วัดเสมียนนารี
พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัด : มหานิกาย
วัดเสมียนนารี (วัดแคราย) ตั้งอยู่เลขที่ 32 หมู่ 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ทั้งหมด 18 ไร่ - งาน 90 ตารางวา
- ทิศเหนือ ติดกับโรงเรียนวัดเสมียนนารี และที่ดินของเอกชน
- ทิศใต้ ติดกับถนนประชานิเวศน์ เชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนประชาชื่น
- ทิศตะวันออก ติดกับถนนกำแพงเพชร 6 (โรคอลโรด) และทางรถไฟ สายเหนือ-อิสานถ้าข้ามทางรถไฟไปเป็นถนนวิภาวดีรังสิต
- ทิศตะวันตก ติดกับคลองเปรมประชากร ข้ามคลองไปจะเป็นชุมชนประชาร่วมใจ
ตามบันทึกของกรมการศาสนา ปรากฏว่า วัดเสมียนนารี เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2400 โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ ปี พ.ศ.2420 ท่านผู้ที่ริเริ่มสร้างวัด เป็นสุภาพสตรีในวัง ท่านมีตำแหน่งเป็นเสมียนพระคลังข้างที่ มีนามว่า "ท่านเสมียนขำ" และตำแหน่งนี้ ภายหลังตกทอดมายังธิดาของท่าน คือ คุณท้าวภัณฑสารนุรักษ์(เพิ่มรัตนทัศนีย์) ซึ่งได้ตำแหน่งเป็นเสมียนพระคลังข้างที่ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ท่านทั้งสองได้สร้างวัดแครายและทำนุบำรุงวัดมาโดยตลอดตราบเท่าอายุขัยของท่าน ดังนั้นวัดนี้จึงได้ขนานนามว่า "วัดเสมียนนารี" เพื่อเป็นเกียรติประวัติ แก่ท่านทั้งสอง ในปี พ.ศ. 2522
ทางวัดได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ มีขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 30 เมตร ลักษณะทรงไทย สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ภายในอุโบสถมีพระประธานพิมพ์พระพุทธชินราช (จำลอง) พระนามว่า "พระศรีศากยะพุทธวงศ์มุนี" ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 9 นิ้ว ปิดทองทั้งองค์ และฝาผนังอุโบสถมีภาพจิตรกรรม ด้านทิศใต้เป็นภาพพุทธประวัติ ตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน
ด้านหลังอุโบสถเป็นหลวงพ่อพระร่วงโรจนฤทธิ์
ส่วนอุโบสถหลังเก่าหรือวิหารนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปแบบศิลปะสุโขทัย พระนามว่า หลวงพ่อพุทธสุโขอภิโรจนะ และหลวงพ่อพุทธโสธร หลวงพ่อสังกัจจายน์
ปี พ.ศ. 2532 วัดเสมียนนารี ได้ดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้นสูง 3 ชั้น ขนาดกว้าง 20 เมตร ขนาดยาว 57 เมตร ลักษณะทรงไทย
ส่วนชั้นที่ 1 ใช้บำเพ็ญกุศลงานบุญต่าง ๆ
ส่วนชั้นที่ 2 เป็นห้องประชุมของคณะสงฆ์ในโอกาสต่าง ๆ และเป็นสถานที่สอบธรรมสนามหลวงของเขตบางเขน-จตุจักร ในส่วนมุขได้ทำเป็นห้องสมุดประชาชน
ส่วนชั้นที่ 3 เป็นสำนักเรียนพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกธรรมและบาลี
วันอาทิตย์จะมีนักเรียนนักศึกษามาเรียนพุทธมามกะ ด้านซ้ายวิหาร เป็นศาลาพุทธานิมิต ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวม 18 องค์ ไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้
ด้านหน้าวิหาร มีรูปเหมือนพระครูภัทรโสภณ (หลวงพ่อโปร่ง) ด้านขวาวิหาร เป็นศาลาพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม ด้านข้างรูปเหมือนสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง สมเด็จ ร.5
ส่วนที่พักของพระภิกษุ สามเณร เป็นกุฏิทรงไทย 3 ชั้น มี 81 ห้อง ในส่วนชั้นล่างเป็นห้องโถงกว้างไว้สำหรับบำเพ็ญกุศลในกุศลในโอกาสต่าง ๆ รอบหน้ากุฎิเป็นสวนป่าเฉลิมพระเกียรติ 72 พระพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพรรณไม้นานาชนิด
ส่วนศาลาบำเพ็ญกุศลมีทั้งหมด 11 ศาลา (ศาลาสวดศพ) ไว้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล เพราะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เป็นสถานที่สะดวกแก่พุทธศาสนิกชนผู้สัญจรไปมา
วัดเสมียนนารี ได้พัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี พ.ศ. 2531 วัดได้รับการยกย่องจากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ให้วัดเสมียนนารี เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ของกรุงเทพมหานคร
วัดเสมียนนารี
เลขที่ 32 หมู่ 2 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
ความสำคัญ : พระอารามหลวง ชั้นตรี , พระอุโบสถหินอ่อนสวยงามมาก
สังกัดคณะสงฆ์ : มหานิกาย
ลำดับเจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี
ในสถานะวัดราษฎร์ ปีพุทธศักราช ๒๔๐๐-๒๕๕๕
๑. พระอธิการเที่ยง ไม่ปรากฏ ปี พ.ศ.
๒. พระอธิการมอญ ไม่ปรากฏ ปี พ.ศ.
๓. พระอธิการทอง ไม่ปรากฏ ปี พ.ศ.
๔. พระอธิการสุข ไม่ปรากฏ ปี พ.ศ.
๕. พระอธิการแปลก ไม่ปรากฏ ปี พ.ศ.
๖. พระอธิการจ้อย ไม่ปรากฏ ปี พ.ศ.
๗. พระครูใบฎีกาประยงค์ ถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๕
๘. พระครูภัทรสารโสภณ (โปร่ง ภทฺทสโร) อดีตเจ้าคณะตำบลอนุสาวรีย์ อดีตพระอุปัชฌาย์ ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๑๖
๙. พระเทพวรสิทธาจารย์ (อุทัย อุทโย) ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ถึง พ.ศ. ๒๕๕๕