ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อชื่น วัดคูบัว ราชบุรี เจ้าของตำนานเหรียญฉายารถไฟชนไม่ตาย
หลวงพ่อชื่น วัดคูบัว หรือ อาจารย์ชื่น อดีตเจ้าอาวาสวัดคูบัว ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ท่านเป็นพระเกจิชื่อดังอีกรูปหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ตามประวัติที่พอสืบค้นได้นั้นมีเพียงว่า ท่านเกิดในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ เป็นชาวบ้านคูบัว เมื่อยังเล็กท่านเป็นเด็กที่เฉลี่ยวฉลาด ชอบการผจญภัยและรักการเรียนเขียนอ่าน
ท่านได้เรียนหนังสือสมัยที่วัดคูบัว ตามสมัยนิยมจนสามารถอ่านออกเขียนได้ จนเมื่อหลวงพ่อมีอายุครบ ๒๑ ปี จึงได้เข้ารับการเกณท์ทหาร
จนเมื่อปลดประจำการ ท่านจึงได้เข้ารับการอุปสมบทตามคติโบราณ เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ซึ่ง ขณะนั้นหลวงพ่อชื่นมีอายุได้ ๒๖ ปี ณ พัทธสีมาวัดคูบัว ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ได้รับฉายาว่า "ธัมมโชโต" โดยมี
เจ้าอธิการวัดคูบัว เป็นพระอุปัชฌาย์
หลังจากอุปสมบท ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดคูบัวเรื่อยมา เพื่อศึกษาวิชาต่างๆ นอกจากนี้ท่านยังนิยมการธุดงค์วัตรไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อร่ำเรียนวิชาและฝึกฝนตนเอง ตามแบบสมัยนิยมในสมัย
หลวงพ่อชื่น นอกจากท่านจะเก่งเรื่องวิชาอาคมแล้ว ท่านยังมีชื่อเสียงด้านยาสมุนไพรอีกด้วย เล่ากันว่าท่านได้ฉันสมุนไพรพญารากดำ เพราะเมื่อท่านมรณภาพลงแล้วกระดูกของท่านเป็นสีดำสนิท
หลวงพ่อชื่นอยู่จำพรรษาที่วัดคูบัวเรื่อยมา จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๗ พระอธิการไฝ อินทโชโต เจ้าอาวาสวัดคูบัวในสมัยนั้นได้มรณภาพลง ชาวบ้านและศิษยานุศิษย์จึงได้นิมนต์หลวงพ่อชื่น ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดสืบแทน
วัดคูบัว เป็นวัดเก่าที่ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่โบราณสถานคูบัว ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่ในสมัยทวารวดี ชาวบ้านส่วนใหญ่มีเชื่อสายไทยวน ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยสงครามไทย-พม่า ในรัชกาลที่ ๑
มีเรื่องเล่ากันว่า ครูจัน ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่ ครูจันเดิมทีท่านเป็นชาวตำบลคูบัวโดยเป็นท่านดำรงค์ตำแหน่งครูสอนอยู่ที่โรงเรียนวัดคูบัว ซึ่งครูจันเล่าว่า ท่านได้รับคำชักชวนจากญาติใน กรุงเทพฯ ให้ไปช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านที่กรุงเทพฯ
ขณะเดินทางกลับด้วยรถกะบะพร้อมคนที่โดยสารมาด้วยกัน รวมทั้งหมด ๔ คน ครูจันท่านได้เล่าว่าได้นั่งด้านหลังคนขับ
เมื่อขับมาได้สักพักจนถึงทางรถไฟรถกะบะคันที่นั่งมาก็ได้ขับเพื่อที่จะข้ามทางรถไฟตามปกติ แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบ รถที่ตามหลังผู้คนใกล้เคียงกลับบีบแตส่งสัญญาณบ้างร้องตะโกนบอกให้รถกะบะที่โดยสารมาได้ระวังก็ตาม
จะด้วยถึงคราวเคราะห์กรรมหรือสิ่งใดดลให้บังตา คนในรถกลับไม่รับรู้และยังคงขับเพื่อที่จะข้ามผ่านทางรถไฟต่อไป ครูจันบอกว่า ขณะที่ตัวรถได้แล่นผ่านจนค่อมกับรางรถไฟนั้น ทันใดกลับต้องตื่นตกใจ เพราะรถไฟได้วิ่งเข้ามาใกล้กับรถของตัวเองเสียแล้ว
ด้วยความตกใจท่านจึงได้กำไปที่กระเป๋าเสื้อของตัวเอง โดยครูจันท่านได้พกเหรียญ ท่านอาจารย์ชื่นไว้ในกระเป๋า จำนวน ๒ เหรียญ มีเหรียญอัลปาก้า ๑ เหรียญ เหรียญ ทองแดง ๑ เหรียญ พร้อมกับพูดออกมาว่า "หลวงพ่อช่วยด้วย" จากนั้นเพียงช่วงเสี้ยวเวลารถไฟชนเข้ากับรถกะบะด้านที่ครูจันนั่งอย่างเต็มๆแรง
จะด้วยพุทธคุณวิเศษหรือไม่? ครูจันเล่าว่าท่านกระเด็นออกมาจากตัวรถอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับว่ามีคนมาอุ้มออกมา จากสิ่งที่เกิดควรจะเจ็บหนักหรือถึงแก่ชีวิต กลับมีแค่เพียงรอยแผลขูดขีดเพียงเล็กน้อย ซึ่งตรงข้ามกับผู้ที่โดยสารร่วมคันกันมาซึ่งเสียชีวิตหมดทั้ง ๓ คน
เหตุนี้จึงเป็นสิ่งที่สร้างความอัศจรรย์แก่คนที่พบเห็นร่วมถึงศิษย์ยานุศิษย์หรือแม้แต่กระทั้งผู้หลงใหลในคุณพระทำให้เหรียญของท่านโด่งดังเป็นที่แสวงหาเป็นอย่างยิ่ง.
หลวงพ่อชื่น ปกครองวัดเรื่อยมาจนมรณภาพใน ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ นับรวมสิริอายุได้ ๗๑ ปี ๔๕ พรรษา.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อชื่น วัดคูบัว
เหรียญหลวงพ่อชื่น วัดคูบัว รุ่นแรกนิยม (ไม่มี พ.ศ.)
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัดเพื่อสร้างเสนาสนะต่างๆภายในวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงเสมาแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างประมาณ ๕๐๐ เหรียญ