วัดน้ำปาด เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในตำบลชมพู ชาวบ้านชอบเรียกว่า “วัดเฉลียงงาม” เริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2382 ตามหลักฐานที่ขึ้นทะเบียนวัดไว้ มีชื่อว่า “วัดน้ำปาด” มาแต่เดิม คู่กับหมู่บ้านน้ำปาด จากหลักฐานในแผนที่เมืองพิษณุโลก กรมแผนที่ได้จัดทำไว้เมื่อปี พ.ศ.2461 ได้ระบุวัดและตำแหน่งที่ตั้งวัดไว้ กรมศาสนาได้สำรวจและขึ้นทะเบียนที่ดินศาสนสมบัติเมื่อปี 2475
“วัดน้ำปาด” เหตุที่มีชื่อว่า “วัดเฉลียงงาม” ระบุในเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก) เลขที่ 182 ออกวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2520 นั้น เป็นการแจ้งข้อมูลต่อเจ้าพนักงานที่ดินผิดพลาดจากความจริง ในการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินของวัดดังกล่าว โดยใช้ต้นไม้ชนิดหนึ่ง “ต้นเฉลี่ยงงาม” เป็นต้นไม้ใหญ่มีอายุประมาร 100 กว่าปี อยู่ในบริเวณที่ดินของวัด ผู้ให้ข้อมูลจึงเอาชื่อต้นไม้ดังกล่าวเป็นชื่อ “วัดเฉลียงงาม” ทำให้ปรากฏชื่อ “วัดเฉลียงงาม” ในเอกสาร(น.ส.3 ก) ดังนั้น “วัดน้ำปาด” หรือ “วัดเฉลียงงาม” ก็คือวัดเดียวกัน อยู่บนที่ดินแปลงเดียวกัน…..ต้นเฉลียงงาม อยู่ตรงบริเวณโบสถ์หลังเก่า ถูกตัดไปตอนเริ่มซ่อมโบสถ์หลังเก่า
พระอธิการสมชาย เจ้าอาวาสวัดน้ำปาด กล่าวว่า โบสถ์ดังกล่าว เป็นโบสถ์มหาอุตม์ ซึ่งจะมีทางเข้าประตูเดียว แต่โบราณพระภิกษุสงฆ์มักจะมาสวดมนต์ภายในอุโบสถเป็นประจำ และเชื่อว่าจะท่องจำวิชาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตั้งแต่อาตมาได้มาจำวัด และเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ เมื่อสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่าอายุน่าจะมากกว่า 100 ปี
ภายในอุโบสถจะมีพระประธานรูปหล่อสำริด เป็นที่สักการะของคนในหมู่บ้าน และโดยรอบทั้งด้านในและด้านนอกจะมีจิตรกรรมที่วาดโดยช่างพื้นบ้าน เป็นเรื่องราวการทำความดีความชั่ว ความเชื่อของชาวบ้าน และวิถีชาวบ้านในยุคนั้น อาทิ การทำบาปจะตกนรก ภาพรถไฟกรุงเทพชียงใหม่ เป็นต้น สร้างความน่าสนใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ข้อมูล tourwatthai