สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี) วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง เนื้อผง

สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี) วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง เนื้อผง
สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี) วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง เนื้อผงสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี) วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง เนื้อผง
รหัสสินค้า CHYP01
หมวดหมู่ 6. พระเครื่อง จังหวัด อ่างทอง
ราคา 250.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 5 ก.พ. 2567
อัพเดทล่าสุด 5 ก.พ. 2567
จำนวน
องค์
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
“นอนอยู่อยุธยา มานั่งที่ไชโย โตที่วัดอินทร์ จำศีลที่วัดระฆัง” นี่คือคำกล่าวขานที่บอกต่อๆ กันมาถึงอริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน สมเด็จพระพุฒาจารย์โต (โตพฺรหฺมรํสี) ซึ่งยังคงทิ้งปริศนาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ครุ่นคิดว่าแท้จริงแล้วท่านเป็นหน่อเนื้อกษัตริย์เป็นโอรสนอกเศวตฉัตรในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชอย่างที่มีการบันทึกต่อๆ กันมาหรือไม่

ในต้นรัตนโกสินทร์เป็นที่รู้กันว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์โต เป็นพระนักเทศน์และนักสอนธรรมะชนิดที่ไม่มีพระรูปใดในสยามเทียบได้ นอกจากนี้ท่านยังเป็นสมณะที่ไม่ยินดีในสมณศักดิ์เป็นผู้สมถะมักน้อยไม่มีความทะยานในลาภยศวัตถุไม่เรี่ยไรไม่สะสมข้าวของ ปัจจุบันมีตำนานต่างๆ ที่กล่าวถึงท่านปรากฏอยู่มากมาย

ช้างเผือกกินหนังสือ

เล่ากันว่าคืนก่อนที่สามเณรโตจะย้ายไปอยู่วัดระฆังโฆสิตารามพระอาจารย์รูปหนึ่ง (เข้าใจว่าเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์นาค)ได้ฝันว่ามีช้างเผือกตัวหนึ่งเข้ามากินหนังสือพระไตรปิฎกในตู้ของท่านจนหมดชะรอยว่าจะมีคนนำเด็กที่เฉลียวฉลาดมีบุญมาฝากตัวเป็นศิษย์รุ่งขึ้นท่านเจ้าคุณอรัญญิกก็นำสามเณรโตมาถวายตัวเป็นศิษย์

เมตตามหาโจร

คราวหนึ่งขณะที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต กำลังจำวัดอยู่ในเวลาดึกสงัดมีขโมยแอบย่องเข้ามาใต้ถุนกุฏิเอื้อมมือขึ้นทางช่อง หวังหยิบเอาตะเกียงลานที่วางอยู่ทางปลายเท้าของท่านแต่หยิบไม่ถึงเจ้าประคุณสมเด็จฯรู้ตัวตื่นขึ้นพอดีท่านไม่ได้ร้องไล่แต่กลับเอาเท้าเขี่ยตะเกียงให้ อีกคราวตอนท่านกลับจากแสดงธรรมเทศนาที่ต่างจังหวัดโดยทางเรือได้เครื่องกัณฑ์เทศน์เป็นเสื่อหมอนระหว่างจอดเรือพักนอนตอนกลางคืนมีขโมยลอยเรือเข้ามาเงียบๆคว้าเอาเสื่อไปเจ้าประคุณเฝ้าดูอยู่ในความมืดจึงพูดขึ้นเรียบๆว่า“เอาหมอนไปด้วยสิจ๊ะ”พวกโจรตกใจรีบจ้ำเรือหนีท่านก็โยนหมอนตามไปให้

ขายผ้า (ไตรจีวร) เอาหน้ารอด

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้พระอารามหลวงริมน้ำแต่งเรือเข้าประกวดและพระองค์ก็เสด็จฯไป ทอดพระเนตรที่ท่าราชวรดิฐ(ตำหนักแพ)วัดต่างๆที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาต่างแข่งกันประดับประดาเรืออย่างวิจิตรมีแต่เรือของวัดระฆังที่เป็นเรือสำปั้นเก่าและมีเพียงเณรพายหัวท้ายตรงกลางมีลิงตัวหนึ่งผูกไว้กับหลักแขวนป้ายที่คอว่า“ขายผ้าเอาหน้ารอด” พอพระองค์ทราบว่าเป็นเรือของ สมเด็จพระพุฒาจารย์โตก็ตรัสขึ้นว่า“เขาไม่เล่นกับเรา” ต่อมามีข้าราชบริพารไปถามความหมายของคำว่าขายผ้าเอาหน้ารอด สมเด็จพระพุฒาจารย์โต อรรถาธิบายว่า“พระสมณะย่อมหาสมบัติได้ยากนอกจากมีผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายซึ่งก็มีเพียงเครื่องอุปโภคบริโภคย่อมไม่มีทุนทรัพย์หรือสิ่งใดมาแลก เปลี่ยนลงทุนซื้อหาสิ่งต่างๆที่จะนำมาประดับประดาเรือให้สวยงามได้ถ้าจะทำเช่นนี้ได้ต้องนำเอาผ้าไตรจีวรไปขายเสียเพื่อเอาเงินมาทำทุนประดับเรือจึงเท่ากับยอมขายผ้าเอาหน้ารอดไว้ก่อนถึงแม้ว่าผ้าเป็นสิ่งจำเป็นจะต้องเอาไว้ใช้ห่มห่อสังขารกันร้อนหนาวก็ตาม”

หนีรัชกาลที่ 4 ด้วยมนต์นารายณ์แปลงรูป

หลังจากพระมหาโตออกธุดงค์หนีหายไปหลายปีรัชกาลที่4ทรงระลึกถึงและมีพระราชกระแสรับสั่งให้เจ้าเมืองทั่วพระราชอาณาจักรหาตัวพระมหาโตนำส่งเมืองหลวงให้ได้ พระมหาโตลองวิชาเปลี่ยนหน้าเรียกว่านารายณ์แปลงรูปทำให้คนรู้จักกลับจำไม่ได้ต่อมาท่านพิจารณาเห็นว่าการกระทำเช่นนั้นทำให้พระรูปอื่นต้องถูกจับไปอดเช้าบ้าง อดเพลบ้างตากแดดตากฝนเพราะเข้าใจว่าเป็นท่านท่านจึงออกแสดงตนให้คนที่บ้านไผ่รู้จักและนำตัวท่านส่งเข้าพระนคร

บุญไม่เต็มบาทจากยายแฟงหัวหน้าซ่อง

ยายแฟงมีอาชีพเป็นหัวหน้าซ่องนครโสเภณีต่อมาคิดอยากสร้างกุศลจึงได้สร้างวัดใหม่ยายแฟงขึ้นที่ตำบลป้อมปราบศัตรูพ่ายฝั่งพระนครจากนั้นนิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จฯไปเทศน์ตอนหนึ่งท่านเทศน์ว่า”ยายแฟงสร้างวัดครั้งนี้ได้ผลานิสงส์พร่องไม่เต็มหน่วยเพราะเป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงคนอื่นที่ไม่ชอบด้วยธรรมนิยมถ้าเปรียบอานิสงส์ด้วยเงินเหรียญบาทยายแฟงก็ได้ไม่เต็มบาท” ปัจจุบันวัดนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดคณิกาผล

พระสมเด็จเขียวแก้อหิวาต์

พ.ศ.2416เกิดโรคอหิวาต์หรือโรคป่วงครั้งใหญ่ในพระนครมีคนล้มตายเกือบ4,000คนเล่ากันว่ามีการแจกจ่ายพระสมเด็จฯชนิดปรกเมล็ดโพธิ์ที่เรียกว่าสมเด็จเขียวครั้งนั้นหญิงชื่อธูปมีอาการท้องเดินจนตัวซีดไม่รู้จะหายาที่ไหนนึกถึงพระสมเด็จฯที่มีอยู่ จึงอาราธนาน้ำมนต์กินบ้างเอาตบศีรษะบ้างจนโรคหายและว่ากันว่าคนอีกมากที่รอดตายเพราะพระสมเด็จเขียว

สามเณรโตปราบจระเข้

แต่ครั้งยังเป็นสามเณรโตบิดามารดาได้พาล่องเรือเพื่อนำไปฝากเรียนปริยัติธรรมกับพระครูที่หัวเมืองไชยนาทบุรีระหว่างจอดเรืออยู่ที่ท่าในเวลากลางคืนมีจระเข้ตัวหนึ่งเสือกตัวขึ้นมาบนเรือหวังคาบคนไปกินสามเณรโตลุกขึ้นนั่งภาวนาอยู่ในประทุนเรือว่ากันว่าไม่ทันไรจระเข้ตัวนั้นก็อ่อนแรงอ้าปากไม่ออกไม่ฟาดหางทำอันตรายคนบนเรือ

พูดดีแม้แต่กับสัตว์เดรัจฉาน

สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พูดจ๊ะจ๋ากับทุกคนแม้แต่กับสัตว์เดรัจฉาน คราวหนึ่งสุนัขนอนขวางทางเดินของท่านอยู่ ท่านพูดกับสุนัขตัวนั้นว่า“โยมจ๋าฉันขอไปทีจ้ะ” เมื่อมีคนถามว่าทำไมท่านจึงทำอย่างนั้นท่านตอบว่า“ฉันไม่รู้ได้ว่าสุนัขนี้เคยเป็นพระโพธิสัตว์หรือไม่ เพราะในเรื่องชาดกกล่าวว่าในกาลครั้งหนึ่งพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นสุนัข”

ฉันอาหารเพื่อความไม่อร่อย

เจ้าประคุณสมเด็จฯมักฉันอาหารในบาตรเสมอซึ่งทำให้อาหารต่างๆเสื่อมรสหรือถ้าคำแรกรู้สึกว่าอร่อยท่านก็จะฉันเพียงคำนั้นคำเดียวแล้วเอาไปให้พระรูปอื่น หรือเหลือไว้ให้ศิษย์หรือไม่ก็เอาไปให้ทานสุนัขนกกายามมีญาติโยมนิมนต์มาฉันที่บ้านระหว่างเดินทางมาท่านจะเก็บใบไม้บางอย่างติดมือมาด้วยเวลาฉันก็เอาใบไม้เหล่านั้นเจือลงในอาหาร เพื่อให้สิ้นรสชาติอันโอชะ

ศูนย์กลางของโลกอยู่ที่นี่

ในสมัยรัชกาลที่ 4 มีมิชชันนารีเข้ามาเผยแผ่คริสต์ศาสนาในสยามหลายคณะด้วยความเป็นปราชญ์ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือของ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ในขณะนั้นทำให้นักบวชต่างศาสนามักมาแลกเปลี่ยนทัศนะกับท่านอยู่เนืองๆครั้งหนึ่งท่านนักบวชของคริสตจักรกล่าวสรรเสริญคุณธรรมของเจ้าประคุณสมเด็จฯแต่ก็อดที่จะเปรียบเปรยไม่ได้ว่าท่านเจ้าประคุณฯแม้จะมีธรรมะอันลุ่มลึกแต่ในทางโลกก็ไม่สู้จะรู้เรื่องนัก ท่านเจ้าประคุณฯย้อนว่าตัวท่านก็คงเช่นเดียวกัน บาทหลวงว่าท่านรู้ดีทั้งทางโลกทางธรรมเช่นรู้ว่าโลกกลมไม่ได้แบนและมีปลาอานนท์หนุนอยู่ดังคติความเชื่อของคนไทยที่ได้รับอิทธิพลพระพุทธศาสนา เจ้าประคุณฯแย้งว่าสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้2,000 กว่าปีมาแล้วว่าโลกเรามีสัณฐานกลมเช่นผลมะขามป้อมที่พระองค์หยิบมาวางไว้บนฝ่าพระหัตถ์ และอาตมายังรู้ด้วยว่าจุดศูนย์กลางของโลกอยู่ที่ไหน“อยู่ตรงนี้ไงล่ะท่านบาทหลวง” ท่านชี้นิ้วลงตรงหน้า“ก็ท่านบอกอยู่แล้วว่าโลกกลมฉะนั้นไม่ว่าจะเอานิ้วจิ้มลงไปที่ใดมันก็ตรงไปสู่จุดศูนย์กลางได้ทั้งนั้นแหละ”
ต้นเรื่อง: นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 316 มิถุนายน 2554

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาปตท.ถนนกาญจนาภิเษก 2 ออมทรัพย์

JEWELRY-ANTIQUE-AMULET

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม4,444,762 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด3,381,060 ครั้ง
เปิดร้าน4 ก.พ. 2558
ร้านค้าอัพเดท5 ก.ย. 2568

ติดต่อเรา

ติดตามสินค้า

พูดคุย-สอบถาม