วัดพิมพฤฒารามวัดพิมพฤฒาราม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่ ตำบลพนัสนิคม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
สถานะวัด
ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๘
รับวิสุงคามสีมา เมื่อ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๓
ลำดับรายนามเจ้าอาวาส
พระครูบวรกิตติวัฒน์ (กิตติชัย อธิฐาโน) เจ้าอาวาสวัดพิมพฤฒาราม
พระพนัสบดีพระพนัสบดี เป็นพระพุทธรูปศิลาศิลปะสมัยทวารวดี ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุ โดยสันนิษฐานว่าพระพนัสบดีองค์จริงนั้น สร้างขึ้นในสมัยทวารวดี และมีการสร้างพระพนัสบดีองค์จำลอง ประดิษฐาน ณ หอพระพระพนัสบดี อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี จัดเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามองค์หนึ่ง
ประวัติมีการค้นพบพระพุทธรูปพระพนัสบดีเมื่อประมาณปี พ.ศ.2440 โดยผู้พบขณะพายเรือไปขายของ ได้ปักไม้พายไปถูกองค์พระใต้ผิวน้ำที่ชายฝั่งคลองแบ่ง ตำบลไร่หลักทอง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี และได้เก็บรักษาบูชาไว้ที่บ้านซึ่งอยู่ตรงข้างสถานีตำรวจพนัสนิคมมาจนถึงปัจจุบัน เป็นพระพุทธรูปจำหลักจากศิลาดำเนื้อละเอียด นักโบราณคดีกำหนดว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยทวารวดี โดยพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะเช่นเดียวกันนี้ เก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครหลายองค์ พระพนัสบดี มีพุทธลักษณะงดงามแปลกกว่าพระพุทธรูปอื่น ๆ คือ เป็นฐานพระพุทธรูปปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ ประทับยืนบนดอกบัว ยกพระหัตถ์ทั้งสองเสมอพระอุระ จีบพระองคุลีพระหัตถ์ทั้งสองเช่นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา บนฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองมีลายธรรมจักร เบื้องพระปฤษฎางค์มีประภามณฑล ประทับยืนบนสัตว์พาหนะที่แปลกพิเศษ โดยเป็นสัตว์ที่เกิดจากจินตนาการ ซึ่งประติมากรผู้สร้างพระพุทธรูปนำ โค ครุฑ หงส์ มารวมเป็นสัตว์ตัวเดียวกัน สัตว์นั้นมีหน้าเป็นครุฑ เขาเป็นโค ปีกเป็นหงส์ โดย โค ครุฑ และหงส์ เป็นพาหนะของเทพเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวรทรงโค พระนารายณ์ทรงครุฑ พระพรหมทรงหงส์ ผู้สร้างอาจหมายถึงพระพุทธเจ้าอาศัยศาสนาพราหมณ์เป็นพาหนะในการประกาศพระศาสนา หรืออาจหมายถึงพระพุทธเจ้าทรงชัยชนะแล้วซึ่งศาสนาพราหมณ์ก็ได้ พระพนัสบดีที่ขุดพบมีความสูง 45 เซนติเมตร
พระพนัสบดีองค์จำลอง สร้างเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2517 จำลองให้ขนาดใหญ่กว่าเดิม 3 เท่า ประดิษฐานอยู่ ณ หอพระ ซึ่งเป็นอาคารจตุรมุขกลางสระน้ำในเขต เทศบาลเมืองพนัสนิคม ส่วนองค์จริงกรมศิลปากรได้ตรวจอายัดเมื่อ พ.ศ. 2474 พระพนัสบดีเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่มีอายุ 1,200–1,300 ปี ประทับยืนบนหลังสัตว์ประหลาดที่สร้างขึ้นจากจินตนาการ รูปร่างคล้ายนก ดวงตากลมโปนโต แก้มเป็นกระพุ้ง จะงอยปากใหญ่งุ้มแข็งแรง ปลายจะงอยปากจากบนลงล่าง มีรูทะลุคล้ายกับจะแขวนกระดิ่งได้ มีเขาทั้งคู่บิดเป็นเกลียวงอเข้าหากันคล้ายเขาโคตั้งอยู่เหนือตา ที่โคนเขามีหูสองหูอย่างหูโค มีปีสองข้างใหญ่สั้นที่กำลังกางออก ขาทั้งสองข้างพับแนบทรวงอกยกเชิดขึ้นอย่างขาของครุฑที่กำลังเหินลม
กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนพระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี อำเภอพนัสนิคม ตำบลพนัสนิคม เป็น
โบราณวัตถุ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478