พระครูวิบูลจริยาวัตร (หลวงพ่อบุญมี ทีปงฺกโร ) เกิดที่บ้านหัน ตำบลบ้านหัน อำเภอเกษตรสมบูรณ์
จังหวัดชัยภูมิ เกิดวันอังคารที่ ๑๘ เดือนพฤศจิกายน ๒๔๕๐ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะแม
โยมบิดาชื่อ นายโม่ โยมมารดาชื่อ นางจุก นามสกุลแคภูเขียว มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๗ คน
พระครูวิบูลจริยาวัตร ( หลวงพ่อบุญมี ทีปงฺกโร) อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๕ ปี เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีวอก ณ พัทธสีมาวัดตะโกพุทธโสภา ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี โดยมี พระอธิการคง คงคปญโญ เป็นพระอุปัชฌาย์
ได้ศึกษาธรรมวินัยตามความสามารถ และได้อยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำเขาตะโกพุทธโสภา เป็นเวลา ๕ พรรษา และได้ไปศึกษาในการปฏิบัติธรรมที่วัดบางมูลนาค จังหวัดพิจิตร เป็นเวลา ๕ พรรษา จากนั้นได้เดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำตะโกอีก ๑ พรรษา แล้วเดินทางไปอยู่ที่วัดทำควาย (วัดเสถียร) จังหวัดสิงห์บุรี จำพรรษาอยู่ ๒ พรรษา
เมื่อครั้นออกพรรษาแล้ว ได้เดินทางไปศึกษาธรรมในด้านการปฏิบัติ เรียนพระกัมมัฎฐาน ที่วัดนิยมวิปัสสนา
อำเภอบางบาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ศึกษาธรรมปฏิบัติอยู่เป็นเวลา ๓ พรรษา
จากนั้นได้ไปศึกษานักธรรมที่วัดคอกหมู (วัดสิตาราม) ซึ่งตั้งอยู่ข้างวัดสระเกศ กรุงเทพมหานครและได้ปฏิบัติธรรมไปด้วย
จากนั้นไม่นานได้กลับมาอยู่ที่วัดถ้ำตะโกพุทธโสภาอีกครั้ง และได้ดำริจะออกธุดงค์ ได้เดินรุขมูลจาก
วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ด้วยการเดินตลอดทาง
และได้หยุดปฏิบัติธรรมพระกัมมัฏฐานอยู่ที่เขาวัง และเขางู จังหวัดเพชรบุรี เป็นเวลาพอสมควร ได้เดินทางไปยังเขาสามร้อยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อหาสถานที่อันสงบ เมื่อได้ปฏิบัติธรรมเป็นเวลาพอสมควร จึงได้เดินทางกลับวัดถ้ำตะโกพุทธโสภา และอยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำตะโกอีกระยะหนึ่ง
หลังจากนั้นได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสนามไชย ตำบลโพตลาดแก้ว อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เพื่อช่วยสอนนักธรรม แก่พระภิกษุสามเณร เป็นเวลา ๑ พรรษา และได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพาณิชธรรมิการาม (วัดหนองเต่า) อำเภอ บ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เป็นเวลา ๑ พรรษา และได้กลับมาที่วัดสนามไชย เพื่อทำการสอนนักธรรม แก่พระภิกษุสามเณรอีกถึง ๓ พรรษา ก่อนจะมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสิงห์ทอง จนมรณภาพ