ปัจจุบัน ศาลเจ้าแม่ทับทิมในประเทศ มีมากกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และ จังหวัดต่างๆ แหล่งที่พอมีชื่อในกรุงเทพฯก็ยังมีมากมายหลายแหล่ง แต่โดยรวม อาม่าเปร็ง เจ้าแม่ทับทิม หรือ เทียนโหวเซียบ้อ เป็นที่ศรัทธาของชาวจีนทั้งในประเทศไต้หวัน และไทยเป็นอย่างมาก
เทียงโหวเซี่ยบ้อ 天后聖母 หรือ เจ้าแม่ทับทิม ..เทพประจำอาชีพประมงและเดินทะเลเจ้าแม่ทับทิมมีชื่อจีนหลายชื่อ เช่น เทียงโหวเซี่ยบ้อ (天后聖母 เทียนโหวเซิงหมู่) , 天上聖母 (เทียนซั่งเซิงหมู่), ม่าโจ้ว(妈祖 มาจู่) ท่านถือเป็นเทพ คุ้มครอง สำหรับอาชีพประมง หรือผู้เดินเรือทะเล เจ้าแม่ทับทิม เดิมท่านแซ่ลิ้ม ชื่อ มิกเนี้ย (林默娘 ..หลินโม่เหนียง)
เกิดในสมัยราชวงศ์ถัง (บางกระแส ว่าต้นราชวงศ์ซ้อง ..ผู้เขียน) เนื่องด้วยท่านได้รับคัมภีร์ไร้อักษร (無字天经 บ่อหยี่เทียงเก็ง ) จากท่าน ไท้เสี่ยงเหล่ากุง 太上老君 ปรมาจารย์ลัทธิเต๋า
ทำให้ท่านมีอิฤทธิ์มากมาย และมีความสามารถในด้านการรักษาโรคต่างๆ ให้ประชาชนผู้เจ็บป่วยยิ่งได้ สองพี่น้องตระกูลเกา คนพี่ตาทิพย์ คนน้องหูทิพย์มาเป็นบริวาร ยิ่งทำให้เธอสามารถปราบ
ภัยจากปีศาจอสูร กำราบมังกรร้าย เรียก ฝน แก้ภัยแล้ง ทำคุณให้ประชาชนมากมาย เรื่องที่เกียวกับชาวทะเล ก็เพราะท่านพยากรณ์ ลมฟ้าที่แม่นยำทำให้ชาว เรือหลีกเลี่ยงการ
เกิดเภทภัยจากลมทะเลเสมอๆ หลายครั้งท่านโยนผ้าขาวไปในอากาศ ชาวประมงที่กลับจากพายุ
มาเป็นผู้เฉลยว่าในขณะที่เรือผจญพายุขนาดใหญ่ บนท้องฟ้ามีผ้าขาวลงมาคล้องเรือของพวกเขา
และฉุดให้พ้นจากมหันตภัยร้ายด้วยเหตุนี้เอง ชาวจีนครั้งราชวงศ์ถังลงมาจึงนิยมกราบไหว้เจ้าแม่ทับทิม
ก่อนออกทะเลเสมอ เพื่อเป็นนิมิตหมายที่ดีของการเดินเรือ สังเกตุได้จากชาวจีนทุกแห่งหนมักจะมีศาลเจ้าแม่ทับทิมเสมอไม่ว่าไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียฯลฯ เพราะท่านเป็นสัญญลักษณ์ของเทพแห่งการคุ้มครองผู้เดินทะเลนั้นเอง
อักษรจีนตัวย่อ: 天上圣母
อักษรจีนตัวเต็ม: 天上聖母
พินอิน: Tiān-shàng-shèng-mǔ
Wade-Giles: Tianshang Shengmu
สำเนียงฮกเกี้ยน: เที้ยนส่งเซ่งโบ้
สำเนียงแต้จิ๋ว: เทียงเซียงเซี่ยบ้อ
ภาษาญี่ปุ่น | : 媽祖
ภาษาเกาหลี อักษรฮันกุล: 마츠
เกาหลี: ma-cheu
ภาษาเวียดนาม: Thiên Hậu Thánh Mẫu
ชื่ออื่นๆ :
ม่าโจ้ว, มาจู่ (媽祖)
เที้ยนเฮาเส้งโบ้ (天后聖母)
ม่าจ้อโป้ (媽祖婆)
ม่าจ้อโป๋ หรือ ม่าโจ้ว หรือ ไฮตังม่า (จีน: 媽祖 มาจู่) เป็นเทวีแห่งทะเลตามคติศาสนาชาวบ้านจีน ที่ได้รับความเคารพในหมู่ชาวฮกเกี้ยน ชาวแต้จิ๋ว และชาวจีนโพ้นทะเล ที่ประกอบอาชีพประมงและเดินเรือ
มาจ้อโป๋ เป็นเทพที่ได้รับการสักการะในช่วงต้นศตวรรษที่ 10 ในช่วงราชวงศ์ซ่ง ปัจจุบันการนับถือมาจ้อโป๋มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก โดยมีศาลเจ้ามาจ้อโป๋มากถึง 3,000 แห่ง และถือว่าเป็นเทพที่ได้รับการนับถือมากที่สุดของไต้หวันอีกด้วย โดยถือว่าเป็นความเชื่อหรือศาสนาพื้นถิ่นของไต้หวัน มีการก่อตั้งเป็นสมาคมขึ้นมา โดยผู้ที่เคารพนับถือจะมีพิธีกรรมเดินทางแสวงบุญด้วยเท้า ตั้งแต่เวลากลางดึก พร้อมกับขบวนแห่เทวรูปของมาจ้อโป๋ไปตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นระยะเวลานานถึง 9 วัน เชื่อกันว่าเมื่อขบวนแห่ของมาจ้อโป๋ผ่านมาถึงที่ไหน ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะได้รับความสงบสุข ความสามัคคีในครอบครัว ตลอดจนความสำเร็จในชีวิต และในพิธีกรรมนี้ยังมีการจัดเลี้ยงอาหารไปตลอดทางอีกด้วย
ในประเทศไทย ม่าจ้อโป๋ มักจะถูกเข้าใจผิดในหมู่ชาวไทยว่าคือเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งความจริงแล้วเจ้าแม่ทับทิมแท้คือจุ้ยบ้วยเนี้ย (水尾聖娘) เทวีอีกองค์หนึ่งที่ถือว่าเป็นเทพแห่งท้องทะเลหรือการเดินเรือเช่นเดียวกัน โดยจุ้ยบ้วยเนี้ยจะเป็นที่นับถือของชาวไหหลำ ในขณะที่ม่าจ้อโป๋จะเป็นที่นับถือของชาวฮกเกี้ยน และชาวแต้จิ๋ว ซึ่งในอดีตยุคที่ยังมีการค้าขายกันระหว่างไทยกับจีนด้วยเรือสำเภา ชาวไหหลำจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในช่วงต้นปี คือ ราวเดือนมกราคม เนื่องจากเกาะไหหลำนั้นมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ประเทศไทยกว่า และจะทำการสักการะบูชาจุ้ยบ้วยเนี้ย เมื่อชาวฮกเกี้ยนและแต้จิ๋วเดินทางมาถึงจะอยู่ในราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม เนื่องจากมณฑลกวางตุ้งและฮกเกี้ยนตั้งอยู่ในแผ่นดินใหญ่ซึ่งไกลกว่า และก็ทำการสักการะม่าจ้อโป๋ด้วยเช่นกัน จึงทำให้เกิดความสับสนระหว่างเทพีทั้งสอง อีกทั้งเครื่องประดับยังใกล้เคียงกันอีกด้วย คือ เป็นเครื่องทรงสีแดง ทั้งนี้เกิดจากฝีมือช่างที่เกิดในประเทศไทย