มีตำนานเล่าว่า จตุคามรามเทพ คือเทวดารักษาเมือง หรือเทพประจำหลักเมืองนครศรีธรรมราช เดิมคือ พระเจ้าจันทรภาณุ ผู้สร้างเมืองศรีธรรมโศก (นครศรีธรรมราช) อันเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัย
อีกตำนานหนึ่ง เชื่อกันว่า ‘จตุคามรามเทพ’ ทรงเป็นพระโอรสของนาง พญาจันทราหรือนางพญาพื้นเมืองทะเลใต้ ทรงเป็นราชินีของพระเจ้าราตะ หรือ พระสุริยะเทพ ผู้ทรงรวบรวมดินแดนคาบสมุทรทองคำเป็นจักรวรรดิเดียวกันในพุทธศตวรรษที่ ๗ และทรงเป็นพระราชมารดาของเจ้าชายรามเทพ พระนางจันทราทรงบรรลุธรรม ทรงอิทธิฤทธิ์ขนาดบังคับคลื่นลมร้ายให้สงบลงได้ ดังนั้น ชาวทะเลจึงกราบไหว้ท่านก่อนออกสู่กลางทะเล เรียกกันอีกชื่อว่า ‘แม่ย่านาง’ ของชาวศรีวิชัย หรือ เจ้าแม่อยู่หัว
เจ้าชายรามเทพทรงศึกษาวิชาจตุคามศาสตร์จากพระมารดาจนเชี่ยวชาญ ทรงศึกษาพุทธธรรมในลัทธิมหายาน ทรงมีความเชื่อเรื่องการบำเพ็ญบารมี เป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อการตรัสรู้ธรรมในภายภาคหน้า ทรงตั้งปณิธานแน่วแน่ในการประกาศพระศาสนาให้มั่นคงทั่วแว่นแคว้น ทรงได้รับการถวายพระนามว่า องค์ราชันจตุคามรามเทพ ต่อมาทรงเจริญอิทธิฤทธิ์สูงส่ง ทรงศักดานุภาพยิ่งใหญ่ แม้กล่าววาจาสาปแช่งผู้ใด ผู้นั้นย่อมมีอันเป็นไป จนได้ถวายพระนามอีกสองพระนาม คือ จันทรภานุ และ พญาพังพกาฬ
ตำนานเรื่อง พญาพังพกาฬ หรือ พังพะกาฬ ที่เล่าขานกันในเมืองนครศรีธรรมราช ก็ไม่ตรงกัน บ้างว่าเป็นลูกชาวนา ต่อมากลายเป็นนักรบผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ บ้างก็ว่าเป็นพระชาติก่อนขององค์จตุคามรามเทพ
พญาโหราบรมครูของช่างชาวชวากะ จำลองรูปมหาบุรุษเป็นอนุสรณ์ตามอุดมคติศิลปะแบบศรีวิชัย เรียกว่า ร่างแปลงธรรม รูปสมมติแห่งเทวราช ที่มีตัวตนอยู่จริงในโลกมนุษย์ ทรงเครื่องราชขัตติยาภรณ์ ๔ กร ๔ เศียร พร้อมด้วยเทพศาสตราวุธ เพื่อปกป้องอาณาจักรและพุทธจักร เพื่อเป็นคติธรรม ประดิษฐานในทุกหนแห่งในอาณาจักรทะเลใต้