ชื่อในอักษรเทวนาครี गणेशः
ชื่อในการทับศัพท์ภาษาสันสกฤต Gaṇeśa
ส่วนเกี่ยวข้อง เทพ, พระพรหม (คณปัตยะ), สคุณพรหมัน (ปัญจยาตนบูชา), พระอิศวร
ที่ประทับ เขาไกรลาศ (เคียงพระศิวะและพระปารวตี), คเนศโลก
มนตร์ โอม ศรี คเณศายะ นะมะหะ
โอม คัง คณปัตเย นะมะหะ
(Oṃ Shri Gaṇeśāya Namaḥ
Oṃ Gaṃ Gaṇapatye Namaḥ)
อาวุธ ปรศุ (ขวาน), ปาศ (บาศ), อัณกุศ (ประตักช้าง)
สัญลักษณ์ โอม, ขนมโมทกะ
พาหนะ หนู
คัมภีร์ คเนศปุราณะ, มุทคลปุราณะ, คณปติอัฐรวศีรษะ
เพศ บุรุษ
เทศกาล คเนศจตุรถี
คู่ครอง พุทธิ (ปัญญา), ฤทธิ (ความเจริญ), สิทธิ (ความสำเร็จ)
บิดา-มารดา พระศิวะ (บิดา), พระปารวตี (มารดา)
พี่น้อง พระขันทกุมาร (พระเชษฐา) ศาสฐา (พระอนุชา)
พระคเณศ (สันสกฤต: गणेश ทมิฬ: பிள்ளையார் อังกฤษ: Ganesha) ชาวไทยนิยมเรียกว่า พระพิฆเนศ (विघ्नेश) พระนามอื่นที่พบ เช่น พระพิฆเณศวร พระพิฆเณศวร์ หรือ คณปติ เป็นเทวดาในศาสนาฮินดูที่ได้รับการเคารพบูชาอย่างแพร่หลายที่สุดพระองค์หนึ่ง พบรูปแพร่หลายทั้งในประเทศอินเดีย, เนปาล, ศรีลังกา, ฟีจี, ไทย, บาหลี, บังคลาเทศ นิกายในศาสนาฮินดูทุกนิกายล้วนเคารพบูชาพระคเณศ ไม่ได้จำกัดเฉพาะในคาณปัตยะเท่านั้น และการบูชาพระคเณศยังพบในพุทธและไชนะอีกด้วย
พระลักษณะที่โดดเด่นจากเทพองค์อื่น ๆ คือพระเศียรเป็นช้าง เป็นที่เคารพกันโดยทั่วไปในฐานะของเทพเจ้าผู้ขจัดอุปสรรค, องค์อุปถัมภ์แห่งศิลปวิทยาการ วิทยาศาสตร์ และศาสตร์ทั้งปวง และทรงเป็นเทพเจ้าแห่งความฉลาดเฉลียวและปัญญา ในฐานะที่พระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งการเริ่มต้น ในบทสวดบูชาต่าง ๆ ก่อนเริ่มพิธีการหรือกิจกรรมใด ๆ ก็จะเปล่งพระนามพระองค์ก่อนเสมอ ๆ
สันนิษฐานกันว่าพระคเณศน่าจะปรากฏขึ้นเป็นเทพเจ้าครั้งแรกในราวคริสต์ศตวรรษที่ 1 ส่วนหลักฐานยืนยันว่ามีการบูชากันย้อนกลับไปเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 4–5 สมัยอาณาจักรคุปตะ ถึงแม้พระลักษณะจะพัฒนามาจากเทพเจ้าในพระเวทและยุคก่อนพระเวท เทพปกรณัมฮินดูระบุว่าพระคเณศทรงเป็นพระบุตรของพระศิวะและพระปารวตี พระองค์พบบูชากันอย่างแพร่หลายในทุกนิกายและวัฒนธรรมท้องถิ่นของศาสนาฮินดู พระคเณศทรงเป็นเทพเจ้าสูงสุดในนิกายคาณปัตยะ คัมภีร์หลักของพระคเณศเช่น คเณศปุราณะ, มุทคลปุราณะ และ คณปติอรรถวศีรษะ นอกจากนี้ยังมีสารานุกรมเชิงปุราณะอีกสองเล่มที่กล่าวเกี่ยวกับพระคเณศ คือ พรหมปุราณะ และ พรหมันทปุราณะ
นอกจากนั้นพระพิฆเนศ ยังเป็นที่เคารพนับถือของ ศาสตร์ในด้านศิลปิน และศิลปะต่างๆ สังเกตได้จากในพิธีต่างๆจะมีการอัญเชิญพระพิฆเนศ มาร่วมเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยประสิทธิ์ประศาสตร์พรให้กับผู้ร่วมพิธีอีกด้วย
ประวัติ วัดสมานรัตนาราม ฉะเชิงเทรา
วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอบางคล้า และอำเภอคลองเขื่อน ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เล่าสืบกันต่อกันมาว่า ขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อ จ๋าย สืบสมาน) เป็นคหบดี ผู้มีฐานะฐานะมั่นคงและเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป ท่านขุนมีน้องสาว 1 คน คือนางยี่สุ่น วิริยะพาณิชย และมีภรรยา 2 คนด้วยกันคือ นางทิม สืบสมาน และนางผ่อง สืบสมาน
ต่อมาเมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่อนิจกรรมลง นางยี่สุ่นผู้เป็นน้องสาวพร้อมกับภรรยาทั้ง 2 มีความประสงค์จะสร้างวัดเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ขุนสมานจีนประประชาผู้ล่วงลับจึงได้ดำเนินการสร้างวัดนี้ขึ้น และจึงตั้งชื่อวัดว่า วัดใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร ชาวบ้านโดยทั่วไปมักเรียกวัดนี้ว่า วัดใหม่ขุนสมาน
คนไทยเรานับถือพระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ และความสำเร็จ ทางด้านการศึกษาเล่าเรียน ตำแหน่งหน้าที่การงาน การเงิน ความรัก ปัดเป่าอุปสรรคทุกข์ภัย หรือแก้ไขปัญหาต่างๆ และภายในวัดสมานรัตนาราม ก็เป็นที่ประดิษฐาน พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อองค์เป็นสีชมพู ซึ่งมีขนาดความสูงถึง 16 เมตร และความกว้าง 14 เมตร ทีเดียว มีความวิจิตรงดงาม เป็นที่สักการะบูชาของประชาชนทั่วไปค่ะ และรอบฐานมีพระพิฆเนศปางต่างๆ อีก 32 ปางให้ได้ชมอีกด้วย
สำหรับความหมายของ พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุข นั้นก็คือ เป็นปางที่ประทานความมีกินมีใช้ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ เงินทองไม่ขาดมือ ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ รื่นรมย์ ไร้ทุกข์ ไร้ความเศร้าหมอง นั่นเอง
นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ภายในวัด เป็นที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับวัด และพระพิฆเนศให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม รวมถึงยังมีจุดให้เช่าพระพิฆเนศกลับไปบูชาที่บ้านอีกด้วย
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในวัดสมานรัตนาราม
นอกจากองคพระพิฆเนศ ที่เป็นที่สักการะบูชา และเป็นจุดเด่นสำคัญของวัดสมานรัตนารามแล้ว ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ประดิษฐานอยู่ด้วย ถึง 10 แห่งด้วยกันที่ผู้คนนิยมมาขอพร และทำบุญ คือ
หลวงพ่อโต พระประธานในอุโบสถ
หลวงพ่อองค์ดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
หลวงพ่อประทานพร
พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานบุตร
พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข
พระพิฆเนศ ปางปาฏิหาริย์ ๑๐๘ กร
ช้างเอราวัณ
พระราหู
ท้าวมหาพรหม
จระเข้โหราเทพารักษ์
อีกทั้งยังมี พระบรมสารีริกธาตุ ในดอกบัวกลางแม่น้ำวิจิตรสวยงาม ให้ประชาชนได้เข้าไปกราบไวห้กันอีกด้วย
ที่อยู่ : ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง หมู่ที่ 11 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.