พระครูรัตนสราธิคุณ หรือ หลวงพ่อทอง รัตนสาโร (15 พฤษภาคม พ.ศ. 2449 - 19 มิถุนายน พ.ศ. 2523) อดีตเจ้าคณะอำเภอสระแก้ว พระอาจารย์ผู้บุกเบิกวัดสระแก้วด้วยความลำบากตรากตรำอย่างยิ่ง ท่านได้บูรณะซ่อมแซมปฏิสังขรณ์วัดเมื่อครั้งสมัยสงครามอินโดจีนติดต่อกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาที่ข้าวยากหมากแพง ชาวบ้านยากจน มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ท่านได้ให้พระภิกษุในวัดถางไร่เพื่อปลูกข้าวและปลูกพืช จนได้ข้าวปลาอาหารเลี้ยงพระภิกษุสามเณรในวัด เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของชาวบ้าน ปัจจุบันท่านได้เกณฑ์พระภิกษุ สามเณร เด็กวัด และ ชาวบ้านร่วมกันปลูกอ้อย ปลูกข้าวโพด และพืชยืนต้นต่าง ๆ ในสวนที่นายเว่าและนางตื้อถวายแก่วัด เพื่อนำผลประโยชน์มาบำรุงวัดต่อไป
พระครูรัตนสราธิคุณ หรือ หลวงพ่อทอง รัตนสาโร ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2449 ตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถือกำเนิดที่บ้านท่ามะเดื่อ ตำบลสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี เป็นบุตรของนายบุตร และ นางแกลบ มีอาชีพทำนา ได้ศึกษาเล่าเรียนกับพระอาจารย์นวล เจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อและกับพระอาจารย์โปย ขันติโย ทางด้านภาษาขอม ภาษาไทยและเทศน์มหาชาติซึ่งท่านเทศน์ได้เสนาะเพราะพริ้งเป็นอย่างมาก เมื่ออายุครบ 21 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ณ พัทธสีมาวัดรีนิมิตร บ้านท่ามะเดื่อ ตำบลบ้านแกง อำเภอสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีพระครูศีลวิโรจน์ วัดกลางเมืองเก่า เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูบรรหารกบินทรเขต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูธรรมสันทัศกาจารย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ จากนั้นท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาฉกรรจ์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและศิลปศาสตร์ 2 พรรษา ในปี พ.ศ. 2486 สอบนักธรรมชั้นเอกได้ จึงกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดมะเดื่อ ในระยะนี้ท่านเริ่มฝึกกรรมฐานกับพระอาจารย์หมึก ที่ป่าช้าบ้านท่ามะเดื่อและบ้านลัดกะสัง ก่อนจะกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสระแก้วได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระแก้วและได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูรัตนสราธิคุณ ท่านละสังขารเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2523 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมสิริอายุได้ 74 ปี 53 พรรษา
วัดนาคกลางวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในแขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังเดิม ปัจจุบันมีพระปริยัติวโรปการ (ดำเนิน จิตฺตโสภโณ ป.ธ.๖) เป็นเจ้าอาวาส
วัดนาคกลางสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่เดิมบริเวณนี้มี 3 วัด คือ วัดนาค (ปัจจุบันคือวัดพระยาทำวรวิหาร) วัดกลาง (ปัจจุบันคือวัดนาคกลางวรวิหาร) และวัดน้อย (ปัจจุบันคือที่ตั้งโรงเรียนทวีธาภิเศก และเคหสถานที่เช่าปลูกอาศัย) วัดทั้งสามได้รับสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี มีบันทึกไว้ว่า พระสนมในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้มาสร้างพระวิหารหรือโบสถ์น้อย จนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จึงมีกรณีรวมชื่อวัด วัดนาค ให้ชื่อใหม่ว่า วัดพระยาทำ โดยเอาชื่อเดิมมารวมเข้ากับ วัดกลางและวัดน้อย ได้ชื่อใหม่ว่า วัดนาคกลาง เมื่อ พ.ศ. 2323 ในสมัยรัชกาลที่ 1 วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2357
อาคารเสนาสนะและปูชนียวัตถุ
พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ลักษณะทรงไทย หลังคาลด 3 ชั้น มุงกระเบื้อง ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ได้รับปฏิสังขรณ์ เมื่อ พ.ศ. 2504 ภายในประดิษฐานพระประธาน คือ หลวงพ่อพระพุทธประสิทธิ์ พระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 71 นิ้ว สูงจากฐานถึงพระเกศ 104 นิ้ว ลงรักปิดทอง พร้อมทั้ง พระพุทธรูปบูชาต่าง ๆ และพระอัครสาวกเบื้องขวา เบื้องซ้าย
ในอุโบสถมีภาพวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าประวัติของพระพุทธเจ้า นอกจากนั้นมีหลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ ประดิษฐานที่มณฑปจัตุรมุขเป็นพระพุทธรูปปางหนึ่งที่มีความเก่าแก่มาก ซึ่งเรียกว่า ปางฉันสมอ หรือปางถือผลสมอ นัยว่าลอยน้ำมาจากทิศเหนือ ถูกอัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ วัดนาคกลางวรวิหาร หลายร้อยปีแล้ว
พระปรางค์คู่ ตั้งอยู่ด้านหน้า 2 ข้าง พระอุโบสถ สร้างมาพร้อมอุโบสถ มีศาลาสุธรรมภาวนา (ศาลาพระเจ้าตาก) ตั้งอยู่ทางซ้ายมือของพระอุโบสถ ภายในศาลาสุธรรมภาวนา เป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธนิมิตฯ หรือหลวงพ่อทอง และพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และมีพระสีวลีมหาลาภ ปางออกจากนิโรธสมาบัติ ตั้งอยู่ทางเข้าวัดด้านซ้ายมือ
ข้อมูลวิกิพีเดีย