เหรียญ หลวงพ่อประทานพร วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.อยุธยา ลาภ ผล เพิ่ม สุข ปี 2542

เกร็ดประวัติ วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่และมีประวัติอันยาวนาน โดยก่อสร้างขึ้นก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา และไม่ปรากฎหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้างวัด จากตามหนังสือพงศาวดารเหนือ กล่าวไว้ว่า “พระเจ้าสายน้ำผึ้ง” เป็นผู้สร้างวัดแห่งนี้ และพระราชทานนามว่า “วัดเจ้าพระนางเชิง” โดยมีที่มาจากตำนานเล่าว่า พระนางสร้อยดอกหมาก พระราชธิดาบุญธรรมในพระเจ้ากรุงจีน เดินทางมาอภิเษกสมรสกับพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ได้เสียชีวิตลง จึงได้มีการพระราชพิธีศพขึ้นที่บริเวณที่ตั้งของวัดพนัญเชิง ซึ่งภายในวัดยังมีตำหนักเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก เป็นสถานที่ซึ่งประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก หรือที่คนจีนเรียกกันว่า “จู๊แซเนี้ย”

ทั้งนี้ ในพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ ก็ยังได้กล่าวไว้อีกว่า หลังจากนั้นก็ได้มีการสถาปนาพระพุทธรูปพุทธชื่อ “พระเจ้าพแนงเชิง” เมื่อปี พ.ศ. 1867 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี และวัดพนัญเชิงยังเคยได้รับความเสียหายหนักมากในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ได้มีการบูรณะพระพุทธรูปประจำวัดพนัญเชิงขึ้นใหม่หมดทั้งองค์ รวมถึงอาคารอื่น ๆ ที่อยู่ภายในวัด เพื่อให้วัดพนัญเชิงยังคงอยู่ในสภาพที่ดีจนถึงปัจจุบัน และวัดพนัญเชิง มีสถานะเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร

จุดเด่นที่น่าสนใจของ “วัดพนัญเชิงวรวิหาร”
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาตินิยมมาเที่ยวชม กราบไหว้สักการะขอพร จุดเด่นมีอะไรบ้าง มาดูกัน

หลวงพ่อโต พระพุทธรูปขนาใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา
ไฮไลท์แรกของวัดพนัญเชิงวรวิหารคือ หลวงพ่อโต พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะอู่ทองตอนปลายปางมารวิชัย ซึ่งอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิราบ มีหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 19 เมตร และลงรักปิดทองอย่างสวยงาม ก่อนหน้านี้เคยได้รับความเสียหายในช่วงสมัยเสียกรุงด้วย นอกจากนี้หลวงพ่อโตยังเป็น ทั้งนี้ หลวงพ่อโต หรือพระพุทธไตรรัตนนายก หรือพระโต ของชาวอยุธยาองค์นี้ ซึ่งเป็นพระโบราณที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยามาแต่แรกสร้างกรุง อีกทั้ง หลวงพ่อโต เป็นพระองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในหมู่ชาวจีนมาก โดยชาวจีนเรียกว่า “ซำปอกง” จึงทำให้ผู้คนเดินทางมากราบไหว้บูชาเป็นจำนวนมาก

พระพุทธรูปทองคำในพระอุโบสถ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของวัดพนัญเชิงวรวิหาร คือพระพุทธรูปที่สำคัญอีก 3 องค์ คือ พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปปูน และ ระพุทธรูปนาค โดยพระพุทธรูปทองเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยทำจาทองสัมฤทธิ์ มีหน้าตักที่กว้าง 3 ศอก สูง 4 ศอก มีสีทองอร่ามงดงาม ส่วนองค์กลางเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสมัยอยุธยามีหน้าตักกว้าง 4 ศอก สูง 5 ศอก และพระพุทธรูปนาคซึ่งเป็นพระพุทธรูปในสมัยสุโขทัย มีสีออกแดง หน้าตักกว้าง 3 ศอก สูง 5 ศอก โดยเล่าขานกันมาว่าพระพุทธรูปทองและนาคนี้ เพิ่งถูกพบว่าเป็นพระทองและพระนาคด้วยความบังเอิญ เดิมทีพระทั้งสององค์ได้ถูกฉาบและเคลือบด้วยปูน จนมีลักษณะคล้ายกับพระพุทธรูปปูนปั้นทั่วไปเลย ใครอยากเห็นเมื่อมาที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร อย่าลืมมาไหว้ขอพรเพื่อสิริมงคลแห่ชีวิต