พระธรรมโพธิมงคล นามเดิม สมควร อุบลไทร ฉายา ปิยสีโล เป็นเจ้าอาวาสวัดนิมมานรดี พระอารามหลวงกรุงเทพมหานคร เจ้าคณะภาค 2
ชาติภูมิ
พระพรหมวัชรจริยาจารย์ มีนามเดิมว่า สมควร นามสกุล อุบลไทร เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2492 ภูมิลำเนา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
อุปสมบท
อุปสมบท ณ วัดสโมสร อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2514 มีพระครูปัญญานนทคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระหวัง เขมิโน วัดเกษตราราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระบก อุสสาโห วัดสโมสร จังหวัดนนทบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า "ปิยสีโล"
การศึกษา/วิทยฐานะ
พ.ศ. ไม่ทราบ สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ สำนักเรียนคณะจังหวัดนครปฐม
พ.ศ. 2528 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักวัดสุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
ปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ. 2530 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนิมมานรดี
พ.ศ. 2531 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดนิมมานรดี
พ.ศ. 2545 เป็นเจ้าอาวาสวัดนิมมานรดี
พ.ศ. 2546 เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. 2549 เป็นรองเจ้าคณะภาค2
พ.ศ. 2556 เป็นเจ้าคณะภาค 14
พ.ศ. 2561 เป็นผู้รักษาการเจ้าคณะภาค 14
พ.ศ. 2564 เป็นเจ้าคณะภาค 2
พ.ศ. 2565 เป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
พ.ศ. 2567 เป็นเจ้าอาวาสวัดนิมมานรดี
สมณศักดิ์
พ.ศ. 2528 พระมหาเปรียญธรรม 9 ประโยค
พ.ศ. 2536 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีปริยัติเวที
9 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสุตาลังการ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพสุธี ศรีศาสนกิจดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
12 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมโพธิมงคล ปริยัติกิจโกศลรุจี ศรีศาสนกิจดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
22 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวัชรจริยาจารย์ สุพิธานสังฆกิจโกศล วิมลศีลาจารนิวิฐ วิษิษฏ์ปริยัติธรรมสุธี ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
วัดสร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น รัชกาลที่ 1 ประมาณปี พ.ศ. 2350 ในชื่อ วัดบางแค ยังมีหลักฐานปรากฏกล่าวถึงวัดนี้ในจดหมายเหตุ รัชกาลที่ 2 กล่าวถึงการแต่งตั้งพระคณาจารย์จำนวน 71 รูป หนึ่งในนั้นคือ พระอาจารย์เกษ วัดบางแค
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดครั้งใหญ่ โดยผู้ที่เป็นกำลังสำคัญสนับสนุนทุนทรัพย์ในการบูรณะก็คือ ขุนตาลวโนชากร (นิ่ม เสนะวัต) และภรรยาชื่อดี และได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดนิมมานรดี อันหมายถึง สวรรค์ชั้นที่ 5 วัดนิมมานรดีได้เปิดทำการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและบาลี แผนกธรรมได้เปิดทำการสอนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482 ได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมาใหม่ ได้รับพระราชทานครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และได้พระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถ ปี พ.ศ. 2528 ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ
อาคารเสนาสนะและปูชนียวัตถุ
หลวงพ่อเกศจำปาศรี
พระอุโบสถประดิษฐาน หลวงพ่อเกศจำปาศรี พระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างด้วยโลหะทองเหลืองผสมลงรักปิดทอง พระพุทธรูปองค์นี้มีประวัติ โดยเมื่อปี 2508 ได้เกิดเหตุการณ์โบสถ์พังทลายลงมา แต่ปรากฏว่าองค์หลวงพ่อไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ ภายในวัดยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ และพระสังกัจจายน์ อยู่บริเวณด้านตรงข้ามกับอุโบสถ
ข้อมูลวิกิพีเดีย