นางกวัก
นางกวัก เป็นเทพีแห่งโชคลาภตามคติไทย ถือเป็นของขลังชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นรูปศักดิ์สิทธิ์ทำเป็นรูปหญิงสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับอย่างธรรมเนียมไทย นั่งพับเพียบ มือซ้ายวางลงแตะข้างลำตัวหรือวางบนตัก ส่วนมือขวายกขึ้นระดับไหล่ทำท่ากวักมือหรือเรียกเข้ามาหา เชื่อว่าเทพีองค์นี้จะกวักมือเรียกทรัพย์ เป็นที่นับถืออย่างยิ่งในหมู่พ่อค้าแม่ขายชาวไทยเพราะถือว่าเทพีองค์นี้จะเรียกลูกค้าเข้ามาอุดหนุนสินค้าในร้าน
ประวัติ
คติการนับถือนางกวักแต่ดั้งเดิม คือนับถือเป็นผีบรรพชนนางหนึ่งของกลุ่มชนที่ใช้ภาษาไท โดยเป็นสตรีไทคนแรก ๆ ที่มีความสามารถเกี่ยวกับการทอผ้า จนกลายเป็นสินค้าที่สามารถแลกเปลี่ยนกับสินค้าชนิดอื่น ๆ เพื่อการยังชีพหรือสร้างรายได้ โดยคติความเชื่อนางกวักแบบเดิมนี้ยังตกทอดในกลุ่มชาวไทต่าง ๆ เช่น ชาวไทพวนในจังหวัดลพบุรีและสุโขทัย ยังมีการละเล่น เรียกว่า นางกวัก โดยมีอุปกรณ์สำคัญในกิจกรรมคือ "กวัก" (อุปกรณ์ที่ใช้ปั่นด้าย) เพื่อเชิญผีบรรพชนมาลงคนทรง เพื่อเยี่ยมยามลูกหลานและทำนายทายทัก นอกจากนี้ยังพบกิจกรรมเช่นเดียวกันนี้ในชุมชนลาวครั่งบางแห่ง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย[4] ส่วนนางกวักในสังคมชาวไทยในภาคกลางได้ตกทอดคติการนับถือผีผู้หญิงของคนไทย ซึ่งนับถือเพศหญิงเป็นใหญ่ ดังเช่นคติการนับถือแม่โพสพ ความเชื่อเรื่องนางกวักได้พัฒนาเปลี่ยนสภาพจากผีไปเป็นเทพที่คอยกวักเงินกวักทองมาให้ ปรากฏการหล่อปั้นนางกวักครั้งแรกราวยุคกรุงศรีอยุธยา โดยมากพบเป็นขนาดบูชา สร้างจากเนื้อโลหะ, ดินเผา หรือสลักจากไม้ต่อมาในยุครัตนโกสินทร์คติการนับถือนางกวักปรากฏชัดเจนขึ้นในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่สยามมีเศรษฐกิจเฟื่องฟู มีการขยายตัวของกิจการร้านรวงในกรุงเทพมหานครและตามหัวเมืองใหญ่ ๆ นอกจากนี้ในประเทศญี่ปุ่นยังมีการนับถือแมวกวักหรือมาเนกิเนโกะ โดยแมวกวักเกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2395 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเฟื่องฟู
หลวงพ่อจง พุทฺธสโร
หลวงพ่อจง พุทฺธสโร หรือพระอธิการจง พุทฺธสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดหน้าต่างนอก (6 มีนาคม พ.ศ. 2415 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508)
หลวงพ่อจงเป็นพระเกจิชื่อดังของเมืองกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและพุทธบริษัททั้งหลาย โดยมิได้เลือกชนชั้นวรรณะ ด้วยจิตที่มีเมตตา เหล่าลูกศิษย์และผู้เคารพศรัทธายังคงรำลึกถึงท่านเสมอมา และท่านยังเป็นพระสหธรรมมิกกับหลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน และพระเกจิอีกหลายรูป
หลวงพ่อจงเป็นพระเกจิที่ได้รับนิมนต์ในการเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ใหญ่แทบทุกครั้ง อาทิ พิธีวัดราชบพิตร พ.ศ.2481 , พิธีเจริญพระพุทธมนต์พระเครื่องฉลอง25พุทธศตวรรษ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร พ.ศ.2500 , พิธีเจริญพระพุทธมนต์วัดประสาทบุญญาวาส พ.ศ.2506 เป็นต้น
หลวงพ่อจงท่านได้รับขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน4พระเกจิที่มีลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธามากชื่อเสียงได้รับการเลื่องลืออย่างสูงในยุคสงครามอินโดจีน ได้แก่ หลวงพ่อจาด หลวงพ่อจง หลวงพ่อคง และหลวงพ่ออี๋ นิยมเรียกผูกติดกัน “จาด–จง–คง–อี๋”
ประวัติ
ท่านเกิดเมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ. 2415 ตรงกับต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บิดาชื่อ ยอด มารดาชื่อ ขริบ เป็นชาวอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่ออายุ 11 ปี บิดาได้จัดการบรรพชาเป็นสามเณรให้ที่ วัดหน้าต่างในครั้นอายุครบ 21 ปี ได้ทำการอุปสมบท โดยมีหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อินทร์ วัดหน้าต่างนอก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์โพธิ์ วัดหน้าต่างใน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พุทฺธสโรอุปสมบทแล้วอยู่จำพรรษาที่วัดหน้าต่างใน เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนวิทยาคมต่าง ๆ กับหลวงพ่อสุ่นและพระอาจารย์โพธิ์ ซึ่งในสมัยนั้น พระภิกษุสองรูปนี้มีชื่อเสียงเป็นที่นับถือกันอย่างกว้างขวาง ต่อมาอีกระยะหนึ่งท่านจึงย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดหน้าต่างนอก ในปี พ.ศ. 2450 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหน้าต่างนอก ท่านถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สิริอายุได้ 92 ปี บวชพระมาได้ 71 พรรษา ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหน้าต่างนอกได้นานถึง 58 ปี
ข้อมูล วิกิพีเดีย