ประวัติ
วัดพระแท่นศิลาอาสน์ เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ที่บนเนินเขาเต่า บ้านพระแท่น ตำบลทุ่งยั้ง ติดกับวัดพระยืนพุทธบาทยุคล เป็นวัดโบราณไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้ใดสร้างและสร้างแต่เมื่อใด วัดพระแท่นศิลาอาสน์ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สังกัดธรรมยุตินิกาย เมื่อปี พ.ศ. 2549
พระแท่นศิลาอาสน์เป็นพุทธเจดีย์เช่นเดียวกับพระแท่นดงรัง โดยมีประวัติความเป็นมาอย่างต่อเนื่องในพระพุทธศาสนามายาวนาน เชื่อกันมาแต่โบราณว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้เพื่อเจริญภาวนา และได้ประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้วเพื่อโปรดสัตว์
ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลงมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาวประมาณ 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ที่ฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระมณฑปศิลปะเชียงแสนครอบอยู่ภายในพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ โดยมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่านายช่างที่สร้างวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระฝาง และวัดสุทัศน์ เป็นนายช่างคนเดียวกัน
บานประตูเก่าของพระวิหารเป็นไม้แกะสลักฝีมือดีแกะไม้ออกมาเด่นเป็นลายซ้อนกันหลายชั้น แม่ลายเป็นก้านขดปลายเป็นรูปภาพต่างๆ เป็นลายเดียวกับลายบานมุขที่วิหารพระพุทธชินราช สันนิษฐานว่าอาจสร้างแต่ครั้งพระเจ้าติโลกราชกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านนาเคียงคู่กับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาพระเจ้าบรมโกศมีพระราชศรัทธาให้ทำประตูมุขตามลายเดิมถวายแทน แล้วโปรดให้เอาบานเดิมไปใช้เป็นบานวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ประตูวิหารเก่าบานดังกล่าวได้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2451 เหลือแต่กุฏิซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อธรรมจักรอยู่เพียงหลังเดียว ต่อมาพระยาวโรดมภักดีศรีอุตรดิตถ์นคร (อั้น หงษนันท์) เจ้าเมืองอุตรดิตถ์ได้เรี่ยไรเงินสร้างและซ่อมแซมวิหาร ภายในวิหารมีซุ้มมณฑปครอบพระแท่นศิลาอาสน์ไว้
นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมี “พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น” ตกแต่งแบบล้านนา ชั้นล่างมีการจัดแสดงภาพเขียน ภาพถ่ายในอดีตของวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ชุดและผ้าไทยโบราณ และจำหน่ายสินค้าจากชุมชน ชั้นสองมีการจัดแสดงพระพุทธรูปเก่าแก่ พระพุทธรูปที่แกะสลักจากไม้ รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในชุมชน อาทิ เครื่องมือจับสัตว์น้ำแบบโบราณ อุปกรณ์เครื่องครัว อุปกรณ์ทำมาหากิน และการละเล่นต่างๆ
ทางราชการได้นำเอาพระแท่นศิลาอาสน์ ไปประดิษฐานไว้ในตราประจำจังหวัดอุตรดิตถ์แสดงถึงความศรัทธาเลื่อมใสและความสำคัญขององค์พระแท่นศิลาอาสน์ได้เป็นอย่างดี ทุกๆ ปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือ ตรงกับวันมาฆบูชา จะมีการจัดงานพระแท่นศิลาอาสน์ ณ วัดแห่งนี้
ข้อมูล palanla