พระภาวนาพรหมคุณ (หลวงพ่อเมตตานุศาสน์) เจ้าอาวาสวัดกุฎีทอง, ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอพรหมบุรี จ.สิงห์บุรีพระภาวนาพรหมคุณ เดิมชื่อ "บุญช่วย นนทรีย์" เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๓ บิดาชื่อ "จัน" มารดาชื่อ "สิน" อยู่บ้านเลขที่ ๑๗๙ หมู่ ๓ ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๔๙๓ ณ วัดอุตมะพิชัย ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี โดยมี พระครูหอม วัดเก้าชั่ง ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดกิมเฮง วัดพุทธาราม ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการหวั่น วัดเทพมงคล ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "จิตฺตปญฺโญ"
หลวงพ่อเมตตา สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนนาคประดิษฐ์ ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี เมื่ออุปสมบทแล้วท่านสอบได้นักธรรมเอก สำนักเรียนวัดกุฎีทอง และเรียนวิชาพิมพ์ดีดสัมผัส ๑๐ นิ้ว เป็นการศึกษาพิเศษอีกด้วย
ท่านมีความชำนาญทางนวกรรม ช่างก่อสร้าง การออกแบบแปลน แผนผัง ทางศิลปกรรมการปั้น การเขียนลวดลาย
งานทางด้านการปกครอง ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกุฎีทอง ตั้งแต่ปี ๒๕๑๐ เป็นเจ้าคณะอำเภอพรหมบุรี เมื่อปี ๒๕๔๕ และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอพรหมบุรี เมื่อปี ๒๕๕๓ จนถึงปัจจุบัน
หลวงพ่อเมตตา รับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความอุตสาหะ มีความเมตตาเป็นที่ตั้ง นอกจากงานรับผิดชอบทางด้านการปกครองของสงฆ์ซึ่งเป็นภารกิจหลักแล้ว ท่านยังให้ความสำคัญกับการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอน ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางก็คือ โครงการ "สร้างคนให้เป็นมนุษย์" ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๙ โดยจัดอบรมธรรมะแก่เยาวชน รวมทั้งอุบาสกอุบาสิกา ได้ส่งพระวิทยากรไปอบรมนักเรียนและประชาชนทุกๆ ปี หลายจังหวัดทั่วประเทศ และจัดให้มีการปฏิบัติธรรมในโอกาสต่างๆ อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งได้จัดตั้งสถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดสิงห์บุรี (FM 98 Mz) สถานีวิทยุเพื่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และวัฒนธรรมไทย เพื่อเพิ่มช่องทางในการเผยแผ่หลักธรรมคำสั่งสอนในบวรพระพุทธศาสนา เป็นการสนับสนุนการศึกษาธรรมะและการปฏิบัติ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารบริการสาธารณะ ข่าวสารในชุมชน ข่าวสารงานบุญงานประเพณี ข่าวสารของวัดวาอาราม และข่าวสารจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ ที่เป็นสาระประโยชน์ต่อสังคม
วัดกุฎีทอง (จังหวัดสิงห์บุรี)วัดกุฎีทอง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลบางน้ำเชี่ยว อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่ดินที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ 12 ไร่ 1 งาน 46 ตารางวา มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน 4 แปลง เนื้อที่ 20 ไร่ 2 งาน 79 ตารางวา
วัดกุฎีทองตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2375 เดิมมีชื่อว่า วัดโพไชย แต่ชาวบ้านเรียก วัดบ้านทราย เนื่องจากที่ตั้งวัดเดิมเป็นบริเวณที่กระแสน้ำพัดพุ่งตรงเข้าหาฝั่งพอดี ทำให้ตลิ่งพัง จึงได้ จึงได้ย้ายวัดหนีลึกเข้าไป พร้อมทั้งจัดการบูรณะวัดขึ้นใหม่ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดกุฎีทอง" ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2476 หลวงพ่อนา ควรคุณ ได้ดำเนินการย้ายวัดลึกเข้าไปอีกเป็นครั้งที่ 2 เพื่อความสงบในการใช้สถานที่ของสงฆ์ รวมถึงป้องกันฤดูน้ำหลากที่แต่ละปีตลิ่งจะพังลง วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2511 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 30 เมตร ยาว 50 เมตร ด้านการศึกษา มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. 2500
อาคารเสนาสนะที่สำคัญ ได้แก่ อุโบสถ กว้าง 8 เมตร ยาว 20 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.2511 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ กว้าง 16 เมตร ยาว 37 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2480 เป็นอาคารไม้ ทรงไทย สูง 2 ชั้น ศาลาอเนกประสงค์ กว้าง 20.60 เมตร ยาว 30.30 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ .2518 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก มณฑปลักษณะเหมือนเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2443 โดยหลวงพ่อปัญญา อุตมะพิชัย หอสวดมนต์ กว้าง 10.20 เมตร ยาว 16.30 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2528 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ฌาปนสถาน 1 หลัง หอระฆัง 1 หลัง หอกลอง 1 หลัง โรงครัว 1 หลัง เรือนเก็บพัสดุ 1 หลัง และกุฏิเจ้าอาวาส 1 หลัง ปูชนียวัตถุมีพระประธานประจำอุโบสถ ปางประทานพร ขนาดหน้าตักกว้าง 1.75 เมตร สูง 1.5 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2514 พระประธานประจำศาลาการเปรียญ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 1.2 เมตร สูง 1.5 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2436