กริ่ง พระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี) วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร ปี 2536 หลัง 3 นะ เนื้อทองผสม ยาแดงขัดอยู่เต็ม

กริ่ง พระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี) วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร ปี 2536 หลัง 3 นะ เนื้อทองผสม ยาแดงขัดอยู่เต็ม
กริ่ง พระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี) วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร ปี 2536 หลัง 3 นะ เนื้อทองผสม ยาแดงขัดอยู่เต็มกริ่ง พระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี) วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร ปี 2536 หลัง 3 นะ เนื้อทองผสม ยาแดงขัดอยู่เต็มกริ่ง พระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี) วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร ปี 2536 หลัง 3 นะ เนื้อทองผสม ยาแดงขัดอยู่เต็ม
รหัสสินค้า GST3601
หมวดหมู่ พระเครื่อง จังหวัด กรุงเทพมหานคร
ราคา 950.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 17 ก.ค. 2566
อัพเดทล่าสุด 25 ส.ค. 2568
จำนวน
องค์
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
ประวัติ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ มีนามเดิมว่า วีระ รอดบำเรอ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเมีย จุลศักราช 1292 รัตนโกสินทรศก 148 ตรงกับวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2473 โยมบิดาชื่อ นายลี รอดบำเรอ โยมมารดาชื่อ นางมา รอดบำเรอ ภูมิลำเนาอยู่บ้านป่าฝ้าย หมู่ที่ 4 ตำบลเขาแร้ง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี

บรรพชา
ณ วัดเขาวังสะดึง ตำบลเขาแร้ง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เมื่ออายุ 16 ปี เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 7 ค่ำ เดือน 8 ปีระกา จุลศักราช 1307 โดยมีเจ้าอธิการวงศ์ ธมฺมปาโล วัดเกาะลอย เจ้าคณะคณะตำบลเกาะพลับพลา เขาแร้ง เป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชาแล้วสังกัดอยู่ที่วัดโสคาประดิษฐาราม (เขาแร้ง) ตำบลเข้าแร้ง อำเภอเมืองราชบุรี โดยมีพระอธิการนกเป็นอาจารย์ผู้ปกครองได้ศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรมชั้นตรี และสอบได้ในปีนั้น ในปี พ.ศ. 2487 ประมาณเดือนมีนาคม พระอธิการนก อาวาสวัดโสคาประดิษฐารามลาสิกขา พระครูวิสุทธิสมณวัตร (แย้ม กนตฺสิโล) เจ้าอาวาสวัดท้ายเมือง ซึ่งเป็นผู้ปกครองลงในสมัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมได้เจรจาขอสามเณรวีระต่อโยมบิดาเพื่อจะส่งให้ศึกษาเล่าเรียนที่กรุงเทพ โยมบิดาก็อนุญาตด้วยดี ท่านพระครูฯ จึงกำหนดวัน ส่งไปศึกษาเล่าเรียนย้ายสำนักสามเณรวีระพร้อมด้วยโยมบิดาได้เดินทางออกจากบ้านในวันพฤหัสบดี แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีวอก ตรงกับวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 พักแรมที่วัดท้ายเมืองหนึ่งคืน รุ่งขึ้นท่านพระครูวิสุทธิสมณวัตร พาเข้ากรุงเทพฯ โดยทางรถไฟ ขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟราชบุรีมาลงที่สถานีบางกอกน้อยแล้วลงเรือข้ามฟากขึ้นที่ท่าพระจันทร์นั่งรถรางสายรอบเมืองไปลงที่ประตูสำราญราษฏร์ประตูผี ท่านพระครูฯ ได้นำไปฝากไว้ที่วัดเทพธิดาราม อยู่ในปกครองของพระมหาพลอย ญาณสํวโร ปธ. 6 ในสมัยนั้น

อุปสมบท
ณ พัทธสีมาวัดเทพธิดาราม ตำบลสำราญราษฏร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เมื่ออายุ 20 ปี ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 โดยมีพระมงคลธรรมรังสี (ปาน อินฺทโชโต) เจ้าอาวาสวัดเทพธิดาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระราชธรรมเสนานี (ศุข สุภทฺโท ป.ธ. 4) วัดมหาธาตุวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระวิสุทธิโสภณ (ปลอด กมุทฺโท ป.ธ. 9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ สำร็จเป็นพระภิกษุด้วย ญัตติจตุตถกรรมวาจา เวลา 14.25 น. อยู่จำพรรษาที่วัดเทพธิดารามตลอดมา จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2507 จึงย้ายเข้ามาอยุ่วัดสุทัศนเทพวราราม

สมณศักดิ์
พ.ศ. 2508 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ที่ พระศรีวิสุทธิวงศ์,(สป.) นับเป็นองค์ที่ 2 แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม
พ.ศ. 2514 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชเมธี ศรีประสาธน์สุตาคม อุดมปฏิปกร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี นับเป็นองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2523 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพเวที ตรีปิฎกคุณ สุนทรธรรมภูษิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พ.ศ. 2530 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมปิฏก อดุลญาณนายก ดิลกศาสนกิจ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พ.ศ. 2535 ได้รับสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ที่ พระวิสุทธาธิบดี ศรีพิพัฒนาภรณ์ สุนทรศีลาจาร ธรรมโวทานธารี ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี (นับเป็นองค์ที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
พ.ศ. 2553 ได้รับสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ที่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณอดุลสุนทรนายก ปริยัติดิลกศีลาจารนิวิฐ พิพิธกิจจานุกิจวิธาน ศาสนภารประสิทธิ์ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี

มรณภาพ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ อาพาธจากอาการเส้นโลหิตในสมองแตกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพเป็นระยะ ต่อมามีโรคมะเร็งลำไส้และโรคไตแทรกซ้อน จนกระทั่งมรณภาพจากอาการติดเชื้อในกระแสโลหิตเมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลาประมาณ 9.00 น. ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ สิริอายุได้ 86 ปี 76 วัน

ในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในการพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี) การนี้ทรงพระกรุณาโปรดฯ พระราชทานเครื่องเกียรติยศประกอบศพตามสมณศักดิ์ ประกอบด้วย โกศไม้สิบสอง ฉัตรเครื่องสูง ทองแผ่ลวด และทรงรับศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์เป็นเวลา 7 วัน 50 วัน และ 100 วันตามลำดับ

ในวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส

วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร
ในต้นยุคกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1โปรดเกล้าฯ ให้มีการสร้างวัดขึ้นในพื้นที่พระนครชั้นใน ในปี พ.ศ. 2350 เดิมพระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” โดยมีพื้นที่ตั้งอยู่ในดงสะแก เป็นที่ลุ่มจึงโปรดเกล้าฯ ให้ถมที่และสร้างเป็นวัด และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย แต่สิ้นรัชกาลก่อนที่จะประดิษฐานเป็นสังฆาราม จึงเรียกกันว่า วัดพระโต, วัดพระใหญ่ หรือวัดเสาชิงช้าบ้าง จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อ และทรงจำหลักบานประตูพระวิหารด้วยพระองค์เอง แต่ก็สิ้นรัชกาลเสียก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ การก่อสร้างวัด มาเสร็จบริบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. 2390 และพระราชทานนามว่า "วัดสุทัศน์เทพวราราม" ปรากฏในจดหมายเหตุว่า "วัดสุทัศน์เทพธาราม" และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผูกนามพระประธานในพระวิหาร พระอุโบสถ และศาลาการเปรียญ ให้คล้องกันว่า "พระศรีศากยมุนี", "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" และ "พระพุทธเสรฏฐมุนี"

ต่อมาในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 กรมศิลปากรได้กำหนดเขตโบราณสถานของวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ให้มีพื้นที่โบราณสถานจำนวน 28 ไร่ 76 ตารางวา

ลำดับเจ้าอาวาส
1    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อู่)    2386 — 2401
2    พระพิมลธรรม (อ้น)    2401 — 2420
3    สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน)    2420 — 2443*
4    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว)    2443* — 2487
5    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โสม ฉนฺโน)    2489 — 2505
6    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ)    2506 — 2527
7    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี)    2527 — 2559
8    พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จิตฺตคุตฺโต)    2559 — ปัจจุบัน
ข้อมูลวิกิพีเดีย

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาปตท.ถนนกาญจนาภิเษก 2 ออมทรัพย์

JEWELRY-ANTIQUE-AMULET

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม4,446,214 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด3,382,512 ครั้ง
เปิดร้าน4 ก.พ. 2558
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

ติดต่อเรา

ติดตามสินค้า

พูดคุย-สอบถาม