นางกวักปรากฏอยู่ในนิทานพื้นบ้านลพบุรีที่รับอิทธิพลจากรามเกียรติ์ฉบับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยมีเนื้อเรื่องว่าพระรามได้ต่อสู้กับท้าวกกขนาก (รามเกียรติ์ฉบับพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1 เรียกท้าวอุณาราช) เจ้าเมืองสิงขรผู้มีใจอยุติธรรม ด้วยการแผลงศรพรหมมาสตร์ตรึงท้าวกกขนากไว้บนเขาวงพระจันทร์ และสาปว่าท้าวกกขนากจะออกไปได้ก็ต่อเมื่อถึงยุคพระศรีอาริย์ หรือลูกศรที่ตรึงท้าวกกขนากถูกรดด้วยน้ำส้มสายชูเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์นั้นนางนงประจันทร์ธิดาท้าวกกขนากจึงเพียรทอผ้าไตรจีวรจากใยบัวเตรียมถวายพระศรีอาริย์ในอนาคต มิหนำซ้ำวันดีคืนดีนางนงประจันทร์จะแปลงกายเป็นหญิงสาวมาซื้อน้ำส้มสายชูหวังใจจะนำน้ำส้มสายชูนั้นไปราดรดศรพรหมมาสตร์ ชาวบ้านที่ทราบดังนั้นก็โกรธและรังเกียจนางนงประจันทร์ด้วยเกรงว่าหากท้าวกกขนากหลุดพ้นออกมาก็จะทำร้ายผู้คนอีก ด้วยเหตุนี้ปู่เจ้าเขาเขียวซึ่งเป็นสหายสนิทของท้าวกกขนากก็เกิดมีใจสงสารนางนงประจันทร์ จึงส่งนางกวักซึ่งเป็นธิดาไปอยู่เป็นเพื่อนนางนงประจันทร์ หลังจากนั้นเป็นต้นมา จากเดิมที่เคยมีผู้คนรังเกียจนางนงประจันทร์ ก็กลับมีแต่คนรักใคร่ นำลาภนำผลมาให้ นางนงประจันทร์จึงยกย่องนางกวักว่าเป็นหญิงผู้นำความสมบูรณ์ในโภคทรัพย์
วัดธัญญารามราษฎร์บำรุง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ประมาณ 13 ไร่
วัดธัญญารามราษฎร์บำรุงสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2477 โดยมีนายแช่มและนางหวาน สู่พิทักษ์ และคณะเป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้น โดยเริ่มสร้างกุฏิ 2 หลัง และมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่ 3 รูป และได้ไปนิมนต์ พระภิกษุสุด สุขปาโล จากวัดราษฎร์ศรัทธากะยารามมาจำพรรษา และได้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดธัญญารามราษฎร์บำรุงด้วย วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2495 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร
อาคารเสนาสนะ ได้แก่ อุโบสถกว้าง 8 เมตร ยาว 21 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2493 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงกระเบื้องเกล็ดเล็ก ศาลาการเปรียญกว้าง 11 เมตร ยาว 17 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2485 เป็นอาคารไม้หอสวดมนต์กว้าง 11 เมตร ยาว 17 เมตร เป็นอาคารไม้ กุฏิสงฆ์จำนวน 6 หลัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาบำเพ็ญกุศลจำนวน 1 หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก
รายนามเจ้าอาวาส
พระอธิการสุด สุขปาโล
พระอธิการงาม ผลปุญโญ
พระครูสาครวโรทัย (สนิท)
ข้อมูลวิกิพีเดีย