พระพิจิตร ถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายกรุหลายพิมพ์ กรุที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดและหายากมากมี 2 กรุ คือกรุวัดนาคกลางและกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
พระพิจิตร กรุวัดนาคกลาง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัยตอนปลาย มีขนาดเล็กมาก กว้างประมาณ 0.5 ซ.ม. สูงประมาณ 0.6 ซ.ม. เป็นพระเนื้อชินเงินที่มีผิวละเอียดและสีดำสนิท พิมพ์ทรงห้าเหลี่ยม พุทธลักษณะองค์พระประธานประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย (ปางสมาธิมีบ้าง แต่น้อยมาก) มีขอบซุ้มโดยรอบ พิมพ์ด้านหลังมีทั้งหลังตันและหลังลายผ้า องค์ที่ไม่ได้ผ่านการใช้จะปรากฏผิวปรอทให้เห็นชัดเจน
พระพิจิตร กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ มีการค้นพบพระพิมพ์ที่มีชื่อเสียงมากมายหลายพิมพ์ อาทิ พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พระพิจิตรหน้าวัง พระพิจิตรพิมพ์นาคปรก พระพิจิตรผงดำ เป็นต้น แต่ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมสูงสุดคือ "พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า"
พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า มีขนาดเล็กมากๆ ความกว้างขององค์พระประมาณ 0.6 ซ.ม.เท่านั้น เป็นพระเครื่องเนื้อชินเงิน บางองค์แก่ตะกั่ว ตามความเชื่อที่เล่าต่อกันมาว่าพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่ามีส่วนผสมของ "เหล็กน้ำพี้" เหล็กน้ำดีที่สุดของเมืองพิจิตร เป็นเหล็กที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว พิมพ์ทรงเป็นรูปกลมรีคล้ายรูปไข่ และเนื่องจากมีขนาดที่เล็กมากดูเหมือนเม็ดข้าวเม่าจึงนำมาเรียกชื่อพิมพ์ พุทธลักษณะองค์พระประทับนั่ง แสดงสมาธิ เหนืออาสนะฐานหมอน แบ่งย่อยออกเป็นหลายพิมพ์ พิมพ์ที่ถือว่าเป็นพิมพ์นิยมคือ "พิมพ์แขนกลม"
พระพิจิตร ทั้งกรุวัดนาคกลาง และกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ทุกพิมพ์ ล้วนมีพุทธคุณเป็นเลิศในด้านแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรีทั้งสิ้น เป็นที่แสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องเป็นอย่างสูงและเริ่มหาได้ยาก มากขึ้นทุกวัน
ข้อมูลtumsrivichai