน้าต่างทางด้านหน้าและด้านข้าง เจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยม ซุ้มหน้าต่างมีลักษณะเหมือนกับซุ้มบัญชรของพระที่นั่งหลายองค์ในพระราชวังพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ประดิษฐานพระพุทธรูปหินทรายนาคปรกปางสมาธิ ศิลปะสมัยลพบุรี อายุราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ด้านหลังโบสถ์มีกลุ่มเจดีย์สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา รูปแบบมีทั้งเจดีย์ทรงปรางค์ เจดีย์เพิ่มมุมแบบระฆังกลม และเจดีย์เพิ่มมุมแบบระฆังเหลี่ยม นอกกำแพงแก้วมีเจดีย์ทรงสูงชลูด มีเรือนธาตุซ้อนกัน ๒ ชั้น แต่ละด้านของเรือนธาตุมีซุ้มทิศ
พระวิหาร
สร้างขนานกับโบสถ์ อาคารไม่มีช่องหน้าต่าง หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาเช่นเดียวกับหลังคาพระอุโบสถ ประตูทางเข้าเจาะเป็นช่องโค้งมนที่ผนังด้านหน้าและด้านหลัง ด้านละ ๑ ช่อง บันไดทางขึ้นโบสถ์เป็นรูปวงโค้ง เชื่อมกับยกพื้นที่มีแท่นอาสนะสำหรับพระภิกษุนั่งสวดในงานบุญบางโอกาส ซุ้มประตูหน้า-หลัง สร้างเพิ่มเมื่อคราวบูรณะเมื่อพ.ศ. ๒๔๙๑ ภายในวิหารมีพระพุทธรูปหินทรายปางสมาธินาคปรก ศิลปะลพบุรี อายุราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๙ หลายองค์
หอไตรและหอระฆัง
หอไตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตั้งอยู่บนลานประทักษิณ มีบันไดทางขึ้นสู่ลานประทักษิณขนาดเล็ก อาคารมีทางเข้าด้านหน้า ๑ ประตู เหนือกรอบประตูมีซุ้มปูนปั้น ด้านข้างเจาะช่องหน้าต่างสี่เหลี่ยมข้างละ ๒ ช่อง หน้าบันมีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ปั้นด้วยปูนทั้งหมด ที่น่าสนใจคือ หางหงส์ทำเป็นเศียรนาค ๕ เศียร ที่เรียกว่า นาคเบือน ภายในหอไตร มีพระพุทธรูปนาคปรก
หอระฆังตั้งอยู่ถัดจากหอไตร ส่วนบนเป็นทรงปราสาทห้ายอด
ศาลาพระศรีอาริยเมตไตรย
เป็นอาคารสร้างติดพื้น หลังคามุงด้วยกระเบื้องกาบกล้วย ภายในศาลามีภาพจิตรกรรม เล่าเรื่องพุทธประวัติ ฝีมือช่างสมัยรัตนโกสินทร์ ราวรัชกาลที่ ๔-๕ เดิมเป็นที่ประดิษฐานพระศรีอาริยเมตไตรย์ ปัจจุบันประดิษฐานพระปางนาคปรกปูนปั้น
ศาลาการเปรียญหลังเก่า
หันหน้าไปทางทิศตะวันตก สถาปัตยกรรมเป็นแบบสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ นั่นคือ ฐานแอ่นโค้ง เจาะช่องหน้าต่างโค้งแหลม เดิมหลังคามุงด้วยกระเบื้อง บัวหัวเสาเป็นบัวกลีบยาว ประตูและหน้าต่างทางด้านหน้า ศาลาการเปรียญหลังเก่า ปัจจุบันใช้เป็นคลังเก็บของ
นอกจากยังมีโบราณวัตถุที่สำคัญเหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวในเมืองไทย คือ ที่สรงน้ำพระโบราณ หรือที่เรียกกันว่า น้ำพุสรงน้ำพระ เก็บรักษาไว้ที่วัดแห่งนี้
ที่ตั้ง ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี รหัสไปรษณีย์ ๑๕๐๐๐
ประเภท วัดราษฏร์
นิกาย มหานิกาย
พระพุทธรูปสำคัญ พระพุทธรูปหินทรายนาคปรกปางสมาธิ ศิลปะสมัยลพบุรี ราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๙
ความพิเศษ เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในอดีตเคยเป็นที่ชุมนุมกองทัพไทย
จุดสนใจ พระอุโบสถ, พระวิหาร,หอไตร, หอระฆัง สมัยอยุธยา ที่สรงน้ำพระโบราณ
เจ้าอาวาส : พระมหาณรงค์ วฑฺฒโน ปี ๒๕๖๗
ข้อมูลกรมศิลป์,วิกิพีเดีย,dmc