พระเทพปริยัติวิธาน (บุศย์ โกวิโท)
เกิด ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๘
อายุ ๘๙ ปี
อุปสมบท ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๓
พรรษา ๕๒
มรณภาพ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
วัด วัดดาวดึงษาราม
ท้องที่ กรุงเทพมหานคร
สังกัด มหานิกาย
วุฒิการศึกษา น.ธ.เอก
สถานะเดิม
พระเทพปริยัติวิธาน มีนามเดิมว่า บุศย์ เปรมวงศิริ เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๘ เป็นบุตรนายสน นางบุญ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่หมู่ที่ ๙ ตำบลไผ่พระ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อุปสมบท
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม พศ. ๒๔๙๓ ณ วัดหนองเสือ ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) วัดสุทัศเทพวนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
การศึกษา
นักธรรมชั้นเอก
ตำแหน่ง
ฝ่ายปกครอง
พ.ศ. ๒๔๘๙ เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง
พ.ศ. ๒๔๙๙ เป็น เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง
พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็น เจ้าคณะตำบลวัดชลอ - บางกรวย
พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็น รองเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม
พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็น ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม
พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๔๖ เป็น เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม พระอารามหลวง
พ.ศ. ๒๕๐๘ เป็น ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดอมรคีรี
พ.ศ. ๒๕๑๐ เป็น พระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็น เจ้าคณะแขวงบางยี่ขัน - ศิริราช เขต ๒
พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็น ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดจตุรมิตรประดิษฐาราม
พ.ศ. ๒๕๓๓ เป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะแขวงบางยี่ขัน
มรณกาล
พระเทพปริยัติวิธาน (บุศย์ โกวิโท) มรณภาพเพราะหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ เวลา ๐๘.๔๕ น. ณ กุฏิวัดดาวดึงษาราม
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๐๖ เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นตรี ที่ พระครูโสภณธรรมาจารย์
พ.ศ. ๒๕๑๑ เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระโสภณธรรมาจารย์
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชปริยัติวิธาน บริหารศาสนกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพปริยัติวิธาน ปฏิภาณธรรมโกศล วิมลศาสนกิจมหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
วัดดาวดึงษาราม
วัดดาวดึงษาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ในแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
ประวัติ
วัดสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยดำริของเจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1 หรือคุณเสือที่ได้สร้างวัดไว้กลางสวนตำบลบางยี่ขัน ธนบุรี เดิมชื่อว่า วัดขรัวอิน คุณเสือได้สร้างพระอุโบสถก่ออิฐสูงพ้นดินประมาณ 2 ศอก เอาไม้แก่นทำเสาประธาน หลังคามุงกระเบื้องฝาผนังไม้สัก มีบานประตูหน้าต่างเข้าออก ในสมัยรัชกาลที่ 2 มีเจ้าลาวคนหนึ่งเป็นผู้หญิงชื่อ อิน ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะสงฆ์ รื้อกุฏิเดิมซึ่งเป็นไม้ ก่อเป็นตึก ใช้ไม้แก่นเป็นเสาประธาน หลังคามุงกระเบื้อง ฝาไม้ไผ่ขัดแตะถือปูน ดูเหมือนฝาผนังตึกมีประตูหน้าต่าง รื้อฝาผนังและหลังคามุงกระเบื้อง มีช่อฟ้าใบระกา
ต่อมารัชกาลที่ 3 ได้พระราชทานนามใหม่ว่า วัดดาวดึงษาราม ซึ่งหมายถึง วัดเป็นที่สถิตของพระอินทร์ ซึ่งยังมีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่โดยพระยามหาเทพ (ปาน) ต้นตระกูลปาณิกบุตร ได้ก่อร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ และถาวรวัตถุอีกมากมาย ในอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องราวทศชาติชาดก เรื่องพระมหากัสสปะ เรื่องพระเจ้าทธิวาหนะ เรื่องพระนางสามาวดี เป็นต้น เชื่อกันว่า เป็นฝีมือของครูกงแป๊ะ (หลวงเสนีย์บริรักษ์) และครูทองอยู่ (หลวงวิจิตรเจษฎา) ช่างฝีมือเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในยุคนั้น
ข้อมูลวิกิพีเดีย