ประวัติและปฏิปทา
พระครูประทีปโพธิคุณ
(หลวงปู่พรมมา ปัญญาทีโป)
ทายาทธรรม หลวงปู่ทองมา ถาวโร,หลวงปู่บุญมี ปสันนจิตโต
◎ ชาติกำเนิด ปฐมวัย
เกิดวันพฤหัสบดี ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2506 ปีเถาะ
เกิดในตระกูล “บัวคำโครต”
บิดา นายปา บัวคำโคตร
มารดา นางเหลา บัวคำโคตร
ณ บ้านเลขที่ 13 หมู่ 11 บ้านหนองพอก ตำบลสะอาด
อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด (ในขณะนั้น)
ปัจจุบันเป็นบ้านเลขที่ 82 หมู่ 5 บ้านหนองพอก
ตำบลหนองตาไก้ อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด
◎ การศึกษาเบื้องต้น
จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนหนองตาไก้
จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ที่โรงเรียนกุดลิง
จบชั้น ม.ศ.3 ที่โรงเรียนร่องคำ
จบชั้น ม.6 ที่ กศน.กาฬสินธุ์
◎ อุปสมบท
อุปสมบทเมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2529 (อายุ 23 ปี)
ณ วัดปฐมเเพงศรี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์
โดยมี พระครูสุนทรปริยัติ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระมหาจันทร์ดี กิตติโสภโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์ถวิล กตปุญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาทางธรรมว่า "ปัญญาทีโป" เเปลว่า "ผู้มีปัญญาดุจเเสงสว่างเเห่งดวงประทีป"
◎ การศึกษาทางพระปริยัติธรรม
นักธรรม ชั้นเอก สำนักเรียนวัดร่องคำ ในปี พ.ศ.2531
◎ การปกครองและสมณศักดิ์
ปี พ.ศ.2543 ได้รับการเเต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธาราม
ปี พ.ศ.2548 ได้รับการเเต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
ปี พ.ศ.2549 พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นโท ที่ พระครูประทีปโพธิคุณ
◎ประวัติการจำพรรษา และการศึกษาเล่าเรียนพระคาถาและสรรพวิชาต่างๆ
เมื่อท่านเข้ารับการอุปสมบทแล้ว ท่านก็เดินทางมาจำพรรษา ณ วัดร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ มาอยู่กับผู้เป็นดังพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เคารพนับถือมาตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาส นั้นคือพระครูกลมศีลวัตร์ (หลวงปู่บุญมี ปสันนจิตโต) อยู่จำพรรษา รับใช้หลวงปู่บุญมี ผู้เป็นพระอาจารย์ 7 พรรษา จึงได้กลับมาก่อตั้งวัดบ้านเกิดนั้นคือบ้านหนองพอก (วัดโพธาราม) ในปัจจุบัน
ในการศึกษาพระคาถาและสรรพวิชาต่างๆ ท่านได้ติดตามหลวงปู่บุญมีผู้เป็นพระอาจารย์ของท่านเข้าฝากกายถวายตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี ในยุคปัจฉิมวัย (หลวงปู่บุญมีท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทองมา) ท่านเล่าว่าไม่ได้ไปจำพรรษาที่วัดสว่างท่าสีเนื่องด้วยท่านเองก็ต้องดูแลหลวงปู่บุญมีผู้เป็นพระอาจารย์ แต่ไปๆมาๆอยู่ตลอดหลายปีเพื่อไปร่ำเรียนสรรพวิชาต่างๆจนท่านได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จารตะกรุดโทนและตะกรุดต่างๆในยุคปัจฉิมวัยของหลวงปู่ทองมา ถาวโร เมื่อหมดยุคของหลวงปู่ทองมา ถาวโร แล้วศรัทธาสาธุชนสายธรรมหลวงปู่ทองมาก็หลั่งไหลมาพึ่งใบบุญหลวงปู่บุญมี เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าหลวงปู่บุญมีท่านได้รับยกย่องว่าเป็นลูกศิษย์เอกหลวงปู่ทองมา ถาวโร
ในสมัยยุคทองของหลวงปู่บุญมี ท่านเป็นมือขวาเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดรับศรัทธาสาธุชนช่วยแบ่งเบาภาระหลวงปู่บุญมีผู้เป็นพระอาจารย์ ท่านได้สรรพวิชาทุกอย่างทั้งของหลวงปู่ทองมาและหลวงปู่บุญมี ที่ได้จากหลวงปู่ทองมาไม่หมดท่านก็มาเรียนเอาเพิ่มเติมจากหลวงปู่บุญมี หลวงปู่บุญมีท่านบอกสอนและยังมอบตำราต่างๆให้ท่านศึกษาเอาจนหมด ท่านถวายงานหลวงปู่บุญมีทุกอย่างด้วยดี ท่านเองยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลการสร้างวัตถุมงคลทั้งหมดของหลวงปู่บุญมีในสมัยนั้น และก็ได้รับมอบหมายหลักที่สำคัญคือเป็นมือจารตะกรุดโทน ตะกรุดบักหลอด ไว้กันผี กันคุณไสย์ กันบ้านเรือน สารพัดกัน สารพัดแก้ ฯลฯ (แต่ท่านเล่าอย่างถ่อมตนว่า)”ข่อยบ่ได้หยั่งดอก ข่อยอยู่ซ่อยเพิ่นซือๆ ข่อยอยู่นำเพิ่นซือๆ” หลวงปู่พรมมาท่านอยู่จำพรรษาที่วัดร่องคำ 7 พรรษา จากนั้นชาวบ้านหนองพอกก็เข้าไปกราบหลวงปู่บุญมี เพื่อขอตัวท่านกลับยังบ้านเกิดเมืองนอนด้วยเหตุที่ว่าชาวบ้านกำลังจะก่อตั้งวัดขึ้นใหม่แต่ขาดกำลังหลักกลับไปพัฒนา หลวงปู่บุญมีท่านจึงอนุญาตและให้การสนับสนุนด้วยดี นับตั้งแต่ ปี พ.ศ.นั้นท่านก็กลับมาจำพรรษาที่วัดโพธาราม และพัฒนาวัดวาอารามมาอย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2549 หลวงปู่บุญมี เทพเจ้าแห่งวัดร่องคำ ท่านก็ได้ถึงแก่การมรณภาพ ก่อนมรณภาพท่านก็ได้สั่งไว้ว่า “หากเหมิดข่อยแล้ว ให้พากันไปขึ้นหลวงพ่อพรมมาเด้อ พรมมานี้ละสิซ่อยหมู่เจ้าต่อไป” นี้แสดงให้เห็นถึงว่าหลวงปู่พรมมาท่านได้สรรพวิชาต่างๆ ได้ศึกษาจริง ได้ความรู้จริง เก่งจริง รู้จริง จนเป็นที่ไว้วางใจของผู้เป็นพระอาจารย์จากรุ่นสู่รุ่น
ปัจจุบัน พระครูประทีปโพธิคุณ (หลวงปู่พรมมา ปัญญาทีโป)
อายุ 60 ปี พรรษา 37 กำลังดำเนินการก่อสร้างอุโบสถเพื่อเป็นถาวรวัตถุคู่พระพุทธศาสนา โดยมีทายก ทายิกกา คณะศรัทธาสาธุชนทั่วประเทศให้การอุปถัมภ์ในการก่อสร้าง โดยมีหลวงปู่เองเป็นกำลังหลักในการก่อสร้าง
ข้อมูลนายธนากร กลิ่นถือศิล (จารย์บิ๊ก)