พระราชนันทาจารย์ (ผล อกฺกโชติ ป.ธ.๕)
พระราชนันทาจารย์ มีนามเดิมว่า ผล ใกล้ขาว เกิดเมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๕๔ ณ บ้านเลขที่ ๗๖ หมู่ ๑๐ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร โยมบิดาชื่อ นายคำ ใกล้ขาว โยมมารดาชื่อ นางเผื่อน ใกล้ขาว ชีวิตในวัยเด็ก ได้ช่วยงานครอบครัวอย่างขยันขันแข็ง และจบการศึกษาสามัญชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดธรรมาภิรตาราม
เกิด ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๕๔
อายุ ๙๓ ปี
อุปสมบท ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๔
พรรษา ๗๓
มรณภาพ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗
วัด วัดเวตวันธรรมาวาส
ท้องที่ กรุงเทพมหานคร
สังกัด มหานิกาย
วุฒิการศึกษา น.ธ.โท, ป.ธ.๕
บรรพชาอุปสมบท
อายุ ๑๖ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โดยมี พระพิมลธรรม (ช้อย) เป็นพระอุปัชฌาย์
อายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ณ พัทธสีมาวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โดยมี พระพิมลธรรม (ช้อย) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระญาณสมโพธิ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระเทพโมลี เป็นพระอนุสาวนาจารย์
การศึกษา
พ.ศ. ๒๔๖๖ สอบได้ นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
พ.ศ. ๒๔๖๗ สอบได้ นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
พ.ศ. ๒๔๘๑ สอบได้ เปรียญธรรม ๕ ประโยค สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
พ.ศ. ๒๕๐๒ สำเร็จการศึกษา ประโยคครูพิเศษประถม (พ.ป.) จาก กระทรวงศึกษาธิการ
ตำแหน่ง
ฝ่ายปกครอง
พ.ศ. ๒๔๘๑ เป็น เจ้าอาวาสวัดเวตวันธรรมาวาส
พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็น พระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็น เจ้าคณะแขวงบางซ่อน
พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็น เจ้าคณะเขตพญาไท
ที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตพญาไท
มรณกาล
พระราชนันทาจารย์ (ผล อกฺกโชติ ป.ธ.๕) มรณภาพด้วยเส้นเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ณ โรงพยาบาลบางโพ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร สิริรวมอายุได้ ๙๓ ปี พรรษา ๗๓
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๔๙๙ เป็น พระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูวิบูลโชติวัฒน์
พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๑๐ เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระศีลาจารพิพัฒน์
๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชนันทาจารย์ พุทธิญาณโสภิต ธรรมิกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
วัดเวตวันธรรมาวาส
วัดเวตวันธรรมาวาส เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ในแขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
วัดเวตวันธรรมาวาสตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2326 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2508 เดิมมีชื่อว่า วัดเชิงหวาย หรือ วัดเซิงหวาย สร้างโดยราษฎรอพยพหลบภัยสงครามจากอยุธยา เพราะมีพระพุทธรูปศิลาทรายฝีมือช่างสมัยอยุธยาอยู่หลายองค์ แต่เดิมวัดตั้งอยู่กลางป่าซึ่งมีต้นหวายอยู่มาก จึงเป็นที่มาของชื่อวัด (เดิม)
วัดมีประเพณีชักพระ โดยจะมีการแห่เรือชักพระและสมโภช หลวงพ่อสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น หน้าตักกว้าง 7 นิ้ว สูง 12 นิ้ว ไม่ปรากฏปีที่เริ่มแห่ชักพระ แต่คาดว่านานกว่าร้อยกว่าปี แต่เดิมจะชักพระทางน้ำอย่างเดียว แต่ในปัจจุบันมีเส้นทางบกด้วย
ในสมัยที่พระราชนันทาจารย์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านได้มอบที่ดินของวัดเพื่อก่อตั้งโรงเรียนวัดเวตวันธรรมาวาส ต่อมาได้แยกเป็นโรงเรียนอีกแห่ง คือ โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา
ปัจจุบันมีพระครูกิตติมงคลรัตน์(แก้ว กิตติสาโร) เป็นเจ้าอาวาส