หลวงปู่ธัมมา พิทักษา ท่านเป็นลูกชาวนา บ้านสร้างเรือง ตำบลหญ้าปล้อง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เดิมชื่อธัมมา นางสกุล พิทักษา ภายหลัง
อุปสมบท ได้ชื่อและฉายาว่าพระธัมมา จิตตปญฺโญ แต่ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกชื่อ หลวงปู่ธัมมา พิทักษา เป็นพระนักเทศน์ ที่มีโวหารง่ายๆ
แบบชาวบ้าน ผลงานการ เผยแผ่ปรากฏทางวิทยุกระจายเสียงเป็นที่แพร่หลายในพุทธบริษัททั่วไป ผลงานหนังสือก็มีหลายเล่ม เช่น หลวงปู่(งั่ง)
บอกใบ้ สนใจบ้างหรือเปล่า พระหรือโยมโง่ก็ไม่รู้นะ เป็นต้น หลวงปู้ได้สมณศักดิ์ เป็น พระครูวิบูลธรรมภาณ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดอมร-
ทายิการาม(วัดใหญ่ยายมอญ) บางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร
ผลงานที่สำคัญ หลวงปู่ธัมมา พิทักษา เป็นผู้มีจิตใจละเอียดอ่อน มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่โอ้อวด ท่านสอบนักธรรมบาลีได้ แต่แทบ
ไม่มีใครรู้จักว่าท่านเป็นพระมหาธัมมา มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และบ้านเกิดเมืองนอนเป็นอย่างสูง ด้วยเหตุนี้แม้จะได้จากบ้านเกิดไปอยู่
กรุงเทพมหานคร โดยเป็นเจ้าอาวาส วัดใหม่ยายมอญ ก็ยังได้ขวนขวาย นำผู้ศรัทธามาร่วมก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ ผลงานที่เด่นก็คือ
มีศรัทธาสร้างสถานีอนามัยบ้านสร้างเรือง และในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้เริ่มงานการก่อสร้างศาสนวัตถุที่สำคัญชิ้นหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ คือ
งานก่อสร้างพระธาตุเรืองรอง บนฐานกว้าง ๓๐x๓๐ เมตร สูง ๔๓.๖๐ เมตร มี ๕ ชั้น จนแล้วเสร็จลงในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ จัดเป็นศาสนสถานที่ สำคัญและเป็นที่ท่องเที่ยว ไปสักการะของชาวพุทธแห่งหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ ผลงานอื่นๆ มีอีกมากมาย รวมทั้งการสนับสนุนการจัดตั้ง
มูลนิธิการกุศลต่างๆ เป็นประจำ การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อนุเคราะห์ผู้ยากไร้ นำพระพุทธรูป หนังสือ ถ้วยจาน ทุนการศึกษา และอุปกรณ์อื่นๆ
แก่ วัด โรงเรียน ชุมชนต่างๆ เป็นประจำทุกปี
วัดอมรทายิการาม เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ในแขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 6 ไร่ 3 งาน เจ้าอาวาสคือ พระครูวิบูลธรรมภาณ (ธัมมา จิตฺตปญฺโญ)
ประวัติ
วัดอมรทายิการามสร้างขึ้นเมื่อก่อน พ.ศ. 2430 (จากการปรากฏในแผนที่สำรวจฉบับกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พ.ศ. 2430 ที่ผู้สำรวจใช้ชื่อว่า วัดใหม่ยายมอญ แสดงให้เห็นว่าเป็นวัดที่ตั้งขึ้นใหม่) ไม่ทราบนามและประวัติผู้สร้าง เดิมชื่อ วัดยายมอญ สันนิษฐานว่าอุบาสิกาชื่อว่า อมร น่าจะเป็นผู้ที่ยกที่ดินให้และดำเนินการสร้างวัด จึงได้ตั้งชื่อวัดตามชื่อผู้สร้าง ต่อมาในปี พ.ศ. 2482 ได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดอมรทายิการาม" ซึ่งยังคงความหมายตามนามเดิม วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 วัดยังมีให้การศึกษาพระปริยัติธรรมและมีห้องสมุดภายในวัด
อาคารเสนาสนะ
อุโบสถกว้าง 8.90 เมตร ยาว 12.50 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2522 ภายในประดิษฐานพระประธาน หน้าตัก 35 นิ้ว กุฎีสงฆ์จำนวน 4 หลัง เป็นอาคารไม้ ศาลาการเปรียญกว้าง 8 เมตร ยาว 30 เมตร สร้าง พ.ศ. 2518 เป็นอาคาร 2 ชั้น เจดีย์ขนาดสูง 8 เมตร