ปัจจุบัน พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ประดิษฐานอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร และภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารยังมีวิหารองค์จำลองให้ได้สักการะกันด้วย
ประวัติวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ไม่มีหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย และเป็นพระอารามหลวงมาแต่เดิม เพราะได้พบหลักฐานศิลาจารึกสุโขทัยมีความว่า พ่อขุนศรีนาวนำถมทรงสร้างพระทันตธาตุสุคนธเจดีย์ ส่วนในพงศาวดารเหนือกล่าวไว้ว่า ในราวปี พ.ศ. 1900 พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก (พระมหาธรรมราชาลิไท) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงสุโขทัย ทรงมีศรัทธาเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังได้ทรงศึกษาพระไตรปิฎกและคัมภีร์ศาสนาอื่น ๆ จนช่ำชองแตกฉาน หาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก พระองค์ได้ทรงสร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน มีพระปรางค์อยู่กลาง มีพระวิหาร 4 ทิศ มีพระระเบียง 2 ชั้น และรับสั่งให้ปั้นหุ่นหล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารทั้ง 3 หลัง
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เมื่อ พ.ศ. 2548 ปัจจุบันจึงมีชื่อเต็มว่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยจะมีงานนมัสการพระพุทธชินราชในวันขึ้น 6 ค่ำ ถึงวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี
พระพุทธชินราช
พระพุทธชินราช หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารด้านตะวันตก ได้รับการถวายพระเกียรติคุณยกย่องให้เป็นพระพุทธรูปที่สง่างามที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นพร้อมกับพระพุทธรูปอีก 2 องค์ คือ พระพุทธชินสีห์ และ พระศรีศาสดา โดยวัสดุหล่อด้วยทองสำริด ปางมารวิชัย ลงรักปิดทอง มีหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7 ศอก มีพุทธลักษณะที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พระวรกายสมส่วน นิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเรียบเสมอกัน มีพระอุณาโลมที่พระนลาฏ พระขนงใหญ่ พระเนตรทอดต่ำ ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีที่มีบัวคว่ำบัวหงาย มีซุ้มเรือนแก้วแกะสลักไม้ลงรักปิดทองที่มีความประณีตอ่อนช้อยงดงาม ด้านข้างซ้าย-ขวาจะมีท้าวเวสสุวรรณและท้าวอาฬวกยักษ์คอยพิทักษ์รักษา ทั้งนี้ ภายในพระวิหารห้ามยืนถ่ายรูป
ปัจจุบัน พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ประดิษฐานอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร และภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารยังมีวิหารองค์จำลองให้ได้สักการะกันด้วย