ยันต์โป๊ยก่วย ตรงกลางเขียนวงกลม แล้วแบ่งครึ่งวงกลม เป็นรูปตัว S มีจุดเล็กๆอยู่ข้างละจุด เรียกว่า “หยิน และหยาง”
แปดเหลี่ยม คือแปดทิศ มีเส้นขีดทิศละสามแถว ในทิศตรงกันข้าม จะกลับกัน แต่ละทิศเส้นที่เขียนไว้ทิศละ 3 แถวนั้น จะมีเส้นขาด
กลางบ้าง เต็มบ้างสลับกันไป ไม่เหมือนกันเลย
เช่นในทิศหนึ่ง เส้นเต็มไม่ขาดทั้งสามเส้น ทิศตรงกันข้าม เส้นอีกสามเส้นนั้น จะขาดหมดทั้งสามเส้น กลายเป็น 6 เส้น เมื่อนับรวมกับทิศตรงข้าม จะนับได้ 9 เส้น เป็นกฎตายตัวเสมอ
หรือถ้าทิศหนึ่ง เส้นสามเส้นนั้น เฉพาะเส้นบนและล่างเต็ม ขาดตรงเส้นกลาง
ในทิศตรงกันข้าม เส้นบนและล่างจะต้องขาดกลาง ส่วนเส้นกลางเต็ม เมื่อนับรวมกันแล้ว ทั้งสองทิศจะได้ 9 เส้นเช่นกัน
อาจารย์พลูหลวงอธิบายว่า ยันต์โป๊ยก่วย จะติดตรงที่มีหนทาง หรือคูคลองตรงเข้าสู่บ้านเท่านั้น เพราะถือกันว่า ถนนหนทางคูคลองต่างๆ ย่อมเป็นที่สัญจรของมนุษย์ และอมนุษย์ ซึ่งก็คือภูตผีปีศาจหรือเทวดา
ถ้าภูตผีปีศาจเข้าบ้าน อาจนำความโชคร้ายหรือความวิบัติใหญ่หลวงมาให้
เมื่อมีผู้คนในบ้าน ล้มหายตายจากด้วยเหตุอันไม่ถึงกาล หรือพบความวิบัติอย่างหนึ่งอย่างใด จึงจำต้องมียันต์โป๊ยก่วยไว้ป้องกัน หรือผลักดันให้เฉไฉไปที่อื่น
นอกจากติดยันต์โป๊ยก่วย ยังนิยมทำรูปสิงโตคาบกั้นหยั่นติดพร้อมกันไป เพื่อให้ภูตผีปีศาจกลัว
และที่ต้องใช้กระจกเขียนยันต์ ก็เพื่อให้มีแสงสะท้อนแปลบปลาบ หรือผีเห็นเงาตัวเองแล้วก็กลัว จนต้องหนีไป
คติความเชื่อเรื่องถนนและคูคลองตรงเข้าบ้าน...บางคนเชื่อว่า ไม่ใช่แต่จะชักพาเคราะห์ร้ายมาให้ ถนนคูคลองเดียวกัน ก็อาจนำพาโอปปาติกะฝ่ายบุญ หรือผีเทวดาดีๆ นำโชคลาภมหาศาลเข้าบ้านได้เหมือนกัน
แต่ความเชื่อหลังนี้ มีเคล็ดว่า ถ้าเกิดโชคลาภ ร่ำรวยมหาศาล หรือได้ยศศักดิ์อัครฐานใหญ่โตกะทันหัน ท่านให้ย้ายออกจากบ้านนั้นเสียโดยเร็ว
มิฉะนั้น เมื่อผีร้ายฝ่ายบาปเข้าบ้าน โชคลาภหรือความมีบุญหนักศักดิ์ใหญ่นั้น จะพลิกผัน กลายเป็นล้มละลายหายสูญในเวลารวดเร็ว
ผมอ่านเรื่องยันต์โป๊ยก่วย ของพลูหลวง จบ โทรศัพท์ถาม “น.นพรัตน์” ได้ความรู้เพิ่มเติมว่า
ยันต์โป๊ยก่วย เทพเจ้าฝูซี เขียนขึ้นมา เส้นขีดทั้ง 8 ทิศนั้น มีคำทำนาย 64 คำทำนาย สำหรับผู้รู้ที่เข้าใจ ก็จะใช้ทำนายดวงชะตาชีวิตดีร้าย และหาวิธีป้องกันแก้ไขได้ล่วงหน้า
ข้อมูลไทยรัฐกิเลนประลองเชิง