หลวงพ่อโต๊ะ เป็นพระคณาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม เก่งกล้าด้านไสยเวท และเป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ถึงกับมีการแลกเปลี่ยนวิชาไสยเวท โดยไปมาหาสู่กันเป็นประจำ
ในช่วงปฐมวัย บิดามารดาได้นำหลวงพ่อโต๊ะไปฝากไว้กับ หลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อเรียนหนังสือ และอยู่ปฏิบัติรับใช้หลวงพ่อลา จนสอบไล่ได้ชั้น ๒ (ระดับสูงสุดในสมัยนั้น) เมื่ออายุได้ ๑๙ ปี
หลวงพ่อโต๊ะได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดดงยาง ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ต่อมาเมื่ออายุครบบวช ท่านได้อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๔๕๙ ณ วัดดงยาง โดยมี พระวินัยธรกิ่ง วัดธรรมสังเวช ต.งิ้วราย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับสมญานามว่า “ฉันโท” ซึ่งเป็นชื่อของวาทสูตรหนึ่งในพระพุทธศาสนา
ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดดงยาง โดยได้ไปศึกษาพระธรรมวินัยกับพระอุปัชฌาย์อยู่เสมอ จนสามารถสอบนักธรรมชั้นตรีได้ ในพรรษาที่ ๒ ท่านได้ย้ายมาอยู่ที่วัดโพธิ์ลังการ์ ๑ พรรษา และวัดท่าอิฐ ๒ พรรษา เพื่อเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ซึ่งทั้ง ๒ วัดนี้ต่างก็อยู่ในเขต ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
พ.ศ.๒๔๙๒ หลวงพ่อโต๊ะได้รับนิมนต์จากญาติโยมให้มาจำพรรษา ณ วัดกำแพง จนกระทั่ง พ.ศ.๒๔๖๖ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดกำแพง พ.ศ.๒๔๖๗ ได้รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลท่างาม-ชีน้ำร้าย เขต ๑ พ.ศ. ๒๔๗๘ รับตำแหน่งเป็นพระธรรมธร (โต๊ะ) และเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง พ.ศ.๒๔๘๕ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และพ.ศ.๒๕๐๑ ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็น “พระครูปราการกิตติคุณ”
ในด้านวิชาไสยเวทแขนงต่างๆ หลวงพ่อโต๊ะมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก โดยท่านได้ศึกษามาจากหลายพระคณาจารย์ ได้แก่ ๑.หลวงพ่อลา วัดโพธ์ศรี จ.สิงห์บุรี ๒.หลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก จ.ลพบุรี ๓.หลวงพ่อโพธิ์ วัดกำแพง จ.สิงห์บุรี (โยมบิดาของท่าน) ๔.หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อโต๊ะ เป็นพระอริยสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก จนเชื่อกันว่าท่านได้สำเร็จอภิญญาสมาบัติ มีตาทิพย์ หูทิพย์ สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งวันมรณภาพของท่านเอง