เหรียญ(หยดน้ำเล็ก) หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร สำนักสงฆ์สวนหินผานางคอย อุบลราชธานี เนื้อทองแดง หลังยันต์

เหรียญ(หยดน้ำเล็ก) หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร สำนักสงฆ์สวนหินผานางคอย อุบลราชธานี เนื้อทองแดง หลังยันต์
เหรียญ(หยดน้ำเล็ก) หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร สำนักสงฆ์สวนหินผานางคอย อุบลราชธานี เนื้อทองแดง หลังยันต์เหรียญ(หยดน้ำเล็ก) หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร สำนักสงฆ์สวนหินผานางคอย อุบลราชธานี เนื้อทองแดง หลังยันต์
รหัสสินค้า TSHPNCRE02
หมวดหมู่ 61. พระเครื่อง จังหวัด อุบลราชธานี
ราคา 350.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 31 ม.ค. 2567
อัพเดทล่าสุด 31 ม.ค. 2567
จำนวน
เหรียญ
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร
วัดสวนหินผานางคอย
อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี
◎ ชาติภูมิ
หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร หรือ สําเร็จแก้ว เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๔ ปี ฉลู ที่บ้านกุศกร อําเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี มีพี่น้องรวมท้อง ๔ คน หญิง ๒ คน ชาย ๒ คน สําเร็จแก้ว (หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร) เป็นลูกชายคนสุดท้อง บิดาชื่อ นายแก้ว หรือ จานแก้ว มารดาชื่อ นางสีดา นามสกุล อ่อนจันทึก

◎ ปฐมวัย
บิดามารดามีฐานะยากจน หาปลาหอยปูมาเลี้ยงครอบครัว สมัยนั้นการเดินทางไม่มีพาหนะการไปมาเดินด้วยความยากลําบากเดินทางด้วยเท้าเปล่า รองเท้าไม่มีใส่ ต่อมาชะตาของหลวงปู่พรหมมา ก็มาถึงมารดาได้มาตายจากตั้งแต่ยังเล็ก อายุได้ ๘ ขวบ ต่อมาจากนั้นบิดาก็มารับภาระแต่ผู้เดียวต้องหาเลี้ยงลูก ทั้ง ๔ คน ตั้งแต่เด็ก สําเร็จแก้ว (หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร) ไม่เคยมีความสุขกับเขาเลย ต้องรับจ้างขึ้นต้นหมากหาเงินช่วยพ่อเลี้ยงพี่น้อง

◎ บรรพชา อุปสมบท
พออายุย่างเข้า ๑๑ ขวบ โยมพ่อแก้ว หรือ จานแก้ว ได้พาไปบวชเณร ที่เมืองจําปาศักดิ์ ชื่อว่า เณรแก้ว อยู่เมืองจําปาศักดิ์ จนครบอายุได้ ๒๐ ปี ก็ได้บวชเป็นพระ ต่อมาอยู่ที่เมืองท่าอุเทนได้ ๔ ปี ก็ออกเดินทางไปอยู่กับพระฤษี ที่ภูเขาควายประเทศลาว ที่นั้นมีแต่ภูเขาและสัตว์ร้ายมากมายหลายชนิด ระยะทางที่หลวงปู่พรหมมา เดินทางเป็นระยะทางไกลมากเดินด้วยเท้าเปล่า

พออายุ ๔๐ หลวงปู่พรหมมา ก็ออกเดินธุดงค์ ค่ำไหนก็ปัดกวาดพักที่นั่น เดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ท่านจะฉันข้าววันละครั้ง บางครั้ง ๗-๘ วัน ถึงจะได้ฉันหนึ่งครั้ง การเดินทางของหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ท่านไม่เคยกลัวอะไรเลย เพราะท่านสละชีวิตเจริญรอยตามพระพุทธโคดม หลวงปู่พรหมมาธุดงค์ไปเรื่อยๆ ที่ภูเขาควายประเทศลาว เณรแก้ว มีสหายธรรมชื่อ เณรคำ เณรคําเป็นเณรที่ซุกซนมาก ปู่ฤาษีท่านจึงจะ ไม่ค่อยให้เณรคําเดินทางไปไหนมาไหนมากนัก เณรคําบางครั้งท่านจะปรากฏกายเป็นคนแก่ บางครั้งเป็นเด็ก สิ่งที่เณรคําเปลี่ยนแปลงไม่ได้คือ มีแผลเป็นที่คิ้วซ้ายตลอดไม่ว่าจะเป็นร่างคนแก่ เด็ก หรืออะไรก็ตาม

พออายุได้ ๔๕ ปี หลวงปู่พรหมมา ได้มาขอกราบลากับพระฤาษี ที่ภูเขาควายจะออกเดินทางธุดงค์ไปที่ทิเบต อยู่ทิเบต ๓ ปี ก็ออกเดินทางไปอยู่ เมืองย่างกุ้งประเทศพม่า แล้วธุดงค์กลับมาอยู่เขมรได้ ๓ ปี ก็กลับมาหาพระฤๅษีที่ภูเขาควายอีกครั้ง ต่อมาก็ออกเดินทางไปเมืองฮานอย แล้วเดินทางต่อไปอยู่ที่เขมรต่ำ กัมพูชา สมัยนั้นเกิดสงครามพอดี มีทั้งเสียงปืนเสียงระเบิด และสัตว์ร้ายต่างๆ นานาชนิด หลวงปู่พรหมมาไม่เคยหวั่นกลัวเลย

ต่อจากนั้นก็เดินทางมาที่มาเลเซีย แล้วกลับไปประเทศลาวอีกครั้ง หลวงปู่พรหมมาท่านได้สร้างวัดที่ประเทศลาว ขณะอยู่ที่วัดนี้ หลวงปู่พรหมมาได้ตัดเหล็กไหลที่ถ้ำแห่งหนึ่งโดยใช้ศรอีตู๋ ได้เหล็กไหล ๒ ชิ้น ชิ้นหนึ่งให้ฝรั่ง ชิ้นหนึ่งหลวงปู่ฝังไว้ที่แขนของท่าน และอีกต่อมาท่านได้เหล็กไหลเพิ่มมาอีก ๒ ชิ้น

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เกิดสงครารลาว-เวียตนาม ขณะนั้นหลวงปู่ได้ผูกผ้าสบงไว้เพื่อทําเป็นร่มกันแดด ได้มีลูกระเบิดตกลงมาบนผ้า ระเบิดนั้นได้หมุนวนอยู่บนผ้าสบงของหลวงปู่โดยที่ไม่ระเบิด

ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ประเทศลาวได้เปลี่ยนแปลงการปกครอง มีสงครามสู้รบกันหนักมาก หลวงปู่พรหมมาท่านได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย ในระหว่างการเดิน ทาง เครื่องบินทิ้งระเบิดและมีเสียงปืนตลอดทาง

หลวงปู่พรหมมา ได้แจกผ้าสบง และ ผ้าจีวรให้กับศิษย์ที่ติดตามเดินคุมหัวทุกคน ในระหว่างทางมีทหารญวนยิงปืนเอ็ม ๑๖ และอาก้าใส่หลวงปู่และลูกศิษย์ หลวงปู่พรหมมาท่านเดินทางมาถึงฝั่งริมแม่น้ำโขง ยังไม่รู้ว่าจะไปจําวัดที่ไหนได้เข้าไป พักในถ้ำแห่งหนึ่ง ได้นั่งสมาธิเห็นตาแสง ซึ่งขณะนั้นตาแสงเป็นฆราวาสนุ่งขาวห่มขาว ตาแสงได้ทําตามคําสั่งของ พระครูวิโรจน์รัตโนบล (หลวงปู่รอด) วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลฯ ตั้งแต่ตาแสงบวชอยู่กับพระวิโรจน์ จนสําเร็จวิชา

พระครูวิโรจน์รัตโนบล กล่าวกับตาแสงว่าถ้าอยากได้วิชามากกว่านี้ให้ตามหาเณรแก้ว หรือ สําเร็จแก้ว จนกระทั่งตาแสงได้มาเจอ สําเร็จแก้ว ที่ริมแม่น้ำโขง ตาแสงนิมนต์ สําเร็จแก้ว มาจําพรรษาที่วัดบุปผาวัน อําเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี สําเร็จแก้ว (หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร)ได้มอบตะกรุดโทนยาวประมาณ ๑ ฟุต ซึ่งสําเร็จแก้วได้นํามาจากประเทศลาวด้วย อยู่จําพรรษาที่วัดบุปผาวัน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้สร้างเหรียญขึ้นเป็นครั้งแรก หลวงปู่พรหมมา ทํานพักอยู่ที่ใดได้ไม่นาน เมื่อออกจากวัดบุปผาวัน เดินทางมาอยู่ที่ปากห้วยไร่ จากปากห้วยไร่ใต้เดินทางไปจําพรรษา ที่ถ้ำไป่งช้างอยู่ที่เวินเพาะ

ขณะอยู่ที่เวินเพาะ ได้สร้างตะกรุดโทนและตะกรุดร้อยแปด ปลัดขิก สร้างจากไม้ตาลปัตร และไม้มงคลต่างๆ ทําสีผึ้ง ทําน้ำมันมนต์จากน้ำมัน มะพร้าวใช้รักษานเผลประสานกระดูก

ต่อมาท่านออกจากเวินเพาะมาอยู่ที่ อ.ปากชม จ.เลย ได้สร้างวัดชื่อ วัดแสงพรหมธรรมาวาส ท่านให้เอาชื่อ ตาแสง ขึ้นก่อน เพราะช่วยกัน สร้างวัดกับตาแสง หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ได้แลกเปลี่ยนวิชากับตาแสง เกี่ยวกับวิชาหัวใจ ๔,๐๐๐ ห้อง ขณะอยู่ที่วัดแสงพรหมธรรมวาส หลวงปู่พรหมมาท่านเป็นพระนักพัฒนา ท่านหวงแหนป่าไม้ยิ่งนัก ท่านได้ไปขัดขวางพวกตัดไม้ทําลายป่า อยู่มาคืนหนึ่ง ขณะอยู่ในถ้ำหลวงปู่พรหมมา ตาแสง และเณรอีกสององค์ ถูกกลุ่มทําลายป่าลอบยิงในถ้ำ ต่อมาตาแสงได้นิมนต์ หลวงปู่มาอยู่ที่บ้านดงนา ใต้ตั้งสํานักสงฆ์ชื่อ สํานักสงฆ์ถ้ำสวนหินผานางคอย

ทําไม ? หลวงปู่พรหมมาจึงมาอยู่ที่ผานางคอย เพราะอดีตชาติหลวงปู่ท่านเป็นทหารไปรบที่โคราช แม่ผานางคอยลูกเจ้าจากฝั่งลาวซึ่งเป็นคู่รักของท่านได้มาคอยคนรักที่ผานางคอย รอเท่าไรก็ไม่เห็นคนรักกลับมาก็เลยกระโดดผานางคอยตาย จึงเป็นที่มาของผานางคอย

ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ สมเด็จพระเทพฯ ท่านเสด็จมาบ้านดงนา หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ได้ถวายวัตถุมงคลให้แก่สมเด็จพระเทพฯ
ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ สร้างศาลาการเปรียญ
ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ สร้างพระอุโบสถ
ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ สร้างหอระฆัง ศาลาอเนกประสงค์

เมื่ออยู่ที่บ้านดงนาปีแรก หรือสํานักสงฆ์ถ้ำผานางคอย เนื่องจาก หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ท่านเป็นผู้ที่รอบรู้เรื่องสมุนไพร มีคนไข้มารักษาด้วยมากมาย แต่ละคนที่มารักษาหลวงปู่นั้นแต่อาการที่หมอไม่รักษาแล้วทั้งนั้น หลวงปู่ช่วยสงเคราะห์ด้วยความเมตตา หลวงปู่อยากได้สมุนไพรมารักษาคนไข้ได้ให้ นายสุนา และลูกศิษย์ พาหลวงปู่ข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่งลาว พอเดินทางไปไกลได้พอสมควร ขณะนั้นเป็นเวลาช่วงเช้า หลวงปู่ได้สั่งให้ทุกคนหยุดพัก หลวงปู่พรหมมา เขมจาโรได้ถอดผ้าจีวร และอังสะ แขวนไว้กับกิ่งไม้ ภายในอังสะหลวงปู่ท่านจะทํากระเป๋าเล็กๆ ไว้ประมาณ ๒๐ กระเป๋า ภายในแต่ละกระเป๋ามีพระต่างๆ มีเนื้อทองคํา เนื้อนาก และเนื้อทองดอกบวบ พระแต่ละองค์หลวงปู่ได้จากในถ้ำตอนเดินธุดงค์ แล้วแขวนถุงย่ามไว้กับจีวร ในย่ามมีศรอีตู๋ ที่หลวงปู่มีไว้สําหรับตัดเหล็กไหล ในขณะที่หลวงปู่กําลังพักผ่อนอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงดังแซะๆ ดังอยู่หลายครั้ง แล้วสักพักหลวงปู่มองไปเห็น เบ หรือ ระเบิด อาร์พีจี ตกลงมา ๒-๓ ลูก ใกล้กับหลวงปู่พักอยู่ เมื่อลาวแดงเห็นว่ายิงปืนใส่หลวงปู่ไม่ออก ระเบิดก็ไม่ระเบิด ลาวแดงก็ได้ยิงปืนใส่บนกิ่งไม้ที่หลวงปู่อยู่เพื่อจะให้กิ่งไม้ตกลงมาใส่หลวงปู่ ขณะกําลังชุมนุมอยู่นั้น นายสุนากลัวหลวงปู่จะได้รับอันตราย จึงได้หยิบปืนเอ็ม ๑๖ คู่กายออกมาเพื่อยิงเปิดทางพาหลวงปู่ออกมา ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีพระที่ติดตามหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ไปด้วยหนึ่งรูป ถูกยิงมรณภาพ ในขณะที่พระรูปนั้นกําลังนั่งฉันตัวนิ่มนั่งอยู่ห่างจากหลวงปู่ ประมาณ ๑๐๐ เมตร

ขณะที่นายสุนา พาหลวงปู่ฝ่าวงล้อมออกมานั้น หลวงปู่ไม่สามารถเข้าไปเอาอังสะ จีวร และถุงย่ามได้ ต่อมาลาวแดงพวกนั้นก็ได้ติดต่อมาทาง ลูกศิษย์ถ้าอยากได้ของทุกอย่างคืน ให้นําเงินไปไถ่ ๑๐,๐๐๐ บาท หลวงปู่บอกว่าไม่เอาคืน เพราะหลวงปู่เป็นพระกรรมฐานไม่ได้ยึดติดกับวัตถุ การตัดเหล็กไหลไม่มีศรอีตู๋ก็ตัดได้ เพราะเหล็กไหลใช้คาถาตัดก็ได้

◎ อาพาธ มรณภาพ
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๘ เมื่อหลวงปู่สร้างโบสถ์เสร็จ หลวงปู่เริ่มป่วยอยู่มาวันหนึ่งหลวงปู่ไม่สบายมากลูกศิษย์พานั่งรถมาถึงแถว อําเภอศรีเมืองใหม่ หลวงปู่ก็ได้หมดลมหายใจกลางทาง หมอได้ให้เครื่องช่วยหายใจทําให้ หลวงปู่ฟื้นมาอีกครั้ง ศิษย์จึงนําหลวงปู่มารักษาที่โรงพยาบาลในตัวเมืองอุบลราชธานี โดยนําหลวงปู่เจ้าห้อง ไอ ซี ยู รุ่งเช้าหลวงปู่อาการดีขึ้น ท่าน เรียกศิษย์เข้าไปหาบอกว่า พ่อเกือบไปแล้วนะลูก พ่อขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ เป็นพระเกจิอาจารย์หลายองค์ หลวงปู่บอกกับศิษย์ ว่าถ้าพ่อเป็นอะไรไป ให้เก็บไว้ในโลงแก้ว ยาไม่ต้องฉีด นานไปร่างพ่อจะแห้งไปเอง หลวงปู่หมดติหมดลมหายใจไป เป็นแบบนี้อยู่สองครั้งด้วยกัน ก่อนละสังขารหลวงปู่ไปจำพรรษาที่วัดธาตุวราราม บ้านผือ ตําบลผาบิ้ง จังหวัดเลย ขณะที่หลวงปู่จํา พรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ หลวงปู่ได้เข้ารักษาตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ จากนั้นก็กลับมาที่วัดจังหวัดเลย หลวงปู่นอนพักผ่อนให้ศิษย์นวดตัวอยู่ ท่านได้บอกกับศิษย์ว่า.. “พ่อจะไปแล้วนะลูก” แล้วหลวงพ่อก็หมดลมหายใจไป ในขณะที่ลูกศิษย์ยังนวดตัวอยู่เมื่อเวลา ๒๒ น. ๑๑ นาที ๓๑ วินาที ของวัน ที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๕ รวมสิริอายุ ๑๐๑ ปี

เมื่อเห็นว่าหลวงปู่หมดลมหายใจแล้วทางวัดก็ให้คนขับรถชื่อ นายโกศล ขับรถนําร่างของหลวงปู่ขึ้นนั่งในรถสปอร์ตไรเดอร์ กลับผานางคอย มาถึงวัดเสวนหินผานางคอย ประมาณตีสาม

เมื่อเวลาประมาณ ๙ โมงเช้า ของวันรุ่งขึ้นบรรดาศิษยานุศิษย์ ได้จัดเตรียมสถานที่ให้กับสาธุชนได้กราบเคารพศพ หลังจาก หลวงปู่พรหมมา มรณภาพแล้วศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ได้ทำผ้าป่าและกฐิน เพื่อนําปัจจัยมา ถวายวัด เพื่อสร้างเจดีย์บรรจุสังขารหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ให้สาธุชนทุกท่านได้ขึ้นมากราบไหว้หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร หรือ สําเร็จแก้ว

ด้านการพัฒนาหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ท่านเป็นพระนักพัฒนาตั้งแต่หลวงปู่มาอยู่ที่ถ้ำผานางคอย ทําให้ชาวบ้านดงนาและ บ้านโหง่นขามมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

◎ การสร้างวัดวัดสวนหินผานางคอย
หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ท่านสร้างวัดแห่งนี้ด้วยความยากลําบาก เริ่มสร้างวัดสวนหินผานางคอย เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ หลวงปู่อยู่ในถ้ำยังไม่เป็นที่รู้จักของชาวบ้าน ศิษย์ที่อยู่ด้วย จะออกไปหาเห็ดหน่อไม้และของป่ามาทําอาหารถวายท่าน การปฏิบัติหลวงปู่เป็นพระกรรมฐาน ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามรอยพระพุทธโคดม หลวงปู่ปฏิบัติต่างจากพระสงฆ์ทั่วไปคือ หลวงปู่จะเข้าพรรษาปีละ ๖ เดือน เข้าพรรษาประมาณ ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ออกพรรษา ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ซึ่งเป็นวันเทศกาลลอยกระทง กลางวัน หลวงปู่จะต้อนรับลูกศิษย์ลูกหา ที่มากราบไหว้ แล้วเดินดูงานก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด กลางคืนหลวงปู่จะนั่งสมาธิจนถึงเวลาประมาณตีสี่ หลวงปู่ถึงจะจําวัด ตื่นประมาณ ๗ โมงเช้า หลวงปู่จะมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก
ข้อมูล 108prageji

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาปตท.ถนนกาญจนาภิเษก 2 ออมทรัพย์

JEWELRY-ANTIQUE-AMULET

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม4,446,214 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด3,382,512 ครั้ง
เปิดร้าน4 ก.พ. 2558
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

ติดต่อเรา

ติดตามสินค้า

พูดคุย-สอบถาม