รูปเหมือน หลวงพ่อโปร่ง วัดเสมียนนารี กรุงเทพมหานคร เนื้อผง หลังยันต์

วัดเสมียนนารี วัดเก่าอายุร้อยกว่าปี
วัดเสมียนนารี หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า ‘วัดแคราย’ ถือเป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งซึ่งมีอายุเกือบจะเข้าสองร้อยปีเข้าไปแล้ว จึงจัดได้ว่าวันนี้มีความสำคัญทางพุทธศาสนา ทั้งยังเป็นโบราณสถานที่สำคัญต่อประวัติศาสตร์ชาติไทยของเราเป็นอย่างมาก โดยวัดเสมียนนารีเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่บริเวณแขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยทางวัดมีเนื้อที่ทั้งหมด 18 ไร่ 90 ตารางวา

ประวัติการก่อสร้างวัดวัดเสมียนนารี
เมื่อประมาณพุทธศักราช 2400 หรือหากเทียบกับปัจจุบันก็คือย้อนกลับไปเมื่อประมาณเกือบ ๆ สองร้อยปีก่อน วัดเสมียนนารีได้ถูกจัดตั้งขึ้นครั้งแรก โดยผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเสมียนพระคลังข้างที่(ท่านเสมียนขำ) เดิมทีรู้จักกันในชื่อวัดแคราย โดยได้รับพระราชทานจากพระเจ้าแผ่นดินในการใช้พื้นที่สร้างอุโบสถ

หลังจากนั้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) ได้มีการดำเนินการสร้างวัดไปจนเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และการดูแลก็ได้ถูกเปลี่ยนมือจากท่านเสมียนขำไปสู่คุณท้าวภัณฑสารนุรักษ์ผู้เป็นบุตรสาว รัชกาลที่ 5 จึงพระราชทานนามให้กับทางวัดใหม่ว่า ‘วัดเสมียนนารี’ เมื่อประมาณพุทธศักราช 2522 เพื่อเป็นเกียรติประวัติให้กับผู้ที่ได้สร้างและทำนุบำรุงวัดนี้มานั่นเอง

และเมื่อปีพุทธศักราช 2555 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร(รัชกาลที่ 9) พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะวัดเสมียนนารีจากวัดราษฎร์ที่มีการจัดสร้างและดูแลโดยประชาชรทั่วไป ให้ขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ(เป็นวัดที่ไม่มีนามสร้อยต่อท้าย โดยส่วนใหญ่จะต่อท้ายว่าพระอารามหลวง) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ปัจจุบันภายในวัดจะประกอบไปด้วยพระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีการสร้างโดยศิลปะสมัยสุโขทัยหลายองค์ และพระอุโบสถหลังใหม่ โดยอุโบสถหลังใหม่นั้นมีขนาดกว้าง 10 เมตร ลักษณะภายนอกออกแบบคล้ายคลึงกับเรือนทรงไทย มีการใช้วัสดุหินอ่อนในการสร้างทั้งหลัง โดยอุโบสถหลังนี้มีพระประธานพิมพ์พระพุทธชินราชองค์จำลอง หรือที่เรียกกันว่า พระศรีศากยะพุทธวงศ์มุนี ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 9 นิ้ว ประดิษฐานอยู่ภายใน เพื่อให้เป็นที่สักการะและกราบไหว้ของประชาชนโดยทั่วไป

นอกจากนั้นประชนที่เดินทางไปยังวีดเสมียนนารี ยังสามารถพบเห็นความงดงาม และทรงคุณค่าของผลงานจิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถ ซึ่งด้านทิศใต้เป็นภาพพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ จนถึงปรินิพพาน ในขณะที่ด้านหลังอุโบสถเป็นหลวงพ่อพระร่วงโรจนฤทธิ์ ด้านหน้าวิหารมีรูปเหมือนพระครูภัทรโสภณ (หลวงพ่อโปร่ง) นอกจากนั้นยังประกอบไปด้วยวิหารศาลาพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม และมีพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งอยู่ด้านข้างอีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถเข้ามาสักการะบูชาและกราบไว้ได้ตามความต้องการเลยนั่นเอง

ไม่เพียงเท่านั้นภายในวัดเสมียนนารียังใส่ใจในเรื่องของการเผยแพร่และเปิดพื้นที่ทางการศึกษาให้กับบุคคลทั่วไป จึงมีการจัดพื้นที่ทำเป็นห้องสมุดประชาชน เพื่อเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ใกล้เคียง หรือผู้ที่สนใจ ได้เข้ามาหาความรู้กันได้ที่นี่อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นเพราะภายในบริเวณวัดเสมียนนารียังมีสถานที่ซึ่งจัดสร้างเป็นสำนักเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี ให้กับผู้ที่ศึกษาธรรมะตลอดจนพระสงฆ์ ในพุทธศาสนา

พระพุทธรูปและปูชนียวัตถุที่ควรสักการะ
หลวงพ่อพุทธสุโขอภิโรจนะ
หลวงพ่อพุทธโสธร
หลวงพ่อสังกัจจายน์
พระศรีศากยะพุทธวงศ์มุนี
ศาลาพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม
หลวงพ่อพระร่วงโรจนฤทธิ์
พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ข้อมูล wreath789