พระอาจารย์จี้กง เป็นนักบวชทางพระพุทธศาสนา นิกายมหายาน ในสมัยราชวงศ์ซ่ง ใต้ปกครองประเทศจีน ท่านใช้ชีวิตอยู่ระหว่าง พ.ศ.๑๖๙๑-๑๗๕๒ เดิมชื่อ “ซินหย่วน แซ่หลี่” เกิดที่หมู่บ้านหย่งหนิง ตำบลเทียนไถ มณฑลเจ้อเจียง ในตระกูลของผู้มีอันจะกิน
หลังจากที่บิดามารดาได้เสียชีวิต ท่านได้ตัดสินใจละทางโลก สละเพศฆราวาส ออกบวชที่วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว โดยมีพระอาจารย์ฮุ้ยหย่วน ผู้มีชื่อเสียงในเวลานั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “เต้าจี้”
ชีวิตในสมณเพศของพระอาจารย์จี้กง เห็นว่าสังคมชาวจีนสมัยนั้นว่า มีสภาพไร้คุณธรรมมาก ท่านจึงแสดงพฤติกรรมพิลึกพิเรนทร์ ผิดไปจากพระสงฆ์ทั่วไป จนเป็นที่ติฉินนินทาของชาวบ้านและพระสงฆ์รูปอื่นๆ คือ ท่านมีกิริยาไม่สำรวม ชอบเล่นซุกซนกับเด็กๆ ประพฤติตนเหมือนพระวิปลาส ใส่จีวรขาดๆ ถือพัดเก่าๆ และน้ำเต้าใส่สุราที่ท่านชอบดื่มเป็นประจำ รวมทั้งบริโภคเนื้อสัตว์ จนถูกกล่าวหาว่าเป็นพระบ้า หรือพระเพี้ยน
แต่ในส่วนลึกและธาตุแท้ในจิตใจของท่านนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมอันสูงส่ง มีความเมตตาเป็นที่ตั้ง ชอบช่วยเหลือสังคมเพื่อนมนุษย์เสมอ จนมีผู้ให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสอย่างกว้างขวาง โดยผู้คนส่วนใหญ่รู้ว่า สิ่งที่ทำนั้นเป็นการปกปิดแก่นแท้ของตัวท่าน ซึ่งลึกลงไปภายในแล้ว ท่านเป็นบุคคลที่ตื่นแล้ว การกระทำหลายๆ ประการของพระอาจารย์จี้กง เมื่อพิจารณาจากเนื้อแท้ จุดมุ่งหมาย และผลลัพธ์แล้ว การกระทำเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และก่อคุณประโยชน์ต่อสาธารณชนทั่วไป
กล่าวโดยสรุป ตามความเชื่อของชาวพุทธมหายาน ก็คือ พระอาจารย์จี้กง เป็นพระอรหันต์ที่จุติมาเกิดอีกครั้ง เพื่อสั่งสอนมนุษย์โลก นั่นเอง