เหรียญกลมเล็ก พระครูเมตตาธรรมธารี (เปี่ยม เมตติโก) วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี ปี 2517 รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า

เหรียญกลมเล็ก พระครูเมตตาธรรมธารี (เปี่ยม เมตติโก) วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี ปี 2517 รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า
เหรียญกลมเล็ก พระครูเมตตาธรรมธารี (เปี่ยม เมตติโก) วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี ปี 2517 รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้าเหรียญกลมเล็ก พระครูเมตตาธรรมธารี (เปี่ยม เมตติโก) วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี ปี 2517 รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า
รหัสสินค้า TH17R101
หมวดหมู่ 25.พระเครื่อง จังหวัดชลบุรี
ราคา 2,500.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 6 ส.ค. 2568
อัพเดทล่าสุด 6 ส.ค. 2568
จำนวน
เหรียญ
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
วัดทุ่งเหียง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ บ้านทุ่งเหียง ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ในประมาณปี พ.ศ.2477 มีราษฎรที่อพยพขึ้นมาหักล้างถางพงสร้างที่ทำมาหากินจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนมากคนเหล่านี้อพยพ มาจากบ้านหนองกระรอก (ปัจจุบันเรียกว่า บ้านนากระรอก) บ้านนามะตูม บ้านหมอนนาง และหมู่บ้านอื่นๆ ผู้คนที่มาอยู่ที่บ้านทุ่งเหียงส่วนมากมีพื้นฐานศรัทธาในการนับถือพระพุทธศาสนามาก่อนแล้ว เมื่อได้มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ความสำนึกในการเป็นพุทธศาสนิกชนที่มีเป็นทุนเดิมอยู่ในจิตใจจึงบังเกิดความคิด ในอันที่จะให้มีการจัดสร้างวัดขึ้นในชุมชนแห่งนี้ โดยมีนายเผือก พูลสวัสดิ์ อดีตกำนัน นายพัน นางกี๊ บุญมะ นายดง เขียวชะอุ่ม นายยู้ ศรีหงส์ นายหลี สงแพง นายสุข อุมา นายคำ พันสนิท นายเสนาะ พันสนิท และบุคคลอื่นอีกจำนวนหนึ่งได้รวบรวมกันนำความคิดในเรื่องการสร้างวัดไปกราบเรียนหลวงพ่อโด่ (พระครูพินิจสมาจาร) เจ้าอาวาสวัดนามะตูม พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ ซึ่งในขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะ พระสังฆาธิการปกครองท้องที่หมู่บ้านทุ่งเหียงอยู่ หลวงพ่อโด่ท่านมีความเห็นชอบในเรื่องนี้ ประจวบกับมีที่ดินที่ได้รับมรดกมาจากโยมบิดาของท่านคือปู่แพ อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้ ประมาณ 10 ไร่ ท่านจึงได้มอบเนื้อที่ดังกล่าวนั้นให้เป็นที่สร้างวัดในเบื้องแรก ตลอดจนท่านได้มีเมตตาจัดหาพระภิกษุมาจำพรรษาในครั้งแรกคือ พระอาจารย์เอม จากวัดหมอนนาง (หนองบัว) พร้อมด้วยพระภิกษุติดตามขึ้นมาด้วย 4-5 รูป
            การก่อสร้างเสนาสนะได้เริ่มดำเนินการในระยะแรก ได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญ 1 หลัง กุฏิสงฆ์เพียง 2 หลัง ให้เป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์ไปก่อน นับว่าชาวบ้านทุ่งเหียงได้มีวัดประจำหมู่บ้านขึ้นเป็นครั้งแรกด้วยความเมตตาของท่าน พระครูพินิจสมาจาร (หลวงพ่อโด่) ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา การดำเนินการสร้างวัดทุ่งเหียงในระยะเริ่มแรก คณะทายก ทายิกา ได้ทำการก่อสร้างปรับปรุงเพิ่มเติมเสนาสนะถาวรวัตถุ มาโดยตลอด แต่ก็เป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจประกอบกับพระสงฆ์ที่เป็น เจ้าอาวาสได้มีการสับเปลี่ยนมาโดยตลอด บางองค์อยู่ปฏิบัติหน้าที่ได้เพียง 4 หรือ 5 พรรษา ก็สึกหาลาเพศไป ทำให้การพัฒนาวัดเมื่อมีการเปลี่ยนผู้บริหารบ่อยๆ การพัฒนาก็หยุดชะงักลงไปบ้างเป็นธรรมดา
            ตราบจนถึงปี พ.ศ.2493 วัดทุ่งเหียงได้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ คือ ทางพระสังฆา ธิการในสมัยนั้น คือ พระครูพินิจสมาจาร (หลวงพ่อโด่) วัดนามะตูม ได้แต่งตั้งให้ พระอาจารย์เปี่ยม เมตฺติโก ซึ่งเป็นพระภิกษุที่มีพรรษากาลพอสมควร อีกทั้งท่านยังเป็นผู้เคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางกระบือ จังหวัด พระนคร สมัยนั้น (กรุงเทพฯ) มาแล้ว แต่ท่านได้ขอลาออกมาเพื่อแสวงหาครู อาจารย์ ที่จะเป็นผู้แนะแนวทางในการปฏิบัติศาสนธรรม จึงได้จาริกออกมา พระครูพินิจสมาจาร (หลวงพ่อโด่) จึงนิมนต์ท่านรับเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งเหียง เมื่อพระอาจารย์เปี่ยม เมตฺติโก รับเป็นเจ้าอาวาสแล้ว ท่านได้ใช้ความพยายามปรับปรุงเสนาสนะตลอดจนถาวรวัตถุของวัดให้เจริญมากขึ้นโดยลำดับ ประจวบกับในสมัยที่ท่านรับเป็นเจ้าอาวาสหมู่บ้านทุ่งเหียงที่เคยปราศจากเส้นทางคมนาคม ทางราชการได้จัดให้มีการสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อกับตัวอำเภอ พนัสนิคมได้สำเร็จ การสัญจรไปมา การลำเลียงพืชผลทางการเกษตร อันเป็นอาชีพหลักของหมู่บ้านแห่งนี้ จึงได้รับความสะดวกมากขึ้น พืชผลถูกลำเลียงออกสู่ตลาดภายนอกสร้างฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จำนวนประชากรในท้องถิ่นก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการอพยพย้ายถิ่นฐานมาบุกเบิกประกอบอาชีพต่างๆ มีการตั้งโรงเลื่อย โรงสีขนาดกลางและขนาดใหญ่ขึ้นในชุมชน ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของชาวบ้านทุ่งเหียงมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จำนวนพระภิกษุในวัดทุ่งเหียงที่เคยมีจำนวนเพียง 5-10 รูป ในพรรษากาลก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 20-30 รูป อันนับว่าเป็นปึกแผ่นแก่พระศาสนา เสนาสนะที่มีอยู่ ไม่เพียงพอต่อการจำพรรษาของพระสงฆ์ จึงมีความจำเป็นต้องก่อสร้างกุฏิสงฆ์เพิ่มเติม อีกทั้งที่ดินเดิมของวัดมีบริเวณจำกัด เนื่องจากได้ถูกแบ่งให้เป็นเนื้อที่ของโรงเรียนวัดทุ่งเหียงส่วนหนึ่ง ทางคณะทายก ทายิกา ของวัดจึงพร้อมใจกันจัดซื้อที่ดินด้านตะวันออกของวัดอันเป็นที่ดินของนายทอง รุ่งเรือง และนายถุ่น เสือขาว ประมาณเนื้อที่ 10 ไร่ เมื่อได้รวมกับที่ดินเดิมแล้วจะมีเนื้อที่ประมาณ 17-18 ไร่ ทำให้สะดวกในการขยายพื้นที่วัดออกไปอีก
            ต่อมาในปี พ.ศ.2496 ทางวัดประกอบด้วยเจ้าอาวาส และคณะทายก ทายิกา ได้เล็งเห็นว่าวัดมีความเป็นปึกแผ่น มีจำนวนพระภิกษุสามเณรจำพรรษามากพอสมควร การประกอบสังฆกรรมของพระภิกษุ การบรรพชาอุปสมบท การสวดปาติโมกข์ การประกอบพิธีกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา และวันอื่นๆ จำเป็นต้องไปอาศัยสถานที่ของวัดอื่น สร้างความลำบากให้แก่พระภิกษุภายในวัด จึงได้เห็นพ้องต้องกันว่าจะให้มีการสร้างอุโบสถขึ้นภายในวัด เมื่อได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงเริ่มทำการก่อสร้าง โดยในพิธีวางศิลาฤกษ์ ได้อาราธนาหลวงพ่อเสือ วัดวิรุฬหผล (วัดไผ่สามกอ) ตำบลสิบเอ็ดศอก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา มาเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์ และได้ดำเนินการขอพระราชทานวิสุงคามสีมาขึ้นไปตามลำดับ จนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2497 โดยมี จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
            เมื่อทางวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว โดยมีขนาด กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร จึงได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ ในการก่อสร้างครั้งนี้ ทางวัดได้รับแรงศรัทธาจากบุคคลทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่เป็นอย่างดี บุคคลที่มีส่วนในการสนับสนุนการสร้างอุโบสถในระยะแรกมี ขุนพูล แห่งบ้านคลองสวน จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นกำลังสนับสนุนที่สำคัญพร้อมด้วยคณะทายก ทายิกา ของบ้านทุ่งเหียง นอกจากนั้น ท่านเจ้าอาวาสได้ไปติดต่อขอกำลังศรัทธาจากคณะญาติ โยม ทางจังหวัดพระนคร อันมี ร้อยโทแก้ว คุณมณฑา บัววิวัฒน์ ได้ชักชวนญาติมิตรและผู้ที่ชอบพอคุ้นเคยกัน ร่วมกันจัดทอดกฐินเพื่อรวบรวมปัจจัยนำมาสมทบในการก่อสร้างอุโบสถเป็นเวลาติดต่อกันถึง 3 ปี จนการก่อสร้างอุโบสถสำเร็จลุล่วงทำการผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตได้ ในปี พ.ศ.2500 อันเป็นปีกึ่งพุทธกาลพอดี โดยสิ้นค่าก่อสร้างประมาณ 500,000 บาท นับว่าเป็นการก่อสร้างอุโบสถที่ใช้เวลาการก่อสร้างเพียงระยะเวลา 3 ปี เมื่อได้ทำการผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตแล้ว วัดทุ่งเหียงจึงนับว่าเป็นวัดโดยสมบูรณ์ เป็นศาสนสถานที่พระสงฆ์ได้บำเพ็ญศาสนธรรมและประชาชนได้มีสถานที่ในการประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาสืบมา ปัจจุบันมีพระมงคลโมลี วิ. (สมบุญ โสภโณ) เป็นเจ้าอาวาส
ข้อมูลวัดทุ่งเหียง

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาปตท.ถนนกาญจนาภิเษก 2 ออมทรัพย์

JEWELRY-ANTIQUE-AMULET

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม4,444,927 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด3,381,225 ครั้ง
เปิดร้าน4 ก.พ. 2558
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

ติดต่อเรา

ติดตามสินค้า

พูดคุย-สอบถาม