ประวัติหลวงพ่อ กิตติศักดิ์ กิตติสาโร เจ้าอาวาส วัดป่าหนองหลุบ
บันทึกนี้ผู้เขียนขอนำเสนอกิจของสงฆ์ที่ผ่านมาและเป็นกิจสำคัญของหลวงพ่อกิตติศักดิ์ กิตติสาโร เจ้าอาวาส วัดป่าหนองหลุบ พร้อมกับประว้ติของท่าน เพื่อให้ญาติโยมและญาติธรรมทุกๆท่านที่สนใจ ได้รู้จักประวัติความเป็นมาของท่าน โดยได้มาจากน้องชายหลวงพ่อซึ่งเป็นลายมือของหลวงพ่อที่ท่านได้เขียนขึ้นเอง
หลวงพ่อกิตติศักดิ์ กิตติสาโร เจ้าอาวาสวัดป่าหนองหลุบ
นามเดิม : ภุชงค์เฉลิมศักดิ์ ผิวเหลือง
บิดา : นายณรงค์ ผิวเหลือง ผู้ก่อตั้งโรงเรียนประชาบาลบ้านหนองหลุบเป็นครูใหญ่ประจำ(สิ้นชีวิตเมื่อปี ๒๕๐๕)
มารดา : นางทองถิน ผิวเหลือง ตอนหลังได้บวชชี จนสิ้นชีวิตเมื่อปี ๒๕๕๒ อายุ ๙๑ ปี
สถานที่เกิด : บ้านหนองหลุบ ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันจันทร์ ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๔๘๘ ตรงกับ วันขึ้น ๙ ค่ำ ปีระกา เดือน ๑๑ เวลาราว ๐๖.๐๐ น. ช่วงเช้าขณะพระบิณฑบาตถึงหน้าบ้านพอดี
การศึกษาทางโลก : เรียนถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๘ สมัยเก่า แต่สอบผ่านไม่ได้ที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายนซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ จังหวัดขอนแก่น
การทำงาน : เมื่อก่อนเป็นนักดนตรีเพราะชอบเล่นกีตาร์ ร้องเพลงเองได้ เมื่อสมัยเป็นนักเรียนได้เล่นดนตรีตามบาร์ฝรั่ง(สแนคบาร์) ไนท์คลับ เขียนเพลงขายบ้าง เพราะได้ศึกษาโน้ตสากล
หากแต่ป่วยบ่อยๆ เคยถูกผ่าตัด กลัวตายจึงตัดสินใจออกบวชเพราะอยากบวชมานานแล้ว ก่อนที่จะออกบวชเป็นผู้ที่ชอบนั่งสมาธิ ศึกษาธรรมะและประวัติพระเถระในอดีตชอบปฏิปทาพระธุดงค์มาก เวลานอนหลับก็ฝันว่าบวชบ่อยมาก เมื่อตอนเด็กๆเคยฝันว่าเป็นพระเหาะลงมาจากสวรรค์ในท่านั่งสมาธิ มาพร้อมกันสามองค์ ยังจำได้ไม่เคยลืม
แม้บวชแล้วได้เคยไปกราบพระเถระ รูปหนึ่งแถวราชบุรีเป็นพระที่ชอบนั่งสมาธิแต่อยู่ในกุฏิบางครั้งนั่งอยู่นาน ถึง ๓ วันถึงจะออกมาพบโยม ท่านพูดกับโยมลูกศิษย์ท่านแล้วลูกศิษย์ของท่านมาเล่าให้ อาตมาฟังว่า “นี่เธอรู้ไหมว่าอาจารย์กิตติศักดิ์ ท่านเคยเป็นพระมาก่อน ท่านลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิตมาด้วยกันสามองค์ เคยบวชมาแล้วเป็นสิบชาติ เคยมาดูแลรอยพระพุทธบาทชาติต่อไปท่านจะไม่มาอีกแล้วว่าอย่างนั้นนะ”
อาตมาก็ไม่เคยเล่าเรื่อง ความฝันในอดีตให้ท่านฟังแต่ท่านพูดเหมือนที่อาตมาฝันตอนเด็กๆ มันก็น่าคิดแต่อย่าคิดเลยมันเป็นทุกข์นะ ขณะนี้หลวงพ่อท่านนั้นได้มรณภาพแล้ว ตอนที่ท่านมรณภาพลูกศิษย์ไปค้นกุฏิท่านพบปัจจัยมากถึง ๒๐ กว่าล้านบาท ใครมาถวายท่านก็ไม่สนใจให้โยนเข้าไปในกุฏิเลย
สถานที่บวช : บวชที่วัดพระธาตุเสด็จ ต.เสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง โดยมีพระครูวิมลปัญญาเป็นพระอุปัชฌาย์ (มรณภาพแล้ว) พระครูคำอ้ายสุภทฺโท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ขณะนี้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ พระอินสม จนฺทโชโต เป็นพระอณุสาวนาจารย์
วันที่บวช : บวชในวันอาสาฬหบูชา เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๒๔ เวลา ๑๒.๐๔ น. อายุ ๓๖ ปี อยู่จำพรรษาที่วัดพระธาตุเสด็จ ๑ พรรษา
เมื่อออกพรรษาแล้วลาหลวงพ่อเจ้าอาวาส ออกศึกษาธรรมทางภาคเหนือ เช่น หลวงปู่สิมพุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง หลวงปู่ครูบาธรรมไชย ครูบาไชยวงษา ที่อำเภอลี้ จ.ลำพูน แล้วลงภาคกลางศึกษากับหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
หลังจากนั้นเข้าศึกษาวิปัสสนาที่ วัดมหาธาตุกับท่านเจ้าคุณลุง (พระธรรมธีรราชมหามุนี) พระอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ อยู่นานถึง ๘ เดือน แล้วลาท่านเข้าจำพรรษาที่เกาะสีชัง ๑ พรรษา อยู่องค์เดียวทางเชิงเขาด้านเกือบติดทะเล
ปี ๒๕๒๕ พรรษาที่สอง จำพรรษาที่ จ.ฉะเชิงเทรา ของท่านนายพลเรือโท อาคม ศรีคชา สร้างถวาย สมเด็จปู่พระพุฒาจารย์อาจ อาสภมหาเถระ(หลวงปู่พิมลธรรม) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ พร้อมเจ้าคุณพระธรรมธีรราชมหามุนี (ท่านเจ้าคุณลุง)มอบหมายให้อาตมาไปอยู่จำพรรษาถึง ๔ พรรษา (๒๕๒๖ – ๒๕๒๙)
เมื่อออกพรรษาปี ๒๕๒๙ โยมมารดานิมนต์กลับขอนแก่นจึงตามใจท่าน กลับมาปลายปี ๒๕๒๙ เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๒๙ มาอธิษฐานปักกลดที่ป่าช้าหมู่บ้านเพียงผู้เดียว ซึ่งป่าช้าห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๒ กิโลเมตร อธิษฐานว่า จะมาอยู่เพื่อปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ ไม่มาเบียดเบียนใคร ฉะนั้นใครมาอยู่ที่นี่ก่อนก็ขอเชิญมาปฏิบัติธรรมด้วยกันจะได้พ้นทุกข์ จุดธูปอธิษฐานแล้วปักบนพื้นดิน
คืนนั้นหลังจากเดินจงกรมนั่งภาวนาแล้ว ๔ ทุ่มจะจำวัตร(นอน) ตี ๒ จะตื่นใกล้ๆตี ๒ ฝันประหลาดว่า ว่ายน้ำในมหาสมุทรกว้างใหญ่จนถึงฝั่งแล้วเดินไปขึ้นบนภูเขาลูกหนึ่งสูงมาก เหมือนยอดเขาหิมาลัย ขึ้นถึงยอดเขาสูงมีพระพุทธรูปใหญ่สีขาวตั้งอยู่บนยอดเขา อาตมาปีนขึ้นถึงเศียรพระมีต้นตาลยอดด้วนปักบนเศียรเลยปีนขึ้นไปสุดยอดตาล สะดุ้งตื่นตีสองพอดี เป็นความฝันที่แปลกมาก
โยมแม่ว่าป่าช้านี้ผีดุ มากเคยขับพระไปหลายรุ่นแล้วแต่อาตมาก็อยู่ได้ไม่มีอะไร ไม่ใช่เก่งแต่แผ่เมตตามากๆเลยไม่มีเหตุร้ายจึงอยู่มาตลอด บางปีก็ขึ้นไปจำพรรษาแถวๆ จ.เพชรบูรณ์ ที่ อ.น้ำหนาวบ้าง
ปี๒๕๔๙ และ ๒๕๕๐ ได้ไปอบรมข้าราชการที่จังหวัดพะเยา ปีละ ๗ รุ่น รุ่นละ ๗ วัน โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเคยเป็นศิษย์เก่า ตอนที่ท่านเป็นนายอำเภอที่ อ.เสนา จ.อยุธยา นิมนต์ไปอบรมที่ วัดอนาลโย ในวันแรกได้พบพระพุทธรูป สีขาวใหญ่บนยอดเขา และ มองลงมาข้างล่างกว้านพะเยา เหมือนมหาสมุทรในความฝัน ที่ได้ว่ายข้ามในคืนวันแรกที่มาอยู่ ป่าช้าวัดป่าหนองหลุบ ตั้ง ๒๐ ปีผ่านมาแล้ว ช่างเหมือนกับความฝัน
กลับมาวัดจึงดำริสร้างพระพุทธรูปขาวสูง ๔ เมตร ราคา ๗ แสนบาท และตกลงให้ช่างแกะหิน ก็มีผู้มีบุญรับเป็นเจ้าภาพ วันรุ่งขึ้นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมากระทบหน้าอก ขณะนั่งที่หอฉัน จึงดำริสร้างพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒ เจดีย์และสร้างศิลาจารึกพระไตรปิฎกภาษาไทย บรรจุรอบเจดีย์ทั้งสององค์ เริ่มปลายปี ๒๕๕๐
จนบัดนี้พระเจดีย์เสร็จเรียบร้อยเกือบบริบูรณ์ทั้ง ๒ องค์ จะจัดงานสมโภช ฉลองพระเจดีย์ ๒ องค์ ในวันวิสาขบูชา ปี ๒๕๕๔ นี้ เป็นเวลา ๑๐ วัน จากวันที่ ๑๕ พ.ค.– ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ รวมถึงวันประชุมเพลิงพระสรีระขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยในวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ เราเรียกวันนั้นว่า “วันอัฏฐมีบูชา”
ความรู้ทางธรรม : หลวงพ่อจบนักธรรมเอก
ปัจจุบัน(๒๕๕๔) : หลวงพ่อ อายุ ๖๖ ปี พรรษาที่ ๓๐
วัดป่าหนองหลุบเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดขอนแก่นแห่งที่ ๒ เป็นวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วัดป่าหนองหลุบ (สารัตถวโนทยาน)
สังเวชนียสถาน 4 ตำบล แห่งแรกที่เดียวใน จังหวัดขอนแก่น
วัดแห่งนี้ได้จำลอง แท่นหิน แกะสลัก พระสูตร ในพระไตรปิฎก หัวข้อธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสสอนพระสาวก ประดิษฐ์สถาน ตามสังเวชนียสถานจำลอง เสมือนจริงที่ประเทศอินเดีย
ส่วนบรรยากาศโดยรอบ ร่มรื่น เน้นธรรมชาติ ไม่ใช้ไฟฟ้า ใช้เพียงเสียงเทียน แสงพระจันทร์ แสงอาทิตย์ ใช้บรรยากาศใต้ต้นไม้ และลานเจดีย์ ประทับใจ แท่นหิน แกะสลัก พระสูตร ในพระไตรปิฎก หัวข้อธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสสอนพระสาวก ประดิษฐ์สถาน ตามสังเวชนียสถานจำลอง เสมือนจริงที่ประเทศอินเดีย บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การประพฤติปฏิบัติธรรม ฝึกจิต