หลวงพ่อโตวัดขุนจันทร์ ซำปอกงของชาวตลาดพลู
วัดขุนจันทร์ ตั้งอยู่ริมคลองด่าน ตรงข้ามกับวัดปากน้ำ(ภาษีเจริญ) เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นแต่ครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์โดยพระยามหาอำมาตย์ (ป้อม ต้นตระกูลอมาตยกุล) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2381
ครั้นล่วงมาถึงแผ่นดินรัชกาลที่ 5 วัดขุนจันทร์ได้ทรุดโทรมลงมาก บุตรีคนเล็กของพระยามหาอำมาตย์กับคุณหญิงเย็นธิดาเจ้าสัวเหยี่ยว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เป็นที่ ท้าวภัณทสารฯ มีหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดพระยุคลบาทมีความระลึกถึงพระคุณบิดาจึงปฏิสังขรณ์วัดขุนจันทร์ให้ดีขึ้นเป็นลำดับแล้วกราบทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขอพระราชทานนามวัดและตั้งใจจะถวายให้เป็นวัดพระอารามหลวง ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่เป็นมงคลโดยใช้ชื่อผู้สร้างและผู้ปฏิสังขรณ์รวมกันเป็นนามวัดใหม่ว่า “วัดวรามาตยภัณฑสาราราม" ใน พ.ศ.2426 แต่ยังคงชาวบ้านเรียกชื่อวัดนี้ว่า “วัดขุนจันทร์” ดีงเดิมสืบต่อมาจนกระทั่งทุกวันนี้
องค์หลวงพ่อโตนั้นเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิขนาดใหญ่ เป็นของเก่าอยู่คู่กับวัดมาตั้งแต่เริ่มสร้าง ด้วยเหตุซึ่งที่ตั้งวัดนั้นอยู่ใกล้ปากคลองด่านอันเชื่อมต่อไปยังคลองบางหลวงและตลาดพลูซึ่งเป็นถิ่นที่มีชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่จำนวนมาก ชาวจีนมนแถบถิ่นนี้ต่างนับถือว่าหลวงพ่อโตที่วัดขุนจันทร์เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง มักจะมากราบไหว้สักการะบูชากันอยู่เนืองนิตย์ในวันเทศกาลตามประเพณีจีนต่างๆ ชาวจีนรุ่นเก่าๆในตลาดพลูและใกล้เคียงต่างนับถือประดุจดังหลวงพ่อโตซำปอกงของชาวตลาดพลู
จากภาพถ่ายเก่าที่นำมาให้ชมนั้น จะเห็นองค์หลวงพ่อยังประดิษฐานในวิหารโถงอันเป็นโครงสร้างไม้หลังคาสังกะสีของเก่า และยังคงปรากฏร่องรอยของการสักการะบูชาตามแบบแผนและธรรมเนียมศรัทธาของชาวจีนในอดีต ไม่ว่าจะเป็นโคมแขวนและตะเกียงลอยน้ำมันแขวนแบบจีนด้านหน้าองค์หลวงพ่อโต ภาพดังกล่าวไม่ปรากฏหลักฐานปีที่ถ่ายภาพ แต่ต้องถ่ายขึ้นก่อนปี พ.ศ.2505 อันเป็นปีที่มีการก่อสร้างพระวิหารองค์หลวงพ่อโตขึ้นใหม่