หลวงพ่อเชียงแสน วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ปี 2534 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

หลวงพ่อเชียงแสน วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ปี 2534 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
หลวงพ่อเชียงแสน วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ปี 2534 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชหลวงพ่อเชียงแสน วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ปี 2534 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
รหัสสินค้า POBWCHS01
หมวดหมู่ พระเครื่อง จังหวัด กรุงเทพมหานคร
ราคา 120.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 12 ก.ค. 2566
อัพเดทล่าสุด 23 ก.ค. 2568
จำนวน
องค์
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
พระพุทธชินสีห์
พระพุทธชินสีห์ ประดิษฐานอยู่หน้าพระสุวรรณเขต มีขนาดย่อมกว่า ขนาดหน้าต่างกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 4 นิ้ว (ประมาณ 2.8 เมตร)

พงศาวดารเหนือ ได้เล่าถึงตำนานของพระพุทธรูปองค์นี้ว่า ในปีพ.ศ. 1498 กษัตริย์เชียงแสนนาม พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก มีพระประสงค์จะหล่อพระพุทธรูป 3 องค์ แต่ไม่สำเร็จ จนถึงปีพ.ศ. 1500 พระอินทร์ได้จำแลงเป็นชีปะขาวมาช่วยให้แล้วเสร็จ หล่อได้พระพุทธรูปองค์ใหญ่ 3 องค์ องค์เล็ก 1 องค์ นามว่า พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และ พระเหลือ ทั้งหมดประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพิษณุโลก กระทั่งเมื่อวัดทรุดโทรมลง ไม่มีใครดูแลรักษา สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ จึงโปรดให้อัญเชิญลงแพล่องไปจนถึงพระนครในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2374

ในตอนแรก ได้มีการสร้างห้องใหม่ที่ด้านหลังพระอุโบสถเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้ จนในปีพ.ศ. 2380 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงผนวช ได้กราบทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต อัญเชิญย้ายพระพุทธชินสีห์จากมุขหลังมาประดิษฐานหน้าพระสุวรรณเขต ในการนี้ได้ติดกะไหล่ทองพระรัศมี ฝังพระเนตร พระอุณาโลม และปิดทององค์พระใหม่ด้วย

พุทธลักษณะของพระพุทธชินสีห์ เป็นพุทธศิลป์สมัยสุโขทัย มีลักษณะร่วมกับพระพุทธรูปสุโขทัย หมวดใหญ่ คือ

พระรัศมี เป็นรูป เปลวไฟ
แนวพระศก เหนือพระนลาฏ (หน้าผาก) โค้งตามแนวพระขนง (คิ้ว)
ครองจีวรห่มเฉียง สังฆาฏิเป็นแถบเล็ก พาดจากพระอังสา (ไหล่) ซ้าย ไปถึงพระนาภี (สะดือ) ปลายทับซ้อนเป็นเขี้ยวตะขาบ
แต่อย่างไรก็ตาม พระพุทธชินสีห์กลับมีพุทธลักษณะที่แตกต่างไปจากหมวดใหญ่ และพบลักษณะนี้กับพระพุทธชินราช และพระศรีศาสดาด้วย รายละเอียดที่ว่านั้นคือ

พระพักตร์ มีเค้าเป็นวงรี แต่กลมแป้น ต่างจากหมวดใหญ่ที่เป็นวงรีรูปไข่
นิ้วพระหัตถ์ ยกเว้นพระอังคุฐ (นิ้วโป้ง) ยาวเท่ากัน ต่างจากหมวดใหญ่ที่นิ้วพระหัตถ์จะสั้นยาวสมจริง
ขนาดพระองค์ค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกับในหมวดใหญ่ที่มักจะสร้างให้พระองค์นั้นเพรียวสวย
ด้วยรายละเอียดที่แตกต่างออกไป และพบใน พระพุทธชินราช พระพุทธรูปสำคัญของไทย จึงได้แยกหมวดของพระพุทธรูปลักษณะเช่นนี้ เรียกว่า พระพุทธรูปสุโขทัย หมวดพระพุทธชินราช


ลักษณะทางศิลปกรรมสะท้อนออกมาชัดเจนว่าพระพุทธชินสีห์หล่อขึ้นในสมัยสุโขทัย …อ้าว! แล้วตำนานที่ระบุว่ากษัตริย์เชียงแสนเป็นผู้โปรดให้สร้างล่ะ สรุปว่าเป็นอย่างไรกันแน่

ทีนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า พงศาวดารเหนือ นั้น เป็นวรรณกรรมที่รวบรวม คำบอกเล่า ในอดีตกาลหลาย ๆ เรื่อง และแน่นอนว่ามีการดัดแปลงต่อเติมให้เนื้อหาออกแนว แฟนตาซี มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น บุคคลในเรื่องบางท่านก็อาจใช้เค้ามาจากบุคคลจริงในประวัติศาสตร์

เหตุนี้เอง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย จึงทรงสันนิษฐานว่า พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก ก็คือ สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) ดังเหตุผลว่า

นาม พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก สะท้อนถึงกษัตริย์ผู้ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา ตรงกับสมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) ผู้ทรงแตกฉานในพระไตรปิฎก ริเริ่มการปกครองด้วยทศพิธราชธรรม และได้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองมาก
พงศาวดารเหนือระบุว่า พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก เป็นผู้สร้างเมืองพิษณุโลก ตรงกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ว่า สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายตัวเมืองพิษณุโลก จากบริเวณวัดจุฬามณี มายังริมฝั่งแม่น้ำน่าน ณ ที่ปัจจุบัน
ทฤษฎีของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่าพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดานั้น สร้างในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) แห่งกรุงสุโขทัย ได้เป็นที่ยอมรับมากในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ มีพระดำริว่า พระพุทธชินสีห์น่าจะหล่อหลังจากพระพุทธชินราชแล้ว เนื่องจากมีพุทธลักษณะที่สวยงาม ประณีตกว่าพระพุทธชินราช โดยฝีมือช่างชุดเดียวกัน ข้อนี้สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเห็นด้วย

 ถึงตรงนี้บางท่านน่าจะเริ่ม อิ่ม กับปริมาณข้อมูลบ้างแล้ว ซึ่งบอกเลยว่าทั้งประวัติและรายละเอียดของพระพุทธชินสีห์มีเยอะมากกกกก และความสำคัญของพระพุทธรูปองค์นี้ก็มากกกกก เช่นกัน ฉะนั้นแง้มฯ ขอเสนอ fact น่ารู้เกี่ยวกับความสำคัญของพระพุทธรูปองค์นี้เป็นการปิดท้าย

นพปฎลมหาเศวตฉัตร หรือฉัตร 9 ชั้นที่กางกั้นเหนือพระพุทธชินสีห์ เป็นพระมหาเศวตฉัตรที่ใช้ทรงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชศรัทธากับองค์พระพุทธชินสีห์มาก ได้โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะอยู่หลายครั้ง ทั้งได้ถวายสิ่งของหลายอย่างเป็นพุทธบูชา
ในช่วงพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน หรือวาระสำคัญอย่างการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค จะมีการประดับองค์พระด้วย พระรัศมีทองคำลงยาราชาวดี ผ้าทรงสะพักตาดขลิบครุยทอง ผ้าทิพย์ตาดมีลูกรุ่ยกรุยทอง และพระวิสูตร (ม่าน) ตาดทอง ที่หาโอกาสชมได้ยากคือพระรัศมีฯ เพราะเมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธีแล้วจะเชิญเก็บทันที
ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธชินสีห์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคารของพระมหากษัตริย์ 2 รัชกาล ได้แก่ พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 บรรจุภายหลังการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในปีพ.ศ. 2469 และพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 บรรจุเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2560
ข้อมูลแง้มประตู ดูจิตรกรรม

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาปตท.ถนนกาญจนาภิเษก 2 ออมทรัพย์

JEWELRY-ANTIQUE-AMULET

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม4,446,214 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด3,382,512 ครั้ง
เปิดร้าน4 ก.พ. 2558
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

ติดต่อเรา

ติดตามสินค้า

พูดคุย-สอบถาม