ในศิลปะของศาสนาฮินดู มีพระศิวะอยู่ปางหนึ่งซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นชวนฉงนอย่างยิ่ง เพราะพระกายด้านขวาเป็นชาย ส่วนด้านซ้ายเป็นหญิง
ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อแรกสร้างจักรวาลนั้น พระพรหมได้สร้างมนุษย์เพศชายเพียงเพศเดียว แต่เพศชายเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สามารถขยายเผ่าพันธุ์ในโลกได้ พระพรหมจึงได้ทำการบวงสรวง ทำให้ศิวะมหาเทพเสด็จลงมาแนะแนวทางแก้ไขปัญหา โดยมาในปางอรรธนารีศวร (Ardhanarishvara) ซึ่งมีทั้งเพศชายและเพศหญิงรวมอยู่ในร่างเดียวกัน
เมื่อพระพรหมได้ยลโฉมของอรรธนารีศวรแล้วก็ถึงบางอ้อ เข้าใจในกำลังเสริมของเพศคู่ อันจะนำมาซึ่งความสมบูรณ์และการถือกำเนิดของชีวิตใหม่
คำว่า อรรธนารีศวร มาจากคำ 3 คำ ได้แก่ อรรธ (ครึ่ง) + นารี (ผู้หญิง) + อิศวร (พระผู้เป็นเจ้า) หมายถึง เทพเจ้าผู้เป็นสตรีครึ่งหนึ่งนั่นเอง บางครั้งก็เรียกสั้นๆ ว่า อรรธนารี (Ardhanari) เฉยๆ
ผู้ชายทางซีกขวาคือ พระศิวะ ส่วนผู้หญิงทางซีกซ้ายคือ พระปารวตี ชายาของพระองค์ โดยในที่นี้พระปารวตีเป็น ศักติ (Shakti) แปลว่า อำนาจหรือผู้ทรงไว้ซึ่งอำนาจของพระสวามี (ซึ่งในที่นี้คือ พระศิวะ)
ลัทธิศักติ (Shaktism) นั้นถือว่าชายาแห่งเทพองค์หนึ่งๆ นี่แหละคือผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของเทพองค์นั้น เช่น พระปารวตีกุมอำนาจของพระศิวะ พระสรัสวดีกุมอำนาจของพระพรหม และพระลักษมีกุมอำนาจของพระวิษณุ