ประวัติปู่เณรเป็นชาวเวียงจันทร์ อพยพมาด้วยกันสามพี่น้องคือ ท้าวพาน ท้าวยวง และท้าวเณร ได้พาชาวบ้านมาหลายพันคมมาตามลำน้ำโขง เข้ามาในประเทศไทย ทางลำน้ำเหือง จังหวัดเลย แล้วแบ่งชาวบ้านไว้ ๒๕๐ ครัวเรือน ส่วนที่เหลือเดินทางต่อมาถึงเชิงเขาขยาง(กระยาง) เขตอำเภอนครไทย จึงได้พักพลชั่วคราว แล้วส่งคนมาหาทำเลตั้งถิ่นฐาน ทำมาหากิน เมื่อลงมาถึงที่ราบลุ่มเชิงเขาสมอแคลง เห็นว่าเป็นทำเลที่เหมาะสม เพราะมีทั้งป่า เขา ห้วย หนอง คลอง บึง และที่ราบ อาหารสมบูรณ์ หลังจากนั้น ขบวนอพยพ นำโดย ท่านท้าว ๓ พี่นี้อง มาตั้งมั่นอยู่บริเวณรอบๆเขาสมอแคลง จนกลายเป็นตำบลใหญ่ ต่อมาได้มีคนเพื่มมากขึ้น (จนมีคำเปรียบเทียบว่า "ไก่บินไม่ตกจากหลังคา" ท้าวเณร(พ่อปู่ขุนเณร) ปกครองดูลครัวที่เหลืออยู่ที่เขาสมอแคลงนั้นเอง จนเวลาผ่านมาเป็นเวลา ๕๗๐ กว่าปี ร่องรอยในอดีตยังเหลือให้เราเห็นอยู่จนทุกวันนี้ และพ่อปู่ขนเณร ยังเป็นที่สักการะของคนในระแวกนั้นจนถึงปัุจจุบัน
วัดพระพุทธบาทเขาสมอแคลง
ตามที่นักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบหนังสือสำคัญที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชนิพนธ์ พระราชปรารภ เรื่องพระพุทธเจ้า และมีข้อความสำคัญกล่าวถึงวัดพระพุทธบาทเขาสมอแคลง ไว้ว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จบิณฑบาตไปถึงที่นั้น แล้วหยุดฉันท์ที่ใต้ต้นสมอ ที่เขาสมอแคลง ซึ่งเดิมเรียกว่าพนมสมอ เห็นควรจะเป็นที่ตั้งพระพุทธศาสนา ทรงประทับรอยพระพุทธบาทในลักษณะตะแคงขนาดใหญ่ อยู่บนหน้าผา ด้านตะวันตกของวัด อีกทั้งยังปรากฏพระพุทธฉาย บนผนังหน้าผาขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธบาทตะแคงแห่งเดียวในโลก