1.ประวัติหลวงพ่อโสธร
ในอดีตมีประวัติเล่าขานกันมาว่า เมื่อปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระพุทธรูปลอยน้ำมา 3 องค์ที่แม่น้ำบางปะกง ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นมาบนฝั่งได้ ไม่ว่าจะทำวิธีใดก็ตาม ใช้เชือกเส้นใหญ่ก็ขาด อีกทั้งยังเกิดกระแสน้ำปั่นป่วนเป็นที่น่าอัศจรรย์ ทำให้พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ จมหายไป ชาวบ้านต่างกราบไหว้ปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น กระทั่งต่อมาพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ได้ผุดขึ้นในบริเวณต่างๆ กัน โดยองค์แรก ลอยไปผุดขึ้นที่คลองวัดบางพลี จึงอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดบางพลี จ.สมุทรปราการเป็น “หลวงพ่อโตบางพลี”
องค์ที่สองลอยไปที่บ้านแหลม จ.สมุทรสงคราม ชาวบ้านตีอวนได้จึงอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดบ้านแหลม เป็น “หลวงพ่อวัดบ้านแหลม” ส่วนองค์สุดท้าย ผุดขึ้นท่ีแม่น้ำบางปะกง จึงทำพิธีอัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่วัดเสาธงทอนหรือวัดโสธรในปัจจุบัน และได้ชื่อว่า “หลวงพ่อโสธร”
หลวงพ่อโสธรเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีส่วนสูง 6 ฟุต 7 นิ้ว และหน้าตักกว้าง 5 ฟุต 6 นิ้ว มีรูปทรงสวยงาม จากข้อมูลของกรมศิลปากร พบว่า หลวงพ่อโสธรสร้างขึ้นจากหินทรายแปดชิ้น แล้วพอกปูนทับเป็นองค์ และจากวัสดุและพุทธศิลป์ คาดว่าเป็นศิลปะอยุธยาตอนต้น
2.หลวงพ่อโสธรมี 2 องค์ องค์จริงและองค์จำลอง
หลวงพ่อโสธร ทั้งสององค์ ประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ซึ่งมีพระอุโบสถ 2 หลัง คือ พระอุโบสถหลังใหม่ ประดิษฐานหลวงพ่อโสธรองค์จริง และพระอุโบสถที่อยู่ข้าง ๆ เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธรจำลอง โดยสามารถเข้ากราบไหว้หลวงพ่อโสธรได้ทั้งสองพระอุโบสถ โดยหากเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อโสธรองค์จริง จะไม่อนุญาตให้จุดธูปเทียนด้านใน
สาเหตุที่ต้องสร้างหลวงพ่อโสธรจำลองขึ้นมานั้น เพื่อป้องกันผู้ที่ประสงค์จะทำการไม่ดีกับหลวงพ่อโสธรองค์จริง จึงได้จัดทำพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหม่ขึ้นมานั่นเอง
3. ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธร
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธรเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้มีจิตศรัทธา กล่าวกันว่าผู้ที่ได้มาขอพรกับหลวงพ่อโสธร มักจะสมปรารถนาในเรื่องการค้าขาย ประสบความสำเร็จ มีโชคลาภเงินทอง และสุขภาพแข็งแรง ทำให้มีประชาชนจำนวนมากต่างหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้และขอบารมีจากหลวงพ่อปกป้องคุ้มครองหรือขอพรให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และยังมีการเล่าขานกันต่อ ๆ มามีคนใช้ขี้ธูป ดอกไม้บูชาที่แห้งเหี่ยวแล้ว และอธิษฐานหยดเทียน ขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อมาทำยา แล้วหายจากโรคภัย จนกลายเป็นกิติศัพท์โด่งดังไปทั่ว