เหรียญ หลวงพ่อมหาสูง วัดหนองผักชี กรุงเทพมหานคร งานผูกพัทธสีมา เมตตา แคล้วคลาด กะหลั่ยทองลงยา

ประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ที่สูงที่สุดในโลก หลวงพ่อประสิทธิ์ ปสิทฺธิโก หรือ หลวงพ่อสูง วัดหนองผักชี
หากมีใครตั้งคำถามขึ้นมาว่าพระท่านใดตัวสูงที่สุดในโลก เชื่อว่าผู้คนที่รู้จักจะต้องยกมือขึ้นต่อว่าเป็นหลวงพ่อสูงแห่งวัดหนองผักชีกันอย่างแน่นอน และก็มีความเชื่อเช่นกันว่าอาจมีใครอีกหลายคนที่ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน สำหรับวันนี้เราจะพาคุณมาทราบ ประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ที่สูงที่สุดในโลก หลวงพ่อประสิทธิ์ ปสิทฺธิโก หรือ หลวงพ่อสูง วัดหนองผักชี !  ซึ่งแน่นอนว่าเราจะพาคุณมารู้จักกับหลวงพ่อสูงพร้อมกับทราบถึงประวัติความเป็นมาและผลงานของท่านในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่  เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจดังต่อไปนี้กันเลยดีกว่า  

ประวัติหลวงพ่อสูง วัดหนองผักชี เขตสายไหม จังหวัดกรุงเทพฯ  
สำหรับหลวงพ่อประสิทธิ์ ปสิทฺธิโก แห่ง วัดราษฎร์นิยมธรรม(หรือที่ใครหลายคนมักจะเรียกกันว่าวัดหนองผักชีในครั้งอดีต) นั้นใครหลายคนมักจะรู้จักกันดีในนามของหลวงพ่อสูง เนื่องจากรูปร่างที่ใหญ่โตซึ่งท่านมีความสูงมากกว่าผู้คนปกติ ท่านค่อนข้างมีชื่อเสียงทางด้านแก้คุณไสย และท่านเป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตามีเมตตาธรรมสูงอีกทั้งยังชอบช่วยเหลือผู้คนที่มาขอความช่วยเหลือ โดยเฉพาะสำหรับใครที่โดนคุณไสยก็มักจะไปให้หลวงพ่อท่านช่วยรักษา  
พระครูวรเวทวิศิษฏ์ หรือหลวงพ่อประสิทธิ์ และอีกหนึ่งชื่อที่ผู้คนมักจะเรียกกันว่าหลวงพ่อสูงนั้น ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ 2493 ซึ่งตรงกับวันที่ 9 เดือนกันยายน  มีนามสกุลว่า กลิ่นจันทร์  ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกันถึง 7 คนซึ่งท่านเป็นลูกชายคนที่ 2 ของคุณพ่อและคุณแม่  โดยปกติแล้วร่างกายของท่านก็เจริญเติบโตไปตามวัยปกติจนกระทั่งเมื่อท่านมีอายุได้ย่างเข้า 16 ปี  ก็ได้ทราบว่าร่างกายของท่านเริ่มผิดปกติ และแปลกไปจากเพื่อนๆรุ่นเดียวกันคือความสูงที่เจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงและสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างเหลือเชื่อ  

จึงเป็นเหตุทำให้ทางบ้านพาท่านไปพบแพทย์และจากการตรวจสอบร่างกาย คุณพ่อและคุณแม่ของท่านจึงเกรงว่าความสุขนี้อาจเป็นอันตราย กลัวโรคภัยต่างๆจะมาเยือนจึงทำให้คุณหมอช่วยตรวจอย่างละเอียด  จากนั้นแพทย์ก็ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าเกิดจากต่อมฮอร์โมนบางชนิดที่ทำงานผิดปกติ แต่ก็ไม่ส่งผลอันตรายหรือทำให้เกิดพิษภัยใดต่อร่างกาย  แต่ในส่วนของร่างกายที่เจริญเติบโตและสูงผิดปกตินั้นก็มีความสมบูรณ์ทุกอย่างไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยใด  สำหรับความสูงของท่านคือ 2.32 เมตร ซึ่งนับได้ว่าท่านเป็นผู้ที่มีความสูงมากที่สุดในเอเชีย และเป็นผู้พระภิกษุสงฆ์ที่ตัวสูงที่สุดในโลก 

 และในช่วงปีพ.ศ 2560 หลวงพ่อท่านก็ได้มรณภาพลงซึ่งตรงกับวันที่ 30 เดือนเมษายน รวมสิริอายุได้ 67 ปี  และเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือสังขารของท่านไม่ได้เน่าเปื่อย สังขารจะถูกเก็บไว้ประมาณ 100 วันแล้วก็ตาม  และเหตุนี้จึงทำให้ผู้คนต่างพากันร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของท่าน 

ท่านเป็นพระนักพัฒนาและมีความสามารถ  
ท่านสำเร็จการศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนเมืองสมุทร ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร  จากนั้นถัดมาในช่วงปีพ.ศ 2532 ท่านก็สามารถสอบได้นักธรรมเอกที่สำนักเรียนคณะเขตบางเขน-จตุจักร  นอกจากนี้ในช่วงปีพ.ศ 2548 ท่านก็ได้รับพระราชทานปริญญา ในสาขาพัฒนาชุมชน ศิลปศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์  ซึ่งท่านเป็นพระผู้มีความรู้ความสามารถทางด้านก่อสร้างด้วยเช่นกัน  อีกทั้งยังมีความชำนาญในด้านการควบคุมและสำรวจอาคารก่อสร้างต่างๆซึ่งแน่นอนว่าท่านมักจะทำการบูรณะและปฏิสังขรณ์สิ่งเก่าๆที่อยู่ภายในวัดให้กลับมาใช้ได้ท่านเป็นพระนักพัฒนาที่มีจิตใจเมตตาธรรมสูง  ถัดมาในช่วงปี พ.ศ 2540 หลวงพ่อสูงนี้ท่านก็ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดราษฎร์นิยมธรรม หรือวัดหนองผักชีที่ชาวบ้านต่างพากันเรียกนั่นเองวัดหนองผักชีนั้นตั้งอยู่เขตสายไหม ซึ่งผู้คนรุ่นหลังก็ยังรู้จัก
หลวงพ่อสูงท่านเป็นผู้มีความชำนาญทางด้านแก้คุณไสย อีกทั้งยังได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้อย่างมากมายเพื่อมอบให้กับลูกศิษย์ลูกหาและญาติโยมในการพกติดตัวเอาไว้ป้องกันตนจากภยันตรายต่างๆ  จึงทำได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายรุ่นในปัจจุบันก็ค่อนข้างหาชมได้ยากเช่นกันซึ่งวัตถุมงคลแต่ละชิ้นของท่านนั้นล้วนถูกร่ำลือว่ามีพุทธคุณที่ค่อนข้างสูงและโดดเด่นทางด้านมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม เชื่อกันว่าหากใครได้มีไว้ในบูชาครอบครองก็จะทำให้การค้าขายเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม

อีกทั้งยังเป็นที่รักของผู้คนที่พบเห็นอีกด้วย นอกจากนี้ท่านยังมีความสามารถทางด้านวิทยาคม เป็นพระผู้มีอภิญญาสูงอีกทั้งยังมีวิชาลงของเลขยันต์ศักดิ์สีดรวมถึงอาบน้ำมนต์ไล่คุณไสยและทำพิธีกรรมในการไล่คุณไสยให้กับผู้ถูกรังแก  หรือพูดง่ายๆว่าใครที่โดนของก็มักจะมาหาท่าน  นอกจากนี้ท่านยังจัดพิธีสวดภาณยักษ์อีกด้วยซึ่งเป็นพิธีที่มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมากแต่ไม่ได้จัดทำอยู่บ่อยๆนัก 

วัตถุมงคลหลวงพ่อสูงวัดหนองผักชี 
สำหรับวัตถุมงคลที่หลวงพ่อสูงท่านได้สร้างนั้นมีหลากหลายมากมายและค่อนข้างเป็นที่ร่ำลือกันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตะกรุดหนังเสือกินคน  คุณท่านได้สร้างมาตามตำราโดยมีความเชื่อกันว่ามีพุทธคุณที่สูง ความโดดเด่นทางด้านมหาอำนาจ  คงกระพันชาตรีและหากใครที่สวมใส่ก็จะแคล้วคลาดปลอดภัยอีกทั้งยังเป็นเมตตามหานิยม  ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มักจะมาขอของดีจากท่านและพกติดตัวเอาไว้เพราะมีหลายคนที่เมื่อได้เช่าบูชาไปก็มักจะได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน รวมไปถึงดารานักแสดงก็มักจะพกติดตัวเอาไว้เอาชื่อกันว่าจะทำให้ผู้คนรักใครเอ็นดูและเป็นที่นิยมอย่างมาก  

และอีกหนึ่งวัตถุมงคลที่ค่อนข้างได้รับความนิยมสูงไม่แพ้กันก็คือสาริกามหาเสน่ห์ที่สร้างโดยหลวงพ่อสูง  สำหรับวัตถุมงคลชิ้นนี้ร่ำลือกันว่ามีความโดดเด่นทางด้านพุทธคุณที่สูง ซึ่งค่อนข้างเด่นในเรื่องของมหาเสน่ห์และเมตตามหานิยมหากใครมีไว้ในบูชาครอบครองก็เชื่อกันว่าจะเป็นที่รักของผู้คน จึงทำให้ผู้คนค่อนข้างถามถึงวัตถุมงคลชิ้นนี้กันเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้หลวงพ่อสูงท่านยังทำพิธีอาบน้ำมนต์เพื่อไล่คุณไสยอีกด้วย 

พิธีสวดภาณยักษ์ 
สำหรับพิธีสวดภาณยักษ์นั้นจะเป็นการสวด พระอาฏานาฏิยปริตร จะทำการแบ่งเป็น 2 ภาพอันได้แก่   ภาคภาณพระ และอีกหนึ่งภาคคือภาคญาณยักษ์ ซึ่งพิธีสวดภาณยักษ์นั้นเป็นพิธีที่มีความศักดิ์สิทธิ์และมีพุทธานุภาพมากเชื่อกันว่าเป็นการสวดไล่พูดเป็นปีศาจและสิ่งอัปมงคลที่มีความชั่วร้ายต่างๆให้พ้นจากชีวิต และสร้างศิริมงคล สร้างความร่มเย็นเป็นสุขให้กับชีวิตของผู้ที่อยู่ในพิธี 

ซึ่งหลวงพ่อสูงท่านมักจะค่อนข้างได้รับเชิญให้ร่วมพิธีนี้อยู่บ่อยๆ  เนื่องจากท่านมีความชำนาญทางด้านนี้ อีกทั้งท่านยังเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์สีลา จะระจะแสง ท่านผู้นี้เป็นฆราวาสที่เรืองเวทย์ จะเมืองอ่างทองอำเภอป่าโมก  ซึ่งเป็นสิทธิ์ของหลวงปู่ทองแห่งวัดราชโยธา  

และมีความเชื่อกันว่าหากใครโดนของแล้วไปรักษาที่ไหนไม่หายเมื่อเข้าพิธีสวดภาณยักษ์ หรือเพียงก้าวเข้าไปในวัดที่มีพิธีนี้ก็จะเกิดปฏิกิริยาอย่างเช่นสรุปทันทีหรือหมดสติได้ทันที  แล้วจากนั้นก็จะไม่มีอาการคล้ายกับคนโดนของอีกเลย  ซึ่งโดยปกติแล้วใน 1 ปีนั้นจะทำการจัดงานหรือพิธีเหล่านี้ขึ้นเพียงประมาณ 7 วัน   ซึ่งใน 7 วันนั้น และ 7 คืนนั้น ต้องห้ามทำเทียนน้ำมนต์ดับทั้งวันและทั้งคืน หากเทียนดับจำเป็นจะต้องเลิกพิธี  และสำหรับวันสุดท้ายของพิธีนี้ หลวงพ่อจะต้องทำการนอนในโรงเพื่อขับไล่ของออกจากการที่ได้ช่วยแก้ให้ผู้อื่นไว้  พิธีก็จะมีประมาณนี้  แต่หลังจากที่หลวงพ่อท่านได้มรณภาพลงก็ไม่ทราบว่าในปัจจุบันยังคงมีวิธีดังกล่าวเกิดขึ้นที่วัดหนองผักชีแห่งนี้อีกหรือไม่ ทั้งนี้ต้องติดตามกันต่อไป