พระครูวินัยธรฮวด (หลวงปู่ฮวด)
สังกัด วัดบ้านพระเจ้า ตำบลพระเจ้า อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด
ตำแหน่ง : พระเถระผู้นำทำงานด้านสังคมสงเคราะห์
หลวงปู่ฮวด วัดบ้านพระเจ้า
ศิษย์สายภูเขาควาย บรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดร
ท่านเกิด วันเพ็ญเดือน๖ พ.ศ.๒๔๑๗ ที่จังหวัด ขอนแก่น
สิ่งสำคัญที่หลวงปู่ได้สร้างไว้คือ เจดีย์ศรีมหาธาตุ
มีเรื่องปาฏิหาริย์เกี่ยวกับท่านอยู่หลายเรื่อง เช่น ในครั้งหนึ่ง หลวงปู่ได้จำวัดอยู่ที่หนึ่ง ได้มีงูเผือกขนาดใหญ่ปรากฏตัวออกมาทำให้ผู้คนในหมูบ้านเกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าออกจากบ้านเพื่อทำมาหากิน ชาวบ้านจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากหลวงปู่ฮวด ท่านจึงได้ไปเจรจาต่อรองกับงูใหญ่ว่าอย่าได้ออกมาสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนในละแวกนี้อีกเลย หลังจากนั้นพญางูใหญ่จึงได้เลื้อยเข้าไปอยู่ในรูใต้โบสถ์ของวัดและไม่มีใครเห็นงูตัวนั้นอีกเลย หลวงปู่จึงได้สร้างพระนอนไว้ในโบสถ์เพื่อปิดทางเข้าออกของงูด้วย หลวงปู่ฮวดได้จำพรรษาในวัดนี้เป็นเวลา 7-8 ปี จึงได้บอกกับชาวบ้านว่า ให้ช่วยกันดูแลรักษาวัดนี้ให้ดี เพราะหลวงปู่จะไปจำพรรษาที่วัดบ้านพระเจ้าหมูบ (ปัจจุบันคือวัดบ้านพระเจ้า ตำบลพระเจ้า อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด) แล้วหลวงปู่จึงได้ลาชาวบ้าน เดินทางมายังวัดพระเจ้าหมูบในเวลาต่อมา
เมื่อมาถึง หลวงปู่ได้พิจารณาและบอกกับชาวบ้านว่า ในตอนนี้ไม่สามารถที่จะพัฒนาวัดให้ดีขึ้นกว่านี้ยังไม่ได้ เนื่องจากสภาพวัดทรุดโทรมมากจะต้องรอท่านกลับจากธุดงค์ ถึงจะมาบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ และท่านก็ออกธุดงค์อย่างไม่มีใครรู้กำหนดวันที่หลวงปู่จะกลับมา
ส่วนน้องชายของหลวงปู่ คือ นายเพ็ง ขณะที่ตามหลวงปู่มาที่บ้านพระเจ้าหมูบได้พบรักและแต่งงานกับนางปลั่ง (คนบ้านงิ้วซึ่งอยู่ติดกับบ้านพระเจ้า) มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือคุณยายลุน (ซึ่งเป็นหลานสาวของหลวงปู่ฮวด) ต่อมา ยายลุน ได้แต่งงานกับคุณตาลี (หลานชายของหลวงปู่แพงมา หรือ หลวงพ่อโชคชัย วัดบ้านแมดนาโพธิ์ : บ้านโนนขวาง) ปัจจุบัน (2555) คุณยายลุนมีอายุ 92 ปี ส่วนคุณตาลีอายุ 98 ปี ท่านทั้งสองยังคงจำเรื่องราวได้เป็นอย่างดี เมื่อครั้งยังเด็กตัวคุณตาลีได้รับใช้หลวงปู่ฮวด เพราะติดตามคุณแม่ปลั่งไปวัดเป็นประจำเรียกได้ว่าเป็นโยมอุปฐากให้หลวงปู่ฮวด
เมื่อหลวงปู่ฮวดกลับจากธุดงค์ ท่านได้แวะไปที่วัดบ้านงิ้ว เพื่อเยี่ยมน้องชายและบอกกับชาวบ้านว่าท่านจะไปวัดพระเจ้า พอพูดจบท่านก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาชาวบ้าน ในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้นได้เกิดเสียงดังสนั่นภายในบริเวณวัดพระเจ้าหมูบ ชาวบ้านต่างได้ยินกันและพากันออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่วัด ครั้นไปถึงต้องพบกับความประหลาดใจเป็นอันมากเพราะมีหลุมขนาดใหญ่มากและมีก้อนหินขนาดหนักประมาณ1 ตันวางเรียงรายอยู่รอบปากหลุม (ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งประดิษฐานพระธาตุ) หลวงปู่ฮวดได้บอกกับชาวบ้านว่าก้อนหินทั้งหมดนี้ยังไม่พอต่อการสร้างพระธาตุ ยังคงขาดวัสดุอีกเป็นจำนวนมาก จึงขอรับบริจาควัสดุอุปกรณ์และแรงงานในการสร้างพระธาตุ มีผู้คนมากมายจากทั่วสารทิศมาช่วยก่อสร้างพระธาตุ ครั้งหนึ่งหลวงปู่และชาวบ้านได้เดินทางไปขนหินเพื่อนำมาก่อสร้างพระธาตุที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อถึงภูเขาลูกหนึ่งคณะของหลวงปู่ได้พบอสูรกายตนหนึ่งมีลักษณะหน้าเป็นวัว ตัวเป็นคน มีสามเขา ยืนขวางทางคณะของหลวงปู่ และพูดภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่องทำให้ชาวบ้านที่เดินทางไปกับหลวงปู่ฮวดเกิดความหวาดกลัว หนึ่งในนั้นคือคุณยายลุน(ผู้เล่าเรื่องราว) หลวงปู่ฮวดบอกว่าอสูรกายตนนั้นจะยอมให้คณะของหลวงปู่ผ่านไปได้แต่ไม่ยอมให้กลับ เพราะหมายจะเอาชีวิตของทุกคนในคณะ จะยอมให้หลวงปู่ฮวด กลับไปพียงผู้เดียว อสูรกายตนนี้อยู่ที่แห่งนี้มานานนับสองพันปี ไม่มีผู้ใดสามารถผ่านเส้นทางนี้ไปได้แม้แต่คนเดียว หลวงปู่ได้เทศนาธรรมสอนอสูรกายตนนั้นว่า “การกระทำเช่นนี้เป็นบาปอย่างมหันต์” เมื่อแสดงธรรมเทศนาจบ อสูรกายตนนั้นค่อยกลายร่างเป็นพราหมณ์ที่ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน พราหมณ์บอกว่า
ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนมานานนับสองพันปี ไม่มีใครปลดโซ่นี้ได้ หลวงปู่ฮวดจึงได้เมตตาอธิษฐานจิต “ขอบุญกุศลที่ท่านได้บำเพ็ญมาทุกภพชาติจงดลบันดาลให้อสูรกายตนนี้จงหลุดพ้นจากพันธนาการทั้งปวง อาตมามาที่แห่งนี้ เพื่อนำหินและวัสดุจากที่แห่งนี้ไปสร้างพระธาตุ เจ้าจงหลีกทางและอนุโมทนา เจ้าจักบังเกิดบุญด้วย” เมื่อกล่าวจบอสูรกายในร่างพราหมณ์ก็หลุดพ้นจากพันธนาการและค่อยๆเลือนหายไป คณะของหลวงปู่จึงได้ขนหินและวัสดุกลับมาสร้างพระธาตุโดยปราศจากอุปสรรค
มีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกิดขึ้นหลายเรื่อง ในระหว่างที่ท่านสร้างพระธาตุเช่นครั้งหนึ่งแดดร้อนมาก ทำให้ชาวบ้านที่มาช่วยงานก่อสร้างบอกกับหลวงปู่ฮวดว่าร้อนมากทำงานไม่ไหว ถ้ามีฝนตกลงมาคงดี ลวงปู่ฮวดกกล่าวว่าถ้าฝนตกแล้วมีน้ำแข็งตกลงมาด้วยจะทำอย่างไร ชาวบ้านบอกว่า ก็ดีสิ จะได้กินน้ำแข็งไปด้วย สักพักก็เกิดพายุฝนตกลงมาพร้อมด้วยลูกเห็บ ทำให้ชาวบ้านดีใจเพราะอากาศเย็นลงและมีลูกเห็บตกลงมาให้กินด้วยอย่างเหลือเชื่อ
อีกเรื่องหนึ่งคือการย้ายต้นโพธิ์ใหญ่ซึ่งขวางเส้นทางสัญจรไปมาของชาวบ้าน ชาวบ้านจึงลงความเห็นว่าจะตัดทิ้ง พอหลวงปู่ทราบเรื่องจึงเดินไปบอกกับต้นโพธิ์ใหญ่ว่าให้เข้าไปอยู่ในบริเวณวัดจะได้ไม่ขวางทางชาวบ้าน พอวันรุ่งขึ้นชาวบ้านก็พบกับอัศจรรย์เมื่อต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบริเวณวัดโดยไม่มีร่องรอยการขุดหรือลากเข้าไปแต่อย่างใด
เรื่องราวของหลวงปู่ ได้รับการถ่ายทอดจากยายลุน