พระนางเป็นที่เคารพบูชาเป็นพิเศษ
ดังที่ องค์ดาไล ลามะ พระองค์แรกได้ทรงกล่าวถึงว่า
เพียงแค่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พระนางก็จะรีบรุดไปช่วยเหลือผู้ที่เชื่อศรัทธาในพระนางให้พ้นจากการถูกโจมตีจากหายนะ ๘ ประการ (อัษฏมหาภัย) ในทันที อันได้แก่
ความทิฐิลำพอง ความเขลา ความอาฆาตพยาบาท ความอิจฉาริษยา ความเห็นผิด ความโลภ ความยึดติด และความเคลือบแคลงสงสัย
ผู้เลื่อมใสในพระนางตาราเขียว เชื่อว่าอำนาจวิเศษของพระนางจะช่วยเอาชนะภยันตราย ความหวาดกลัว และความวิตกกลัดกลุ้ม และพระนางจะประทานพรต่างๆ ให้สมปรารถนา
และยังเชื่อกันว่าพระนางจะช่วยให้ผู้ที่บูชาพระนางข้ามพ้นห้วงทุกข์และอุปสรรคต่างๆ ไปสู่ความปลอดภัย และความสุขได้
ความเป็นอิสตรีในพระนาง ทำให้พระนางเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนและเมตตากรุณา พระนางคือตัวแทนแห่งความเมตตาอันทรงพลัง และอิทธิฤทธิ์ในการฟันฝ่าสถานะการณ์ที่ยากลำบากต่างๆ
พระนางอุบัติขึ้น จากน้ำพระเนตรของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรฯ ที่หลั่งลงมาด้วยความเวทนาในความทุกข์ยากของสรรพชีวิต เมื่อทรงทอดพระเนตรลงมาจากสวรรค์สู่โลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก และหยดน้ำพระเนตรที่หลั่งลงมา ก็บังเกิดเป็นพระนางตารา ๒ พระองค์ ซึ่งก็คือ
พระนางตาราขาวผู้เปี่ยมไปด้วยสันติสุขจากพระเนตรซ้าย
พระนางตาราเขียวผู้คร่ำเคร่งจากพระเนตรขวา
พระนางตาราเขียว – อุดมคติ แห่งความเป็นอิสตรีในพุทธศิลป์
พระนางตาราเขียว หรือ “กรีนตารา” คือภาคของพระนางตาราที่ทรงอิทธิฤทธิ์ที่สุด สีของพระนางเป็นสัญลักษณ์ของพละกำลังและความมีชีวิตชีวาในวัยแรกรุ่น ซึ่งความหมายว่าพระนางคือพระแม่แห่งการกระทำนั่นเอง
พระนางมักจะอยู่ในปางประทับนั่งโดยเหยียดพระบาทข้างขวาออกมาข้างหน้า ซึ่งสื่อความหมายว่าพระนางพร้อมที่จะลุกออกไปปฏิบัติภารกิจนั่นเอง ส่วนพระบาทซ้ายพับไว้ในปางสมาธิบนปัทมอาสน์ (ฐานดอกบัว) ดังนั้นลักษณะของพระบาททั้งสองจึงเป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างศิลป์และปัญญา
พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในปางโปรดสัตว์ โดยถือก้านดอกปทุมสีขาบ (สีน้ำเงินเข้ม) โดยที่ช่อดอกลอยอยู่เหนือพระอังสาข้างซ้ายเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และอำนาจ ส่วนพระหัตถ์ขวาอยู่ในปางประทานพร
พระนางตาราทรงเครื่องประดับมากมายซึ่งแสดงถึงความเป็นกายทิพย์ที่เรียกว่าสัมโภคกาย (กายแห่งความรื่นเริง) อัญมณีสีทอง แดง และเขียวถูกนำมาประดับพระวรกายของพระนาง อันประกอบด้วยสร้อยพระกร สร้อยพระศอร้อยอัญมณีต่างๆ หลายเส้น สร้อยอัญมณียาวหลายเส้นที่ประดับพันรอบพระกายและที่พระพาหา (แขน) ข้างขวา ลักษณะดังกล่าวทั้งหมดนี้คือขนบในการสร้างรูปพระนางทาราที่ยังคงสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน