หลวงพ่อขนมต้ม เป็นชื่อเรียกตามพุทธลักษณะของพระพุทธสิหิงค์แห่งเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งมีชื่อเสียงในความงดงามเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง
ประดิษฐานอยู่คู่กับชุมชนชาวมอญบ้านบางลำภูมาตั้งแต่เมื่อครั้งอพยพหนีภัยสงครามมาจากทางใต้ของประเทศพม่าในปัจจุบัน โดยอัญเชิญหลวงพ่อขนมต้มมาด้วย เมื่อมืดค่ำที่ใดก็พักค้างแรมที่นั่นและจะนำหลวงพ่อขนมต้มขึ้นประดิษฐานในที่พัก สวดมนต์กราบไหว้ตลอดการเดินทางมาจนถึงเมืองเพชรบุรี และได้ตั้งชุมชนที่บริเวณ บ้านนามอญใกล้เมืองเพชรบุรี
ต่อมาย้ายถิ่นฐานมาอยู่บริเวณบ้านทุ่งใหญ่ติดแม่น้ำเพชรบุรี ใกล้ตัวอำเภอบ้านแหลม เนื่องจากน้ำเค็มรุกขึ้นสูงจนทำมาหากินเพาะปลูกไม่ได้ จึงย้ายมาอยู่บริเวณวัดบางลำภูในปัจจุบันที่อยู่ด้านเหนือบ้านทุ่งใหญ่เล็กน้อย
หลวงพ่อขนมต้ม มีพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 13 นิ้ว สูง 16 นิ้ว สำหรับชาวมอญบ้านบางลำภูเรียกว่า “อะละกาวซอ” เป็นนามในภาษามอญ มีความหมายว่า เจ้าของบุญกุศลที่จะประสิทธิประสาทพรให้แก่เรา (อะละ แปลว่า เจ้าของ, กาวซอ แปลว่า บุญกุศล) จากนามภาษามอญดังที่กล่าวมานี้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ทั่วไปได้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น จึงได้ถวายนามหลวงพ่อขนมต้มอีกนามหนึ่งว่า “หลวงพ่อบุญฤทธิ์” โดยในช่วงสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13 – 17 เดือนเมษายนของทุกปี ทางวัดบางลำภูจะทำการอันเชิญหลวงพ่อขนมต้มมาให้พุทธศาสนิกชน ได้ทำการปิดทองตลอดช่วงสงกรานต์ สำหรับวันสุดท้ายคือวันที่ 17 เมษายน จะมีการสรงน้ำหลวงพ่อแล้ว อันเชิญกลับสู่ศาลาบนวัด
วัดบางลำภู
ตั้งอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เป็นวัดที่ชาวมอญเมื่อครั้งอพยพหนีภัยสงครามมาจากทางใต้ของประเทศพม่าในปัจจุบัน แล้วนำเอาพระพุทธรูป
หลวงพ่อขนมต้ม มาด้วย มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บางลำภู และ ร่วมมือร่วมใจกันสร้างวัดบางลำภูขึ้น โดยปัจจุบันมี พระครูโสภิตวัชรกิจ (หลวงพ่อสงวน) เจ้าคณะอำเภอบ้านแหลม เป็นเจ้าอาวาส
ต่อมาเมื่อมีผู้ศรัทธามากขึ้น ก็จึงได้ร่วมกันสร้างองค์พระองค์ใหม่ขึ้น
ส่วนเหตุผลที่มีชาวบ้านนับถือและศรัทธากันมาก อาจจะเป็นเพราะ ชาวบ้านเหล่านั้นเกิดความศรัทธาจากที่ตนได้บนบานสานกล่าวกับหลวงพ่อขนมต้มไว้ และประสบความสำเร็จดั่งที่ขอ ซึ่งก็เป็นที่กล่าวขานกันมากมายจนถึงปัจจุบัน
จากนั้นเหล่าชาวบ้านและผู้ศรัทธาจึงได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้น ขนาดหน้าตักกว้าง ๙ ศอก ๙ นิ้ว สูง ๑๓ ศอก ๙ นิ้วขึ้น สร้างมาจากทองเหลืองหนัก ๑๐ ตัน เศียรหล่อด้วยทองคำแท้หนัก ๓๐๐ บาท และพระหัตถ์ หล่อด้วยทองคำแท้หนัก ๙๐ บาท โดยประดิษฐ์อยู่ที่วัดบางลำภู ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ในปัจจุบัน
โดยทำพิธีเททองหล่อในวันวิสาขบูชา ตรงกับวันอังคาร ที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖) แล้วเสร็จ จึงเชิญมาประดิษฐานที่วัดบางลำภู ในวันแม่แห่งชาติ ตรงกับวันอังคาร ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ (แรม ๒ ค่ำ เดือน ๙) ซึ่งทางวัดมีความประสงค์สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถอีกด้วย