พระเชตุพนหน้าโหนก จ.สุโขทัย สวยมาก เนื้อดินสีดำ

พระเชตุพนหน้าโหนก จ.สุโขทัย สวยมาก เนื้อดินสีดำ
พระเชตุพนหน้าโหนก จ.สุโขทัย สวยมาก เนื้อดินสีดำพระเชตุพนหน้าโหนก จ.สุโขทัย สวยมาก เนื้อดินสีดำ
รหัสสินค้า SKTCHTP04
หมวดหมู่ พระกรุ
ราคา 20,000.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 9 ม.ค. 2564
อัพเดทล่าสุด 6 ก.ค. 2568
จำนวน
องค์
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
พระกำแพงหน้าโหนก มีขนาดเล็กมาก คือ กว้างประมาณ ๑.๕ ซม. สูงประมาณ ๒ ซม. บูชาพกติดตัวง่าย มีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับบูชาติดตัวทั้งชายและหญิง
พุทธคุณ ดีทางแคล้วคลาดปลอดภัยจากสรรพสิ่งทั้งปวง และเพียบพร้อมด้วยเมตตามหานิยมเป็นเลิศ
พุทธศิลป์ เป็นพระศิลปะสุโขทัย ผสมผสานฝีมือช่างสกุลกำแพงเพชร เท่าที่พบมีทั้งเนื้อดิน เนื้อชิน เนื้อว่าน และเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง

สุโขทัย เมืองของพระร่วงเจ้าซึ่งปรากฏร่องรอยตามหลักฐานที่เป็นจริงอยู่บนผืนแผ่นดินไทยจนได้รับการกล่าวขานกันต่อๆ มาว่าเป็น ดินแดนอันแสนศักดิ์สิทธิ์

                การปกครองเมืองสุโขทัยยุคต้นได้กล่าวถึงเมื่อพ่อขุนศรีนาวนำถม เจ้าเมืองสุโขทัยสิ้นพระชนม์ลง ในเมืองสุโขทัยเกิดการระส่ำระสาย เนื่องจาก “ขอมสมาสโขลญลำพง” เข้าครองเมืองสุโขทัย จนกระทั่ง พ่อขุนผ่าเมือง เจ้าเมืองราดผู้เป็นโอรสพ่อขุนศรีนาวนำถม ต้องเชิญชวนพ่อขุนบางกลางหาว ผู้เป็นสหายมาช่วยร่วมรบ ชิงเอาสุโขทัยกลับคืนมา

                เมื่อทำการยึดสุโขทัยกลับมาได้แล้ว พ่อขุนผาเมืองก็ยกเมืองสุโขทัยซึ่งเป็นของพระราชบิดาให้แก่พ่อขุนบางกลางหาว พร้อมกับมอบพระขรรค์ชัยศรี และนามศรีอินทราทิตย์ เป็นเกียรติยศ นามที่ได้รับมาจากกษัตริย์ของกัมพูชาให้กับพ่อขุนบางกลางหาวอีกด้วย ส่วนตนเองกลับไปครองเมืองราดตามเดิม

                ต่อแต่นั้นมา พ่อขุนบางกลางหาว จึงเป็นที่รู้จักกันในนาม “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์” ซึ่งถือกันว่า เป็นต้นราชวงศ์พระร่วงที่ครองสุโขทัยสืบต่อมา

                เมื่อพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ สิ้นพระชนม์แล้ว พ่อขุนบาลเมืองโอรสองค์ใหญ่ได้ครองเมืองสืบมา โดยมีพ่อขุนรามคำแหงพระอนุชาคอยช่วยเหลือในการครองเมืองตลอดมา สภาพการณ์ของสุโขทัยในขณะนั้น ยังมีสภาพเป็นนครหรือรัฐเล็กๆ ที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวใหม่ๆครั้งถึงต้นพุทธศตวรรษทีสิบเก้า ประวัติศาสตร์สุโขทัยได้กลับรุ่งโรจน์ขึ้นอย่างโดดเด่น เมื่อพ่อขุนรามคำแหงได้ขึ้นครองเมืองต่อจากพ่อขุนบาลเมืองผู้เป็นเชษฐา

                ในระยะเวลาแห่งความรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัย ตามหลักฐานทาด้านศิลาจารึกระบุว่า อยู่ในระหว่างรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหง (พ.ศ. 1822-1841) ถึงยุคสมัยของพระมหาธรรมราชาลิไท เงื่อนไขทางประวัติศาสตร์ระหว่างสองสมัยนี้เอื้ออำนวยต่อการวิวัฒนาการตามรูปแบบของศิลปกรรมสุโขทัยเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ก็ได้เริ่มแพร่หลายขึ้นในกรุงสุโขทัย มีพระพุทธรูปและวัดวาอารามเป็นจำนวนมาก ที่ได้สร้างขึ้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ในสมัยสุโขทัยรุ่งเรืองขึ้นจนถึงขีดสูงสุดในรัชสมัยของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระเจ้าลิไท) ดังจะเห็นได้จากการเสด็จออกผนวชของพระองค์ที่ วัดป่ามะม่วง ในปี พ.ศ. 1905 พระมหาธรรมราชาลิไท ทรงเชิดชูพระพุทธศาสนาให้เป็นแกนนำในการรวบรวมอาณาจักรสุโขทัยเข้าไว้เป็นหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ สามารถสะท้อนภาพออกมาให้เห็นได้อย่างเด่นชัดจากบรรดาโบราณวัตถุโบราณสถานอันเป็นปูชนียวัตถุ และปูชนียสถาน ทางพุทธศาสนาที่ได้สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระองค์

                โบราณสถานของสุโขทัยที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ ได้แก่ วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพระเครื่องมากมายกว่า 20 พิมพ์ เช่น พระร่วงซุ้มข้างเม็ดที่มีชื่อเสียง พระร่วงตีนโด่ ฯลฯ วัดสระศรี วัดพระเชตุพน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดพระร่วงนั่งหน้าโหนกพระเชตุพนบัวสองชั้น และพระพิมพ์ล้อพิจิตรข้างเม็ด วัดเจดีย์งาม วัดตะพังทอง วัดเจดีย์ห้ายอด วัดมุมลังกา วัดถ้ำหีบที่มีชื่อเสียงของพระลีลาศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ วัดเจดีย์งาม วัดศรีสวาย ฯลฯ

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาปตท.ถนนกาญจนาภิเษก 2 ออมทรัพย์

JEWELRY-ANTIQUE-AMULET

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม4,446,214 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด3,382,512 ครั้ง
เปิดร้าน4 ก.พ. 2558
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

ติดต่อเรา

ติดตามสินค้า

พูดคุย-สอบถาม