พระกริ่งนะโภคทรัพย์ คือพระกริ่งที่สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทรงอนุญาตให้สร้างขึ้น เนื่องจากในปลายปีพ.ศ.2481 พระอาจารย์แสวง สำนักวัดสระเกศฯ พระชัยปัญญาอธิบดีศาลอาญา พระราชอากร อธิบดีกรมสรรพากร ในขณะนั้น ได้ร่วมดำริที่จะสร้างพระกริ่งขึ้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจของประชาชน จึงได้ร่วมกันนำความกราบทูลสมเด็จพระสังฆราชฯ เพื่อขอคำปรึกษา และทูลเชิญไปเป็นประธานสร้างพระกริ่งที่วัดสระเกศฯ
สมเด็จ พระสังฆราชฯ ตรัสถามว่า "จะทำพิธีที่วัดสุทัศน์ไม่เหมาะกว่าหรือ?" คณะกรรมการเห็นเป็นโอกาสเหมาะที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเปิดโอกาส จึงทูลขออนุญาต ซึ่งก็ทรงเมตตาอนุญาต และรับสั่งให้อาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร ไปตามท่านเจ้าคุณศรี (สนธิ์) ช่วยรับภาระเป็นแม่งาน ดำเนินการต่อไป
พิธีหล่อพระกริ่งได้กำหนดวันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2482 ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็นประธานในงาน และทรงเมตตาเททองให้ด้วยพระองค์เอง พระกริ่งนะโภคทรัพย์นี้สร้างจำนวน 400 องค์ ช่างที่ออกแบบแม่พิมพ์ เป็นช่างของอาจารย์แสวง เดิมทีเป็นแบบบัวรอบฐาน รวม 10 คู่ด้วยกัน และที่ใต้ฐานมีอักขระเป็นตัวนะโภคทรัพย์ ครั้นเมื่อเทหล่อเป็นองค์แล้ว สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ทรงพิจารณาดูจึงตรัสว่าให้เก็บเอาไว้ก่อน เพื่อรอเข้าพิธีอีกครั้งหนึ่ง จึงค่อยเอาออกให้ประชาชนบูชาต่อไป พระอาจารย์แสวง พระชัยปัญญาก็เห็นชอบด้วยจึงทูลลากลับไป
ต่อมามีพระจำนวน หนึ่งไม่มากนักที่พระอาจารย์แสวงนำไปปลุกเสกที่วัดคลองด่าน แล้วนำออกให้ประชาชนเช่าบูชาก่อน พระที่เหลืออยู่ที่วัดสุทัศน์ สมเด็จพระสังฆราชทรงสั่งให้ช่างนำไปปาดลบบัวหลังออก เสีย 3 คู่ คงเหลือไว้ 7 คู่ เพื่อคงเอกลักษณ์ของพระกริ่งวัดสุทัศน์ไว้ เมื่อช่างประจำวัดได้ลบเอาบัวหลังออกแล้ว เนื้อพระตรงฐานด้านหลังจะดูสดใหม่ ไม่กลมกลืนกับเนื้อเดิม ดังนั้นจึงเอาพระกริ่งนะโภคทรัพย์ทั้งหมดไปชุบน้ำยา ให้ดูเนื้อกลมกลืนกัน และสมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ให้นำพระกริ่งรุ่นนี้เข้าพิธีวันเพ็ญเดือน 12 ของปลายปีพ.ศ.2482 อีกครั้งหนึ่ง