พระรูปเหมือน หลวงปู่พรหมมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน

รุ่นแรก เนื้อดินสีจุ่มรัก
ประวัติของครูบาพรหมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน นามเดิม พรหมา พิมสาร กำเนิด 30ส.ค. 2441สถานที่เกิด บ้านป่าแพ่ง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน อุปสมบท อุปสมบท ณ วัดป่าเหยง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 16ม.ค. 2461สมณศักดิ์ พระสุพรหมยานเถร มรณภาพ 17ส.ค. 2527อายุ 87ปี 67พรรษา ครูบาเจ้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15ปี และอุปสมบทเมื่ออายุได้ 20ปี กระทั่งพรรษาที่ 4ท่านได้เริ่มต้น เข้าสู่วิถีแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ทั้งเขตประเทศไทย พม่า และลาว กระทั่งในปี พ.ศ. 2491ท่านจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า และได้พัฒนาวัดจนมีชื่อเสียงเป็นศาสนสถาน ที่มีความสำคัญทางศาสนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน และด้วยการสั่งสมบุญบารมี คุณงามความดีของท่านนี้เองทำให้ ท่านได้รับความเคารพศรัทธาจากพุทธบริษัทโดยทั่วไป แม้ท่านจะผู้มีลาภสักการะมาก แต่ก็ไม่ได้สะสมถือไว้เป็นสมบัติ ส่วนตนแม้แต่น้อย ในทางตรงข้ามกลับได้มอบสมบัติเหล่านั้น เพื่อใช้ในสาธารณกุศลทั้งหมด ดังนั้น จึงสมควรจะจดจำ ระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน และถือปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีสืบไป พระสุพรหมยานเถร(ครูบาพรหมมา พรหมจักโก) อริยะสงฆ์เมืองลำพูน พระสุพรหมยานเถร หรือครูบาพรหมมา อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน นับเป็นอีกหนึ่งของอริยะสงฆ์แห่งเมืองลำพูน ท่านเกิดในชาติตระกูลที่เลื่อมใสในพุทธศาสนาอย่างสูงสุด ทั้งนี้เพราะในตระกูลพิมสารของท่าน มีผู้บวชอยู่ใต้ร่มกาสาวพัตรถึง 4รูปคือ (จากจำนวนบุตรธิดาทั้งหมด 13คน) 1.ครูบาเป็ง วัดป่าหนองเจดีย์ ซึ่งเป็นครูบาพ่อแท้ๆของท่าน 2.ครูบาอินทรจักร วัดน้ำบ่อหลวง พี่ชาย 3.ครูบาพรหมมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า 4.ครูบาคัมภีระ วัดดอยน้อยน้องชาย คงจะหาเช่นนี้ไม่ได้อีกแล้วในเมืองไทย พระสุปฏิบันโน อริยะสงฆ์รูปนี้ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาอย่างมากมาย จนได้รับสมณศักดิ์สุดท้ายคือพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุพรหมยานเถร ในปี พ.ศ 2519 ครูบาเจ้าพรหมจักร หรือครูบาพรหมมา ได้บำเพ็ญสมณธรรมจนเข้าสู่วัยชราภาพ จนกระทั้งวันที่ 17สิงหาคม 2527เวลา 06.00น.ท่านก็ละสังขารถึงแก่มรณะภาพที่โรงพยาบาล นครเชียงใหม่ เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าเช้าวันดังกล่าว หลังจากสำรวมจิตตั้งมั่น สงบระงับ ครูบาเจ้าก็ดับขันธ์ในท่านั่งสมาธิภาวนา คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัดพระพุทธบาทตากผ้าเป็นเวลา 3ปี ล่วงมาจนถึงวันที่ 30มกราคม 2531พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนิน มาพระราชทานเพลิงศพครูบาเจ้าด้วยพระองค์เอง งานพระราชพิธีดังกล่าวมีพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศ และต่างประเทศหลายหมื่นคน ภายหลังงานพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้น คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันเก็บอัฐิปรากฎว่า อัฐิของครูบาเจ้าพรหมจักรได้กลายเป็นพระธาตุมีวรรณะสีต่างๆหลายสี ปัจจุบันบรรจุอยู่ที่เจดีย์พระธาตุสี่ครูบา (คือบรรจุรวมกับครูบา อีก 3 รูปที่เป็นพ่อ พี่ชาย และน้องชายของท่าน) พุทธศาสนิกชนสามารถเข้ากราบไหว้บูชาได้ที่ บนภูเขาด้านหลังวัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน